Ego network Characteristics. Next w

Ego network Characteristics. Next we present differences across the two classes of users based on the egocentric network measures, as summarized in Table 4. We notice lower numbers of followers and followers for the depression class—possibly showing that these users exhibit reduced desire to socialize or tendency to consume external information and remain connected with others. They also show reduced reciprocity to others’ communications, indicating decreased desire for social interaction. The lower value of the graph density of their ego networks, and the smaller sizes of their 2-hop neighborhoods shows that the interactions per individual in their networks are limited, compared to the users in the other class. The prestige ratio, however, seems to be close to unity, compared to the other class, indicating that depressed individuals and their neighbors typically have similar numbers of neighbors. Near unity prestige ratio also makes us conjecture that the neighbors of users in the depressed class could be ones they trust and connect with on psychological issues, or through their experiences. In fact, we know from (Kawachi & Berkman, 2001) that depressed individuals are known to cluster together. However given the limited availability of data in our study, we cannot confirm this finding—however constitutes an interesting topic for future research.
In conjunction with the higher value of clustering coefficient, embedded, and number of ego components, we conjecture that these observations indicate that depression sufferers typically belong to high connectivity close-knit networks. This may be an indication that when depressed individuals turn to social media, they intend to leverage the tool to build a closed network of trusted people, with whom they are comfortable sharing their psychological experiences, seeking out social support, or gathering information regarding their treatment and medication.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อาตมาเครือข่ายลักษณะ ถัดไป เรานำเสนอความแตกต่างระหว่าง 2 ชนชั้นของผู้ใช้ตามมาตรการเครือข่าย egocentric ตามที่สรุปไว้ในตาราง 4 เราสังเกตตัวเลขล่างของลูกศิษย์และลูกศิษย์ในระดับภาวะซึมเศร้าซึ่งอาจแสดงว่า ผู้ใช้เหล่านี้แสดงราคาลดต้องเข้าสังคม หรือแนวโน้มที่จะใช้ข้อมูลภายนอก และยังคงเชื่อมต่อกับผู้อื่น ยังแสดง reciprocity ลดให้ของคนอื่นสื่อสาร ระบุลดลงความต้องการในสังคม ค่าล่างของกราฟความหนาแน่นของเครือข่ายอาตมา และขนาดเล็กของตนละแวกใกล้เคียง 2-hop แสดงโต้ตอบต่อบุคคลในเครือข่ายที่จำกัด เปรียบเทียบกับผู้ใช้ในระดับชั้นอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนเพรสทีจ น่าไปกับความสามัคคี การเปรียบเทียบอื่น ๆ ชั้น บ่งชี้ว่า บุคคลเรื่องราวและบ้านของพวกเขาโดยทั่วไปมีจำนวนบ้านคล้าย ใกล้กับยูนิตี้เพรสทีจอัตราส่วน ยังทำให้เรานึกว่า บ้านของผู้ใช้ในระดับต่ำอาจจะคนพวกเขาเชื่อถือ และเชื่อมต่อที่มีปัญหาทางจิตใจ หรือ ผ่านประสบการณ์ของพวกเขา ในความเป็นจริง เรารู้จาก (Kawachi Berkman, 2001) ว่า บุคคลที่ตกทราบว่าคลัสเตอร์ร่วมกัน ให้พร้อมใช้งานที่จำกัดของข้อมูลในการศึกษาของเรา อย่างไรก็ตาม เราไม่สามารถยืนยันการค้นพบนี้ซึ่งอย่างไรก็ตาม ถือเป็นหัวข้อที่น่าสนใจสำหรับการวิจัยในอนาคตได้In conjunction with the higher value of clustering coefficient, embedded, and number of ego components, we conjecture that these observations indicate that depression sufferers typically belong to high connectivity close-knit networks. This may be an indication that when depressed individuals turn to social media, they intend to leverage the tool to build a closed network of trusted people, with whom they are comfortable sharing their psychological experiences, seeking out social support, or gathering information regarding their treatment and medication.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ลักษณะเครือข่ายอาตมา ต่อไปเราจะนำเสนอความแตกต่างของทั้งสองชั้นของผู้ใช้ตามมาตรการเครือข่ายเห็นแก่ตัวเป็นสรุปในตารางที่ 4 เราสังเกตเห็นตัวเลขที่ลดลงของผู้ติดตามและผู้ติดตามสำหรับภาวะซึมเศร้าระดับอาจจะแสดงให้เห็นว่าผู้ใช้เหล่านี้แสดงความปรารถนาที่จะเข้าสังคมลดลงหรือมีแนวโน้มที่จะบริโภค ข้อมูลภายนอกและยังคงเชื่อมต่อกับคนอื่น ๆ พวกเขายังแสดงให้เห็นความสัมพันธ์ซึ่งกันและกันเพื่อการสื่อสารที่ลดลงของผู้อื่นแสดงให้เห็นความปรารถนาที่ลดลงสำหรับการปฏิสัมพันธ์ทางสังคม มูลค่าที่ลดลงของความหนาแน่นของกราฟของเครือข่ายอัตตาของพวกเขาและขนาดที่มีขนาดเล็กในละแวกใกล้เคียง 2 ปฮอปของพวกเขาแสดงให้เห็นว่าการมีปฏิสัมพันธ์ต่อของแต่ละบุคคลในเครือข่ายของพวกเขาจะถูก จำกัด เมื่อเทียบกับผู้ใช้ในระดับอื่น ๆ อัตราส่วนศักดิ์ศรี แต่ดูเหมือนว่าจะใกล้เคียงกับความเป็นเอกภาพเมื่อเทียบกับระดับอื่น ๆ ที่แสดงให้เห็นว่าบุคคลที่มีความสุขและเพื่อนบ้านของพวกเขามักจะมีตัวเลขที่คล้ายกันของประเทศเพื่อนบ้าน ใกล้อัตราส่วนศักดิ์ศรีความสามัคคีนอกจากนี้ยังทำให้เราคาดเดาว่าเพื่อนบ้านของผู้ใช้ในระดับความสุขอาจจะเป็นคนที่พวกเขาไว้วางใจและเชื่อมต่อกับในปัญหาทางด้านจิตใจหรือผ่านประสบการณ์ของพวกเขา ในความเป็นจริงที่เรารู้จาก (Kawachi และ Berkman, 2001) ว่าบุคคลที่มีความสุขเป็นที่รู้จักกันเป็นกลุ่มด้วยกัน แต่ที่ได้รับมีจำนวน จำกัด ของข้อมูลในการศึกษาของเราที่เราไม่สามารถยืนยันการค้นพบ-แต่ถือว่าเป็นหัวข้อที่น่าสนใจสำหรับการวิจัยในอนาคต.
ร่วมกับมูลค่าที่สูงขึ้นของค่าสัมประสิทธิ์การจัดกลุ่มที่ฝังตัวและจำนวนขององค์ประกอบอัตตาเราคาดว่าการสังเกตเหล่านี้บ่งชี้ว่า ที่ประสบภัยภาวะซึมเศร้ามักจะเป็นเครือข่ายที่เชื่อมต่อระดับสูงที่มีความแน่นแฟ้น นี้อาจจะเป็นข้อบ่งชี้ว่าเมื่อบุคคลมีความสุขหันไปสื่อสังคมที่พวกเขาตั้งใจที่จะใช้ประโยชน์จากเครื่องมือในการสร้างเครือข่ายที่ปิดของคนที่เชื่อถือได้กับคนที่พวกเขามีความสะดวกสบายแบ่งปันประสบการณ์ทางด้านจิตใจของพวกเขาแสวงหาการสนับสนุนทางสังคมหรือการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการรักษาของพวกเขา และยารักษาโรค

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ลักษณะเครือข่ายอัตตา ต่อไปเราจะนำเสนอความแตกต่างในทั้งสองประเภทของผู้ใช้ตามมาตรการเครือข่ายเห็นแก่ตัว ตามที่สรุปไว้ในตารางที่ 4 เราสังเกตเห็นตัวเลขที่ลดลงของลูกศิษย์และลูกศิษย์สำหรับภาวะซึมเศร้าระดับอาจจะแสดงว่าผู้ใช้เหล่านี้แสดงลดลงความปรารถนาที่จะเข้าสังคมหรือแนวโน้มที่จะบริโภคข้อมูลภายนอก และยังคงเชื่อมต่อกับคนอื่น ๆพวกเขายังแสดงลดการพึ่งพาอาศัยกันเพื่อการสื่อสารของผู้อื่น ระบุลดลง ความต้องการสำหรับการปฏิสัมพันธ์ทางสังคม ราคาค่าของกราฟความหนาแน่นของเครือข่ายอัตตาของพวกเขาและขนาดเล็กขนาดของย่าน 2-hop ของพวกเขาแสดงให้เห็นว่าการมีปฏิสัมพันธ์ต่อบุคคลในเครือข่ายของพวกเขาจะถูก จำกัด เมื่อเทียบกับผู้ใช้ในชั้นเรียนอื่น ๆ เพรสทีจ อัตราส่วน อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าจะเข้าใกล้ความสามัคคีเมื่อเทียบกับห้องอื่นๆ ที่ระบุว่าบุคคลหดหู่และเพื่อนบ้านของพวกเขามักจะมีตัวเลขที่คล้ายกันของเพื่อนบ้าน ใกล้อัตราส่วนศักดิ์ศรีความสามัคคีก็ทำให้เราคาดเดาว่าเพื่อนบ้านของผู้ใช้ในชั้นเรียนอาจจะหดหู่ที่พวกเขาไว้วางใจและเชื่อมต่อกับประเด็นทางจิตวิทยา หรือผ่านประสบการณ์ของพวกเขา ในความเป็นจริง เรารู้จาก&เบิร์กแมน ( คาวาจิ ,2544 ) ที่บุคคลหดหู่จะเรียกว่ากลุ่มด้วยกัน แต่ให้ใช้ จำกัด ของข้อมูลในการศึกษาของเรา เราไม่สามารถยืนยันการค้นพบนี้อย่างไรก็ตามถือเป็นหัวข้อที่น่าสนใจสำหรับการวิจัยในอนาคต .
ร่วมกับกลุ่มมีค่าสัมประสิทธิ์การฝังตัวอยู่ และจำนวนขององค์ประกอบที่อัตตา