School Uniforms are used all across

School Uniforms are used all across the country, particularly in parochial and urban
school settings. In 1996, approximately three percent of all schools in the United States had a
school uniform policy (Gentile & Imberman, 2009). This number grew to 21% in the year 2000.
School uniforms rose to prominence in public schools because of “highly publicized murders,
beginning in 1983, of youngsters by other youngsters for the purpose of stealing high-status
athletic shoes or jackets” (Bodine, 2003, p. 45).
Uniform policies face approval and disdain in many school districts. The emergence of
uniform policies has led to discussions over their effectiveness. Administrators often believe
uniforms create a safer learning environment while students have said they notice little
difference in the school. Some school administrators believe that uniforms can improve
discipline and raise academic achievement (Stanley, 1996). Others believe there is a positive
correlation between uniforms and test scores (Bodine, 2003). Additionally, some believe that
school uniforms provide an equitable learning environment for students (Lopez, 2003). These
beliefs have kept school uniform policies in place for many years.
Detractors say that uniforms are an unnecessary burden and infringe on students‟ First
Amendment rights (Knechtle & Mitchell, 2003). In addition, some minority groups see school
uniforms as a restriction on students‟ cultural expression of dress rights (Knechtle & Mitchell,
2003). Many school districts assume that uniforms are a way to fix student achievement and
behavior problems.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ใช้เครื่องแบบโรงเรียนทั้งประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตเมือง และ parochialโรงเรียนค่า ในปี 1996 ประมาณ 3 เปอร์เซ็นต์ของโรงเรียนทั้งหมดในสหรัฐอเมริกามีการโรงเรียนไรนโยบาย (Gentile & Imberman, 2009) หมายเลขนี้เติบโตถึง 21% ในปี 2000เครื่องแบบโรงเรียนกุหลาบเพื่อความโดดเด่นในโรงเรียนเนื่องจากการ "ฆาตกรรมสูงเผยแพร่จุดเริ่มต้นในปี 1983 เยาวชนโดยเยาวชนอื่นเพื่อขโมยสถานะสูงรองเท้ากีฬาหรือแจ็คเก็ต" (Bodine, 2003, p. 45)นโยบายชุดยูนิฟอร์มหน้าอนุมัติ และ disdain ในเขตโรงเรียนมาก การเกิดขึ้นของนโยบายเครื่องแบบได้นำไปสนทนามากกว่าประสิทธิภาพ ผู้ดูแลระบบมักจะเชื่อเครื่องสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ความปลอดภัยในขณะที่นักเรียนได้กล่าวว่า พวกเขาสังเกตเห็นเพียงเล็กน้อยความแตกต่างในโรงเรียน ผู้ดูแลโรงเรียนเชื่อว่า สามารถปรับปรุงเครื่องแบบวินัยและเพิ่มวิชาการสำเร็จ (Stanley, 1996) ผู้อื่นเชื่อว่า เป็นบวกความสัมพันธ์ระหว่างเครื่องและทดสอบคะแนน (Bodine, 2003) นอกจากนี้ บางคนเชื่อว่าเครื่องแบบของโรงเรียนมีสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่เป็นธรรมสำหรับนักเรียน (โลเปซ 2003) เหล่านี้ความเชื่อได้เก็บนโยบายเครื่องแบบของโรงเรียนในเวลาหลายปีDetractors กล่าวว่า เครื่องแบบมีภาระไม่จำเป็น และอาจละเมิด students‟ แรกสิทธิในการแก้ไข (Knechtle & Mitchell, 2003) นอกจากนี้ กลุ่มชนกลุ่มน้อยบางดูโรงเรียนเครื่องแบบตามข้อจำกัดเกี่ยวกับนิพจน์วัฒนธรรม students‟ สิทธิการแต่งกาย (Knechtle & Mitchell2003) หลายโรงเรียนเขตสมมติว่า เครื่องแบบมีวิธีการแก้ไขผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และปัญหาลักษณะนี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เครื่องแบบของโรงเรียนที่ถูกนำมาใช้ทั่วประเทศโดยเฉพาะในตำบลและในเมืองการตั้งค่าโรงเรียน ในปี 1996
ประมาณร้อยละสามของทุกโรงเรียนในประเทศสหรัฐอเมริกามีนโยบายเครื่องแบบโรงเรียน(คนต่างชาติและ Imberman 2009) ตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นถึง 21% ในปี 2000
เครื่องแบบของโรงเรียนที่มีชื่อเสียงขึ้นมาในโรงเรียนของรัฐเพราะ "การฆาตกรรมสูงประชาสัมพันธ์,
จุดเริ่มต้นในปี 1983 ของเยาวชนโดยเยาวชนอื่น ๆ
เพื่อวัตถุประสงค์ในการขโมยสถานะสูงรองเท้ากีฬาหรือแจ็คเก็ต" (ดีน 2003, น. 45).
นโยบายชุดเผชิญอนุมัติและการดูหมิ่นในโรงเรียนจำนวนมาก
การเกิดขึ้นของนโยบายเครื่องแบบได้นำไปสู่การอภิปรายมากกว่าประสิทธิภาพของพวกเขา ผู้บริหารมักจะเชื่อเครื่องแบบสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่ปลอดภัยขณะที่นักเรียนได้กล่าวว่าพวกเขาสังเกตเห็นเล็ก ๆ น้อย ๆ ความแตกต่างในโรงเรียน ผู้บริหารโรงเรียนบางคนเชื่อว่าเครื่องแบบสามารถปรับปรุงระเบียบวินัยและยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน (สแตนลี่ย์, 1996) คนอื่นเชื่อว่ามีความเป็นไปในเชิงบวกความสัมพันธ์ระหว่างเครื่องแบบและคะแนนการทดสอบ (ดีน, 2003) นอกจากนี้บางคนเชื่อว่าชุดเครื่องแบบนักเรียนให้สภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่เท่าเทียมกันสำหรับนักเรียน (โลเปซ, 2003) เหล่านี้เชื่อได้เก็บนโยบายเครื่องแบบโรงเรียนในสถานที่สำหรับหลายปี. ผู้ว่าบอกว่าเครื่องแบบเป็นภาระที่ไม่จำเป็นและละเมิดนักเรียน "ครั้งแรกสิทธิในการพัฒนา(Knechtle และมิทเชล, 2003) นอกจากนี้ยังมีชนกลุ่มน้อยบางคนเห็นโรงเรียนเครื่องแบบเป็นข้อ จำกัด ในนักเรียน "การแสดงออกทางวัฒนธรรมของสิทธิการแต่งกาย (Knechtle และมิทเชลล์ 2003) โรงเรียนหลายคนคิดว่าเครื่องแบบวิธีการแก้ไขผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและปัญหาพฤติกรรม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เครื่องแบบโรงเรียนที่ใช้ทั่วทั้งประเทศ โดยเฉพาะในตำบลและเมือง
ตั้งโรงเรียน ในปี 1996 ประมาณ 3 เปอร์เซ็นต์ ของโรงเรียนทั้งหมดในสหรัฐอเมริกามี
ชุดนักเรียนนโยบาย ( คนต่างชาติ& imberman , 2009 ) ตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นถึง 21% ในปี 2000
ชุดนักเรียนเพิ่มขึ้นโดดเด่นในโรงเรียนเพราะ " การประชาสัมพันธ์อย่างมาก
เริ่มต้นในปี 1983 , ฆาตกรรมของเยาวชนโดยเยาวชนอื่น ๆเพื่อวัตถุประสงค์ในการขโมยรองเท้าแข็งแรงสถานะ
สูงหรือแจ็คเก็ต " ( โบดีน , 2546 , หน้า 45 ) .
นโยบายชุดหน้าอนุมัติ และดูถูกในโรงเรียนมาก การเกิดขึ้นของ
นโยบายเครื่องแบบได้นำไปสู่การอภิปรายมากกว่าประสิทธิภาพของพวกเขา ผู้บริหารมักจะเชื่อ
เครื่องแบบสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่ปลอดภัย ขณะที่นักเรียนได้กล่าวว่าพวกเขาสังเกตเห็นน้อย
ความแตกต่างของโรงเรียน มีผู้บริหารโรงเรียน เชื่อว่า เครื่องแบบ สามารถปรับปรุงและยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
วินัย ( Stanley , 1996 ) คนอื่นเชื่อว่ามีความสัมพันธ์เชิงบวกระหว่างคะแนนการทดสอบ
เครื่องแบบ ( โบดีน , 2003 ) นอกจากนี้ บางคนเชื่อว่า
เครื่องแบบโรงเรียนจัดสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่เท่าเทียมกันสำหรับนักศึกษา โลเปซ , 2003 ) เหล่านี้
ความเชื่อทำให้นโยบายชุดนักเรียนในสถานที่เป็นเวลาหลายปี .
detractors บอกว่าเครื่องแบบเป็นภาระที่ไม่จำเป็นและละเมิดสิทธินักเรียน‟แรก
แก้ไข ( knechtle &มิทเชลล์ , 2003 ) นอกจากนี้บางกลุ่มเสียงข้างน้อยเห็นเครื่องแบบโรงเรียน
เป็นข้อจำกัดในการแสดงออกทางวัฒนธรรมของนักเรียน‟สิทธิชุด ( knechtle &มิเชล
2003 )โรงเรียนย่านเขตหลายสมมติว่า เครื่องแบบเป็นวิธีแก้ไขปัญหาพฤติกรรมนักเรียน และ
.