Strategic Information System Planni

Strategic Information System Planning has been a very
critical and important management issues for companies to gain
competitive advantages. This research investigated the current
situational analysis of Strategic Information System Planning in
the context of a Malaysian SME. A single case study strategy is
employed in this research to allow an in-depth investigation on the
relationships which contribute the subject understanding. Ward &
Peppard IS/IT strategic model is adopted as a guideline to conduct
situational analysis of the case enterprise. Value chain analysis and
Porter Five Forces Model are used as the tools to evaluate the
phases in situational analysis. Discussion on the current situational
analysis of the case enterprise are divided into three section which
are the internal business environment, the external business
environment and the internal and external IS/IT environment of the
case enterprise. Future research can be conducted in the other
aspect of strategic management of Strategic Information System
Planning such as the strategic choice and the strategic
implementations

INTRODUCTION
Organizations are increasing rely on information
technology (IT) and information systems (IS) as the platform
for competitive advantage [1]. A study by [2] highlighted the
role of IT and IS in supporting the general business strategy
of products or market innovation. The strategic significance
of IT and IS which eventually increase the complexity of
managing IT and IS necessitates organizations to ensure the
IT and IS effectiveness through policies on standards,
privacy and data protection which are all interrelated [3]. The
strategic importance of IT and IS leads to the critical issue of
strategic information system planning (SISP). SISP is the
analysis of information and processes of an organization
which use the business information models to evaluate the
risks and current situations to define the action plan or
implementation that can be used for strategic direction of the
company [4]. Reference [5] summarized SISP as the whole
process in creating organization’s vision and goals with the
strategic use of IT and IS to achieve the maximum benefits
from the resources and to reduce the risk.
Small and Medium Enterprises in Malaysia has
contributed to economic development and Gross Domestic
Products [6]. SMEs were mainly concentrated in the Central
Region, accounting for 37.1 percent. Johor with 10.4
percent, Perak 7.3 percent while Perlis 1.1 percent [7]. An
enterprise is considered as an SME based on annual sales
turnover or number of full-time employees [8]. In the
context of Malaysia, an enterprise is categorized under SME
if the number of full-time employees are not more than 150
or the annual sales turnover not exceeding RM 25 million
for manufacturing, manufacturing-related services and agrobased
industries. However for the services, primary
agriculture and information & communication technology
(ICT) industries, an SME is an enterprise with not more
than 50 full-time employees or with annual sales turnover
not exceeding RM 5 million. Although earlier study has
revealed that Malaysian’s SMEs are incapable to stand the
changes in technology and the demand of global market [9],
recent study have shown the readiness of SME in adopting
e-business, e-commerce and digital technology [10].
Studies have shown that small businesses are lagging in
their Strategic information System Planning [11]. Most of
the small firms implement short term planning or do not
have business plan [12], and is not widespread and do not
fulfill the organisation’s planning objectives [13].
Therefore, it is necessary to conduct a research to analyze
the current situational of Strategic Information System
Planning in the context of a Malaysian SME.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การวางแผนเชิงกลยุทธ์ระบบสารสนเทศได้รับการจัดการกับปัญหามาก
ที่สำคัญและมีความสำคัญสำหรับ บริษัท ที่จะได้รับประโยชน์จากการแข่งขัน
งานวิจัยนี้เป็นการศึกษาในปัจจุบัน
วิเคราะห์สถานการณ์ของการวางแผนเชิงกลยุทธ์ระบบสารสนเทศในบริบทของ
sme มาเลเซีย กรณีศึกษากลยุทธ์เดียว
ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เพื่อให้การตรวจสอบในเชิงลึกเกี่ยว
ความสัมพันธ์ที่มีส่วนร่วมในการทำความเข้าใจเรื่อง วอร์ด&
peppard ถูก / มันแบบเชิงกลยุทธ์ที่นำมาใช้เป็นแนวทางในการดำเนินการวิเคราะห์สถานการณ์
ขององค์กรในกรณีที่ การวิเคราะห์ห่วงโซ่คุณค่าและเฝ้า
ห้ากองกำลังรูปแบบถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการประเมิน
ขั้นตอนในการวิเคราะห์สถานการณ์ การอภิปรายในสถานการณ์ปัจจุบัน
การวิเคราะห์ขององค์กรในกรณีที่จะมีการแบ่งออกเป็นสามส่วนซึ่งเป็นสภาพแวดล้อม
ภายในธุรกิจธุรกิจ
สภาพแวดล้อมภายนอกและสภาพแวดล้อมภายในและภายนอก / มัน
กรณีองค์กร การวิจัยในอนาคตสามารถดำเนินการในอื่น ๆ
แง่มุมของการจัดการเชิงกลยุทธ์ของระบบสารสนเทศเชิงกลยุทธ์
เช่นการวางแผนเชิงกลยุทธ์และทางเลือกในการใช้งานเชิงกลยุทธ์



แนะนำองค์กรที่เพิ่มขึ้นพึ่งพาข้อมูล
เทคโนโลยี (มัน) และระบบสารสนเทศ (เป็น) เป็นแพลตฟอร์ม
เพื่อเปรียบในการแข่งขัน [1] การศึกษาโดย [2] เน้น
บทบาทของมันและเป็นในการสนับสนุนกลยุทธ์ทางธุรกิจทั่วไป
ของผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมในตลาด ความสำคัญเชิงกลยุทธ์
มันและเป็นที่ในที่สุดก็เพิ่มความซับซ้อนของ
จัดการมันและมีความจำเป็นเพื่อให้แน่ใจว่าองค์กร
มันและประสิทธิผลผ่านนโยบายเกี่ยวกับมาตรฐาน
ความเป็นส่วนตัวและการป้องกันข้อมูลที่มีความสัมพันธ์ทั้งหมด [3]
ความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของมันและนำไปสู่​​ปัญหาที่สำคัญของการวางแผนเชิงกลยุทธ์
ระบบสารสนเทศ (sisp) sisp เป็น
การวิเคราะห์ข้อมูลและกระบวนการขององค์กร
ซึ่งใช้รูปแบบข้อมูลทางธุรกิจในการประเมินความเสี่ยงและ
สถานการณ์ปัจจุบันเพื่อกำหนดแผนปฏิบัติการหรือ
การใช้งานที่สามารถใช้สำหรับทิศทางกลยุทธ์ของ บริษัท
[4] อ้างอิงได้ [5] สรุป sisp เป็นทั้ง
กระบวนการในการสร้างวิสัยทัศน์ขององค์กรและเป้าหมายที่มีการใช้กลยุทธ์
ของมันและเพื่อให้บรรลุประโยชน์สูงสุด
จากทรัพยากรและเพื่อลดความเสี่ยง.
องค์กรขนาดเล็กและขนาดกลางในประเทศมาเลเซียมี
ส่วนร่วมในการพัฒนาเศรษฐกิจและผลิตภัณฑ์ในประเทศรวม
[6] SMEs มีความเข้มข้นส่วนใหญ่ในภาคกลาง
คิดเป็นร้อยละ 37.1 ยะโฮร์ด้วย
10.4 ร้อยละ 7.3 ร้อยละเประปะลิสในขณะที่ร้อยละ 1.1 [7]
องค์กรถือเป็น sme ข​​ึ้นอยู่กับยอดขายรายปี
ผลประกอบการหรือจำนวนพนักงานเต็มเวลา [8] ใน
บริบทของมาเลเซียองค์กรเป็นหมวดหมู่ภายใต้ sme
ถ้าจำนวนพนักงานเต็มเวลาไม่เกิน 150
หรือยอดขายประจำปีไม่เกิน 25 ล้าน Rm
สำหรับบริการการผลิตที่เกี่ยวข้องกับการผลิตและการ agrobased
อุตสาหกรรม แต่สำหรับบริการหลัก
การเกษตรและข้อมูล&เทคโนโลยีการสื่อสาร
(ICT) อุตสาหกรรม sme เป็นองค์กรที่มีไม่เกิน
กว่า 50 พนักงานเต็มเวลาหรือมีผลประกอบการยอดขายต่อปีไม่เกิน
Rm 5 ล้าน แม้ว่าการศึกษาก่อนหน้านี้ได้
เปิดเผยว่า SMEs มาเลเซียมีความสามารถที่จะยืน
การเปลี่ยนแปลงในด้านเทคโนโลยีและความต้องการของตลาดทั่วโลก [9]
การศึกษาล่าสุดได้แสดงให้เห็นความพร้อมของ sme ในการนำ
e ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีดิจิตอล [10].
การศึกษาได้แสดงให้เห็นว่าธุรกิจขนาดเล็กจะถูกปกคลุมด้วยวัตถุฉนวนใน
การวางแผนระบบสารสนเทศเชิงกลยุทธ์ของพวกเขา [11] ส่วนใหญ่ของ
บริษัท ขนาดเล็กใช้การวางแผนระยะสั้นหรือไม่
ได้จัดทำแผนธุรกิจ [12] และยังไม่แพร่หลายและไม่
ตอบสนองวัตถุประสงค์ของการวางแผนขององค์กร [13].
ดังนั้นจึงมีความจำเป็นต้องดำเนินการวิจัยในการวิเคราะห์
สถานการณ์ปัจจุบันของระบบสารสนเทศเชิงกลยุทธ์
วางแผนในบริบทของ sme มาเลเซีย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ข้อมูลเชิงกลยุทธ์วางระบบแล้วเป็นมาก
ปัญหาการจัดการที่สำคัญ และสำคัญสำหรับบริษัทที่จะเข้า
เปรียบในการแข่งขัน งานวิจัยนี้สอบสวนปัจจุบัน
วิเคราะห์ข้อมูลระบบพันธกิจในเมืองไทย
บริบทของ SME ที่มาเลเซีย กลยุทธ์การศึกษากรณีเดียวคือ
จ้างในงานวิจัยนี้เพื่อให้การสอบสวนเชิงลึกในการ
ความสัมพันธ์ที่สนับสนุนเรื่องการทำความเข้าใจ วอร์ด&
Peppard เป็น / IT เชิงกลยุทธ์รุ่นจะนำมาใช้เป็นแนวทางการดำเนิน
วิเคราะห์ในสถานการณ์ขององค์กรกรณี ค่าวิเคราะห์โซ่ และ
กระเป๋า 5 กองกำลังรูปแบบจะใช้เป็นเครื่องมือเพื่อประเมินการ
เฟสในการวิเคราะห์การเมืองไทย สนทนาในสถานการณ์ปัจจุบัน
วิเคราะห์กรณีองค์กรแบ่งออกเป็นสามส่วนซึ่ง
มีสภาพแวดล้อมภายในบริษัท ธุรกิจภายนอก
IS ภายใน และภายนอกและสภาพแวดล้อม / สภาพแวดล้อม IT
กรณีองค์กร สามารถดำเนินการวิจัยในอนาคตในอีก
ด้านการจัดการเชิงกลยุทธ์ของระบบสารสนเทศเชิงกลยุทธ์
วางแผนทางกลยุทธ์และกลยุทธ์การ
ใช้งาน

แนะนำ
องค์กรกำลังเพิ่มพึ่งข้อมูล
เทคโนโลยี (IT) และระบบสารสนเทศ (IS) เป็นแพลตฟอร์ม
สำหรับเปรียบ [1] การศึกษา [2] โดยเน้น
บทบาทของ IS และสนับสนุนกลยุทธ์ทางธุรกิจทั่วไป
ผลิตภัณฑ์หรือนวัตกรรมตลาด ความสำคัญเชิงกลยุทธ์
มันและ IS ซึ่งก็เพิ่มความซับซ้อนของ
จัดการมันและ IS necessitates องค์กรให้การ
ประสิทธิภาพและ IS ผ่านนโยบายบนมาตรฐาน,
ป้องกันความเป็นส่วนตัวและข้อมูลที่มีสัมพันธ์กัน [3] ใน
ความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของ IS และนำไปสู่ปัญหาสำคัญของ
ข้อมูลเชิงกลยุทธ์ (SISP) การวางแผนระบบการ SISP เป็นการ
วิเคราะห์ข้อมูลและกระบวนการขององค์กร
ซึ่งใช้แบบจำลองข้อมูลทางธุรกิจเพื่อประเมิน
ความเสี่ยงและสถานการณ์ปัจจุบันเพื่อกำหนดแผนการดำเนิน หรือ
งานที่ใช้สำหรับทิศทางเชิงกลยุทธ์ของการ
บริษัท [4] SISP เป็นการสรุปอ้างอิง [5]
กระบวนการในการสร้างวิสัยทัศน์ขององค์กรและเป้าหมายที่มีการ
คือบรรลุประโยชน์สูงสุดและใช้กลยุทธ์
จากทรัพยากร และลดความเสี่ยง
ขนาดเล็ก และวิสาหกิจขนาดกลางในประเทศมาเลเซียมี
ส่วนการพัฒนาเศรษฐกิจภายในประเทศรวม
ผลิตภัณฑ์ [6] Sme เข้มข้นส่วนใหญ่ในใจกลาง
ภูมิภาค บัญชีสำหรับร้อยละ 37.1 ยะโฮร์กับ 10.4
เปอร์เซ็นต์ เปรัค 7.3 เปอร์เซ็นต์ในขณะที่เปอร์ลิส 1.1 เปอร์เซ็นต์ [7] การ
องค์กรถือเป็น SME ที่ตามประจำปีขาย
หมุนเวียนหรือจำนวนพนักงานเต็มเวลา [8] ในการ
บริบทของมาเลเซีย องค์กรจะจัดประเภทภายใต้ SME
ถ้าจำนวนของพนักงานเต็มเวลาไม่มากกว่า 150
หรือยอดขายต่อปีไม่เกิน 25 ล้าน RM
สำหรับการผลิต ที่เกี่ยวข้อง กับการผลิตบริการและ agrobased
อุตสาหกรรม อย่างไรก็ตามสำหรับการบริการ หลัก
เกษตรและข้อมูล&สื่อสาร technology
(ICT) อุตสาหกรรม SME เป็นองค์กรที่ไม่มี
กว่า 50 พนักงานเต็มเวลา หรือหมุนเวียนประจำปีขาย
ไม่เกิน RM 5 ล้าน แม้ว่าก่อนหน้านี้ศึกษาได้
เปิดเผยว่า SMEs ของมาเลเซียไม่สามารถยืน
เปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีและความต้องการของตลาดโลก [9],
การศึกษาล่าสุดได้แสดงความพร้อมของ SME ในการนำ
e-ธุรกิจ อีคอมเมิร์ซ และดิจิตอลเทคโนโลยี [10] .
ศึกษาแสดงให้เห็นว่า ธุรกิจขนาดเล็กจะ lagging ใน
ข้อมูลเชิงกลยุทธ์ของการวางแผนระบบ [11] ส่วนใหญ่ของ
บริษัทขนาดเล็กที่ใช้วางแผนระยะสั้น หรือไม่
มีแผนธุรกิจ [12], และไม่แพร่หลาย และไม่
ตอบสนองวัตถุประสงค์ขององค์การวางแผน [13] .
ดังนั้น จึงจำเป็นต้องดำเนินการวิจัยเพื่อวิเคราะห์
ปัจจุบันจัดการระบบสารสนเทศเชิงกลยุทธ์
วางในบริบทของ SME ที่มาเลเซีย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ทางด้านยุทธศาสตร์การวางแผนระบบข้อมูลเป็นอย่างมากมีการ
ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาการจัดการที่มีความสำคัญและความสำคัญของบริษัทเพื่อเพิ่ม
ความได้เปรียบในการแข่งขัน การวิจัยนี้ได้รับการค้นคว้าการวิเคราะห์สถานการณ์ว่าปัจจุบัน
ซึ่งจะช่วยให้ระบบข้อมูลของทางยุทธศาสตร์การวางแผนในบริบท
ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าของมาเลเซียที่ ยุทธศาสตร์การศึกษากรณีเดียวคือ
ซึ่งจะช่วยในการวิจัยนี้จะทำให้การสืบสวนสอบสวนในเชิงลึกที่
ความสัมพันธ์อันดีที่มีส่วนช่วยสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องนี้. คุก&
peppard คือรุ่นทางยุทธศาสตร์/มันคือนำมาใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติ
ซึ่งจะช่วยในการวิเคราะห์สถานการณ์ว่ากรณีที่องค์กร รุ่น 5 กองกำลัง
:บริการพนักงานยกกระเป๋าและการวิเคราะห์ห่วงโซ่การสร้างมูลค่าได้ใช้เป็นเครื่องมือในการประเมิน
ระยะในการวิเคราะห์สถานการณ์ว่า การ อภิปราย ในปัจจุบันสถานการณ์ว่าจะตอบแทน
การวิเคราะห์ขององค์กรกรณีที่ถูกแบ่งออกเป็นสามส่วนซึ่ง
มี สภาพแวดล้อม ทางธุรกิจเป็นการ ภายใน ที่ ภายนอก ธุรกิจ
สิ่งแวดล้อมและ ภายใน และ ภายนอก ที่เป็น/ สภาพแวดล้อม ด้าน IT ขององค์กร
ซึ่งจะช่วยกรณีที่ การวิจัยในอนาคตจะสามารถดำเนินการในลักษณะอื่นๆ
ซึ่งจะช่วยให้การจัดการทางยุทธศาสตร์ของทางยุทธศาสตร์ข้อมูลระบบ
ซึ่งจะช่วยการวางแผนเช่นทางเลือกเชิงยุทธศาสตร์และกลยุทธ์
การใช้งาน ที่

การแนะนำ
องค์กรต่างๆมีเพิ่มขึ้นจำเป็นต้องพึ่งพาข้อมูล
technology (มัน)และข้อมูลระบบ(มี)เป็นแพลตฟอร์มที่
ซึ่งจะช่วยให้ได้เปรียบในการแข่งขัน[ 1 ] การศึกษาของ[ 2 ]ที่ถูกไฮไลท์ให้เด่นชัดขึ้น
บทบาทหน้าที่ของโรงแรมและอยู่ในที่สนับสนุนกลยุทธ์ทางธุรกิจโดยทั่วไป
ซึ่งจะช่วยในการพัฒนานวัตกรรมตลาดหรือ ผลิตภัณฑ์ ความสำคัญทางยุทธศาสตร์
ของมันและมีซึ่งในที่สุดเพิ่มความซับซ้อนของ
การจัดการและเป็นองค์กรเพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่าโหมดสแตนบายด์
ซึ่งจะช่วยได้และมี ประสิทธิภาพ ผ่านการกำหนดนโยบายในการตรวจสอบมาตรฐานการป้องกัน
ความเป็นส่วนตัวและข้อมูลที่มีความสัมพันธ์ในทิศทางเดียวกันทั้งหมด[ 3 ]. ความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ที่
ซึ่งจะช่วยในเรื่องที่เกี่ยวกับไอทีและเป็นทางนำไปสู่ปัญหาที่สำคัญของ
ซึ่งจะช่วยการวางแผนระบบข้อมูลเชิงยุทธศาสตร์( sisp ) sisp
ซึ่งจะช่วยเป็นการวิเคราะห์ของกระบวนการและข้อมูลขององค์กร
รุ่นที่ใช้ข้อมูลทางธุรกิจในการประเมิน
ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงและปัจจุบันสถานการณ์ในการกำหนดแผนการดำเนินการหรือ
ซึ่งจะช่วยการนำไปใช้งานที่สามารถใช้สำหรับกำหนดทิศทางและเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ของบริษัท
ซึ่งจะช่วยให้[ 4 ] คู่มืออ้างอิงฉบับย่อ[ 5 ]ได้สรุป sisp ทั้งหมดที่
ซึ่งจะช่วยในการสร้างวิสัยทัศน์ขององค์กรและเป้าหมายการใช้กลยุทธ์ที่
ซึ่งจะช่วยในเรื่องที่เกี่ยวกับไอทีและการมีสิทธิประโยชน์สูงสุด
จากทรัพยากรที่และเพื่อลดความเสี่ยงที่.
บริษัทขนาดกลางและขนาดเล็กในประเทศมาเลเซียมี
ซึ่งจะช่วยทำให้การพัฒนาเศรษฐกิจมวลรวมในประเทศและ
ผลิตภัณฑ์ [ 6 ] ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเป็นกระจุกตัวอยู่ในพื้นที่ส่วนกลาง
ซึ่งจะช่วยให้คิดเป็นสัดส่วน 37.1% เป็นส่วนใหญ่ พร้อมด้วย Johor Bahru ร้อยละ 10.4
รัฐเประร้อยละ 7.3 ในขณะที่ปะลิส 1.1% [ 7 ].
ขององค์กรที่ได้รับการพิจารณาให้เป็นธนาคารที่ใช้ในการขาย
ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้หรือหมายเลขของแบบเต็มเวลาพนักงาน[ 8 ] ใน
ตามมาตรฐานบริบทของประเทศมาเลเซียขององค์กรที่มีแบ่งออกตามหลักเกณฑ์
ซึ่งจะช่วยหากมีจำนวนพนักงานแบบเต็มเวลาไม่ได้มากกว่า 150
หรือรายได้จากยอดขายต่อปีที่ไม่เกิน RM 25 ล้าน
ซึ่งจะช่วยให้บริการการผลิตที่เกี่ยวข้องกับการผลิตและ agrobased
อุตสาหกรรม แต่ถึงอย่างไรก็ตามสำหรับบริการที่อุตสาหกรรม
( ICT )เทคโนโลยี
การเกษตรและข้อมูลการสื่อสารหลัก& SMEs ที่มีองค์กรที่ไม่มี
ตามมาตรฐานมากขึ้นกว่า 50 คนแบบเต็มเวลาหรือมีรายได้จากการจำหน่าย
ไม่เกิน RM 5 ล้านบาท แม้ว่าการศึกษาก่อนหน้ามี
ซึ่งจะช่วยเปิดเผยว่าชาวมาเลเซียของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมมีไม่สามารถขยับเขยื้อนไปยืน
ซึ่งจะช่วยให้การเปลี่ยนแปลงในด้านเทคโนโลยีและความต้องการของตลาดโลก[ 9 ],
การศึกษาวิจัยเมื่อไม่นานมานี้ได้แสดงให้เห็นความพร้อมของธุรกิจขนาดกลางและขนาดในขั้นต้น
ซึ่งจะช่วย e - Business และอี - คอมเมิร์ซเทคโนโลยีดิจิตอล[ 10 ].
มีการศึกษาที่แสดงให้เห็นว่าธุรกิจขนาดเล็กเป็นไปอย่างใน
ข้อมูลระบบการวางแผนกลยุทธ์[ 11 ]ของพวกเขา.
มากที่สุดของบริษัทขนาดเล็กที่ใช้การวางแผนระยะสั้นหรือไม่
มีแผนธุรกิจ[ 12 ]และไม่ได้อย่างกว้างขวางและไม่
ซึ่งจะช่วยทำให้ขององค์กรที่วัตถุประสงค์การวางแผน[ 13 ].
ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่จะต้องทำการวิจัยที่จะวิเคราะห์สถานการณ์ว่าปัจจุบัน
ซึ่งจะช่วยให้ข้อมูลทางด้านยุทธศาสตร์การวางแผนระบบ
ซึ่งจะช่วยในบริบทของธุรกิจขนาดกลางและขนาดที่มาเลเซีย