these shocks (Ravaillon and van de

these shocks (Ravaillon and van de Walle 2008). A much longer and intensified tradition and experience with collectivized agriculture and local networking have helped them to cope.
Case studies in North and South of Vietnam have shown that the province level Gini coefficient of land ownership declines over time. The decrease is mainly attributable to the south where it fell from 0.58 to 0.50 and started from a much higher level of inequality than in the north, which remained constant at around 0.37. As land-tenure reform is only one major element to transforming rural society, research cannot easily provide answers on the question of how much inequality is attributable to the land factor and how much to other factors? In general, socioeconomic disparities have increased within and among rural communities, most markedly in lowland rice areas or villages close to towns where structural reforms are occurring hand in hand with economic diversification (Henin 2002). Beyond single reports on increasing landlessness in South Vietnam, there is no supportive evidence on sharply rising income or consumption inequality in rural areas (Ravaillon and van de Walle 2008).
What might be expected as a future outcome of tenure reform on distributional issues are intergenerational problems triggered by relatively high population growth, as it is often the young households consisting of just married couples having left their parents’ homestead who lack access to land (Beckman 2001). Land legislation thus cannot be separated from family law because it provide orientation in cases of inheritance.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เหล่านี้แรงกระแทก (Ravaillon และ van de Walle 2008) นานมาก และประเพณี intensified และประสบการณ์ collectivized เกษตรและเครือข่ายภายในได้ช่วยให้พวกเขากรณีศึกษาในภาคเหนือและภาคใต้ของเวียดนามได้แสดงให้เห็นว่า ค่าสัมประสิทธิ์ Gini ระดับจังหวัดของเจ้าของที่ดินปฏิเสธตลอดเวลา ลดลงเป็นส่วนใหญ่เป็นส่วนของภาคใต้ที่ลดลงจาก 0.58 0.50 และเริ่มต้นจากระดับสูงของความไม่เท่าเทียมกันมากกว่าในภาคเหนือ ที่อยู่คงที่ที่รอบ 0.37 เป็นการปฏิรูปที่ดินดำรงตำแหน่งอยู่เพียงหนึ่งองค์ประกอบสำคัญสำหรับการเปลี่ยนแปลงสังคมชนบท วิจัยไม่สามารถตอบคำถามที่ไม่เท่าเทียมกันมากแบ่งปันปัจจัยที่ดิน และจำนวนปัจจัยอื่น ๆ ทั่วไป socioeconomic ความแตกต่างได้เพิ่มขึ้นภายใน และ ระหว่าง ชุมชนชนบท ในหมู่บ้านใกล้เมืองที่ปฏิรูปโครงสร้างจะเกิดขึ้นมือ ด้วยความหลากหลายทางเศรษฐกิจ (Henin 2002) หรือพื้นที่ลุ่มข้าวอย่างเด่นชัดมากที่สุด นอกเหนือจากรายงานเดียวเพิ่ม landlessness ในประเทศเวียดนาม มีไม่มีหลักฐานสนับสนุนรายได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วหรือความไม่เท่าเทียมกันของปริมาณการใช้ในพื้นที่ชนบท (Ravaillon และ van de Walle 2008)อะไรอาจจะคาดหวังเป็นผลในอนาคตของวาระการปฏิรูปขึ้นในประเด็นเป็นปัญหา intergenerational ที่ทริกเกอร์ โดยการเติบโตของประชากรค่อนข้างสูง เป็นมันมักจะเป็นครอบครัวหนุ่มประกอบด้วยคู่สมรสเพียงมีซ้ายโฮมสเตดคนที่ขาดการเข้าถึงที่ดิน (Beckman 2001) กฎหมายที่ดินจึงไม่สามารถแยกออกจากกฎหมายครอบครัวเนื่องจากมีแนวในกรณีของการสืบทอด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แรงกระแทกเหล่านี้ (Ravaillon และแวนเดอ Walle 2008) ประเพณีและประสบการณ์กับการเกษตร collectivized และระบบเครือข่ายท้องถิ่นมากอีกต่อไปและทวีความรุนแรงมากได้ช่วยให้พวกเขาที่จะรับมือ.
กรณีศึกษาในภาคเหนือและภาคใต้ของเวียดนามได้แสดงให้เห็นว่าในระดับจังหวัดสัมประสิทธิ์จีนีของการลดลงเจ้าของที่ดินเมื่อเวลาผ่านไป ลดลงเป็นส่วนใหญ่เนื่องมาจากทางทิศใต้ที่มันลดลง 0.58-0.50 และเริ่มต้นจากระดับที่สูงมากของความไม่เท่าเทียมกันมากกว่าในภาคเหนือซึ่งคงที่ที่ประมาณ 0.37 การปฏิรูปที่ดินดำรงตำแหน่งเป็นเพียงองค์ประกอบหนึ่งที่สำคัญในการเปลี่ยนสังคมชนบทวิจัยไม่สามารถให้คำตอบกับคำถามของความไม่เท่าเทียมกันเท่าไหร่คือส่วนที่เป็นปัจจัยที่ดินและวิธีการมากที่ปัจจัยอื่น ๆ ? โดยทั่วไปความไม่เสมอภาคทางเศรษฐกิจและสังคมได้เพิ่มขึ้นภายในและระหว่างชุมชนในชนบทส่วนใหญ่อย่างเห็นได้ชัดในพื้นที่ลุ่มข้าวหรือหมู่บ้านใกล้กับเมืองที่การปฏิรูปโครงสร้างที่เกิดขึ้นจับมือกับการกระจายความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ (Henin 2002) นอกเหนือจากรายงานการเดียวในการเพิ่มการไร้ที่ดินในเวียดนามใต้ไม่มีหลักฐานสนับสนุนเกี่ยวกับรายได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วหรือความไม่เท่าเทียมกันการบริโภคในพื้นที่ชนบท (Ravaillon และแวนเดอ Walle 2008).
สิ่งที่อาจจะคาดว่าเป็นผลในอนาคตของการปฏิรูปการดำรงตำแหน่งในประเด็นที่กระจายอยู่แย ปัญหาที่ถูกกระตุ้นโดยการเติบโตของประชากรค่อนข้างสูงซึ่งเป็นที่ตั้งรกรากมักจะเป็นผู้ประกอบการหนุ่มประกอบด้วยคู่รักเพิ่งแต่งงานหลังจากที่ออกจากพ่อแม่ของพวกเขาที่ขาดการเข้าถึงที่ดิน (Beckman 2001) กฎหมายที่ดินจึงไม่สามารถแยกออกจากกฎหมายครอบครัวเพราะมันช่วยให้การวางแนวทางในกรณีที่มีการถ่ายทอดทางพันธุกรรม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

กระแทกเหล่านี้ ( และ ravaillon แวนเดอวอลุ 2008 ) เป็นยาวมากและรุนแรงประเพณีและประสบการณ์กับ collectivized เกษตรและเครือข่ายท้องถิ่นจะช่วยให้พวกเขาที่จะรับมือกรณีศึกษาในภาคเหนือและภาคใต้ของเวียดนามได้แสดงให้เห็นว่าระดับจังหวัด ( Gini coefficient ของความเป็นเจ้าของที่ดินลดลงเมื่อเวลาผ่านไป โดยส่วนใหญ่เนื่องมาจากทางใต้ที่ลดลงจาก 0.58 0.50 และเริ่มต้นจากระดับที่สูงมากของความไม่เท่าเทียมกันมากกว่าในภาคเหนือ ซึ่งคงที่ ที่ประมาณ 0.37 . ตามที่การปฏิรูปการถือครองที่ดินเป็นเพียงองค์ประกอบหนึ่งที่สำคัญที่จะเปลี่ยนสังคมชนบท การวิจัย ไม่สามารถให้คำตอบในคำถามของความไม่เท่าเทียมกันเท่าไหร่เนื่องมาจากปัจจัยแผ่นดินและวิธีการ ปัจจัยอื่น ๆ มาก โดยทั่วไปสังคมความแตกต่างได้เพิ่มขึ้นในชุมชนชนบทมากที่สุดอย่างเด่นชัดในข้าวนาสวน พื้นที่หรือหมู่บ้านใกล้เมืองที่การปฏิรูปโครงสร้างที่เกิดขึ้นในมือกับความหลากหลายทางเศรษฐกิจ ( เอแนง 2002 ) นอกเหนือจากรายงานเดียวในการเพิ่ม landlessness ในเวียดนามตอนใต้ ไม่มีหลักฐานสนับสนุนรายได้หรือความไม่เท่าเทียมกัน การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในชนบท ( ravaillon และ แวนเดอวอลุ 2008 )สิ่งที่อาจจะคาดว่าจะเป็นอนาคต ผลของการปฏิรูปการถือครองในประเด็นการกระจายอยู่ระหว่างรุ่นวัย ปัญหาเกิดจากการเติบโตของประชากรค่อนข้างสูง มันมักจะเป็นเด็กครอบครัวประกอบด้วย แต่งงานกับหนุ่มที่มีซ้ายของบิดามารดาตั้งรกรากที่ขาดการเข้าถึงที่ดิน ( Beckman 2001 ) กฎหมายที่ดินจึงไม่สามารถแยกออกจากกฎหมายครอบครัว เพราะมันมีการปฐมนิเทศในกรณีของการรับมรดก