Bread is one of the oldest prepared

Bread is one of the oldest prepared foods. Evidence from 30,000 years ago in Europe revealed starch residue on rocks used for pounding plants.[5] It is possible that during this time, starch extract from the roots of plants, such as cattails and ferns, was spread on a flat rock, placed over a fire and cooked into a primitive form of flatbread. Around 10,000 BC, with the dawn of the Neolithic age and the spread of agriculture, grains became the mainstay of making bread. Yeast spores are ubiquitous, including the surface of cereal grains, so any dough left to rest will become naturally leavened.[6]

There were multiple sources of leavening available for early bread. Airborne yeasts could be harnessed by leaving uncooked dough exposed to air for some time before cooking. Pliny the Elder reported that the Gauls and Iberians used the foam skimmed from beer to produce "a lighter kind of bread than other peoples." Parts of the ancient world that drank wine instead of beer used a paste composed of grape juice and flour that was allowed to begin fermenting, or wheat bran steeped in wine, as a source for yeast. The most common source of leavening was to retain a piece of dough from the previous day to use as a form of sourdough starter.[7]

In 1961 the Chorleywood bread process was developed, which used the intense mechanical working of dough to dramatically reduce the fermentation period and the time taken to produce a loaf. The process, whose high-energy mixing allows for the use of lower protein grain, is now widely used around the world in large factories. As a result, bread can be produced very quickly and at low costs to the manufacturer and the consumer. However there has been some criticism of the effect on nutritional value.[8]

Recently, domestic bread machines that automate the process of making bread have become popular.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ขนมปังเป็นหนึ่งในอาหารที่เตรียมไว้ที่เก่าแก่ที่สุด หลักฐานจาก 30,000 ปีที่ผ่านมาในยุโรปพบสารตกค้างแป้งอยู่บนโขดหินที่ใช้สำหรับพืชห้ำหั่น. [5] เป็นไปได้ว่าในช่วงเวลานี้แป้งสารสกัดจากรากของพืชเช่นพงหญ้าและเฟิร์นกระจายบนหินแบนวางอยู่ ไฟและปรุงในรูปแบบดั้งเดิมของขนมปัง ประมาณ 10,000 BC,กับรุ่งอรุณของยุคอายุและการแพร่กระจายของการเกษตรเมล็ดกลายเป็นแกนนำในการทำขนมปัง สปอร์ยีสต์แพร่หลายรวมทั้งพื้นผิวของธัญพืชเพื่อให้แป้งที่เหลือที่เหลือใด ๆ จะกลายเป็นฟูตามธรรมชาติ. [6]

มีหลายแหล่งที่มาของหัวเชื้อสำหรับขนมปังต้นยีสต์ในอากาศจะถูกควบคุมโดยออกแป้งดิบสัมผัสกับอากาศบางเวลาก่อนที่จะปรุงอาหาร เฒ่าพลิรายงานว่ากอลและ Iberians ใช้โฟมไขมันต่ำจากการผลิตเบียร์ "ชนิดของขนมปังเบากว่าคนอื่น ๆ ." บางส่วนของโลกยุคโบราณที่ดื่มไวน์แทนเบียร์ที่ใช้วางประกอบด้วยน้ำองุ่นและแป้งที่ได้รับอนุญาตให้เริ่มต้นการหมัก,หรือรำข้าวสาลีแพร่หลายในไวน์เป็นแหล่งข้อมูลสำหรับยีสต์ แหล่งที่พบมากที่สุดของเชื้อเป็นที่จะเก็บชิ้นส่วนของแป้งจากวันก่อนที่จะใช้เป็นรูปแบบของการเริ่มต้น Sourdough. [7]

ในปี 1961 กระบวนการขนมปัง Chorleywood ได้รับการพัฒนาซึ่งใช้เครื่องจักรกลที่รุนแรงก​​ารทำงานของแป้งไปอย่างรวดเร็ว ลดระยะเวลาการหมักที่และเวลาที่ใช้ในการผลิตก้อน กระบวนการที่มีพลังงานสูงช่วยให้การผสมสำหรับการใช้งานของเมล็ดโปรตีนต่ำกว่าที่ขณะนี้ใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลกในโรงงานขนาดใหญ่ เป็นผลให้ขนมปังสามารถผลิตได้อย่างรวดเร็วและในราคาที่ต่ำไปยังผู้ผลิตและผู้บริโภค แต่ได้มีการวิพากษ์วิจารณ์บางส่วนของผลกระทบกับคุณค่าทางโภชนาการ. [8]

เมื่อเร็ว ๆ นี้เครื่องขนมปังในประเทศที่โดยอัตโนมัติกระบวนการของการทำขนมปังได้กลายเป็นที่นิยม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ขนมปังเป็นอาหารปรุงแต่งเก่าแก่ที่สุดอย่างใดอย่างหนึ่ง หลักฐานจาก 30000 ปีที่ผ่านมาในยุโรปเปิดเผยแป้งตกค้างบนหินที่ใช้สำหรับพืชห้ำหั่น[5] มันเป็นไปได้ว่า ในช่วงเวลานี้ แป้งสารสกัดจากรากของพืช เช่น cattails และเฟิร์น โบกหินแบน วางเพลิง และสุกในรูปแบบดั้งเดิมของ flatbread ประมาณ 10000 BC รุ่งอรุณของยุคหินใหม่อายุและการแพร่กระจายของเกษตร ธัญพืชเป็น ซ่าทำขนมปัง เพาะเฟิร์นยีสต์เป็น รวมทั้งพื้นผิวของธัญพืชธัญพืช เพื่อแป้งใด ๆ ทิ้งส่วนที่เหลือจะกลายเป็น leavened ตามธรรมชาติ[6]

มีหลายแหล่ง leavening ที่พร้อมใช้งานสำหรับขนมปังก่อน Yeasts ซึ่งติดตั้งอาจจะควบคุม โดยการปล่อย uncooked แป้งสัมผัสกับอากาศในเวลาก่อนอาหาร Pliny ผู้อาวุโสรายงานว่า Gauls และ Iberians ใช้โฟม skimmed จากเบียร์ผลิต "เบาชนิดของขนมปังกว่าคนอื่น ๆ ส่วนของโลกที่ดื่มไวน์แทนเบียร์ใช้วางประกอบด้วยน้ำองุ่นและแป้งที่ได้รับอนุญาตให้เริ่ม fermenting หรือดองเป็นแหล่งสำหรับยีสต์ไวน์ รำข้าวสาลี แหล่งทั่วไปของ leavening รักษาชิ้นส่วนของแป้งจากวันก่อนหน้าการใช้รูปแบบของ sourdough สตาร์ทได้[7]

ใน 1961 การขนมปัง Chorleywood ได้รับการพัฒนา ซึ่งใช้ทำงานเครื่องจักรกลที่รุนแรงของแป้งเพื่อลดระยะเวลาการหมักและเวลาที่ใช้ในการผลิตก้อน กระบวนการ ผสม high-energy อนุญาตให้ใช้ของต่ำโปรตีนข้าว ขณะนี้กันอย่างแพร่หลายกันทั่วโลกในโรงงานขนาดใหญ่ ผล ขนมปังสามารถผลิตได้อย่างรวดเร็ว และต้นทุนที่ต่ำเพื่อผู้ผลิตและผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม มีคุณค่าทางโภชนาการผลวิจารณ์บาง[8]

เพิ่ง เครื่องขนมปังในประเทศที่ทำให้กระบวนการในการทำขนมปังได้กลายเป็นยอดนิยม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ขนมปังเป็นหนึ่งในอาหารพร้อมที่เก่าแก่มากที่สุด หลักฐานจาก 30 , 000 ปีที่ผ่านมาในยุโรปเปิดเผยว่าคราบแป้งอยู่บนหินนำมาใช้สำหรับพันธุ์ไม้ต่างๆตื่นเต้นระทึกใจ.[ 5 ]เป็นไปได้ว่าในระหว่างช่วงเวลาดังกล่าวนี้ทำให้แยกจากรากของพันธุ์ไม้ต่างๆเช่นเป็น Cattails Restaurant and เฟิร์นและกระจายตัวอยู่บนก้อนหินเป็นจอแบนที่วางบนกองไฟที่ปรุงขึ้นตามสั่งและในแบบดั้งเดิมของลองขนมปังทรงแบนลักษณะ ประมาณ 10 , 000 BCพร้อมด้วยแสงอรุณรุ่งของยุคหินใหม่อายุและกระจายตัวอยู่ทั่วพื้นที่ในการทำการเกษตรเมล็ดธัญพืชกลายเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงที่สำคัญของการทำขนมปัง ช่วยกรองเชื้อมีอยู่ทุกหนทุกแห่งได้รวมถึงพื้นผิวของเมล็ดธัญพืชข้าวแป้งใดๆดังนั้นทางด้านซ้ายเพื่อไปยังส่วนที่เหลือจะกลายเป็นเชื้ออย่างเป็นธรรมชาติ.[ 6 ],

มีแหล่งที่มาที่หลากหลายของเชื้อจัดให้บริการสำหรับขนมปังช่วงต้นyeasts อากาศไม่สามารถจะจับพวกมันเทียมโดยออกเดินทางจากแป้งดิบสัมผัสกับอากาศสำหรับบางช่วงเวลาก่อนการทำอาหาร คำยกย่องเชิดชูบรรดาผู้สูงอายุที่รายงานว่าได้เข้าเข้า iberians และใช้ฟองน้ำนมพร่องมันเนยจากเบียร์ในการผลิต"ที่มีน้ำหนักเบากว่าชนิดของขนมปังกว่าอื่นๆประชาชน"ส่วนที่เก่าแก่ของโลกที่ดื่มไวน์เบียร์แทนการใช้ที่วางประกอบด้วยต้นองุ่นและน้ำผลไม้คั้นแป้งที่ได้รับอนุญาตให้เริ่มหมัก,หรือรำข้าวสาลีโดดเด่นไปด้วยไวน์เป็นแหล่งที่มาของเชื้อยีสต์ แหล่งที่มาที่มีอยู่โดยทั่วไปมากที่สุดของเครื่องหมักให้เป็นเพื่อรักษาชิ้นของแป้งจากวันก่อนหน้าที่จะใช้เป็นรูปแบบหนึ่งของ sourdough Starter .[ 7 ],

ในปี 1961 การขนมปัง chorleywood ที่ถูกพัฒนาขึ้นซึ่งใช้กลไกการทำงานเข้มข้นของแป้งจะช่วยลดช่วงเวลาที่หมักและเวลาที่ใช้ในการผลิตขนมปังที่มากขึ้น กระบวนการนี้ผู้ที่ใช้พลังงานสูงการผสมช่วยให้สำหรับการใช้เมล็ดธัญพืชโปรตีนต่ำใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลกในโรงงานขนาดใหญ่ในขณะนี้. เป็นผลให้ขนมปังสามารถผลิตได้เป็นอย่างมากได้อย่างรวดเร็วและที่ต้นทุนต่ำไปยังผู้ผลิตและ ผู้บริโภค แต่ถึงอย่างไรก็ตามยังมีบางส่วนได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ของผลที่คุณค่าทาง โภชนาการ .[ 8 ]

เมื่อไม่นานมานี้เครื่องปิ้งขนมปัง ภายใน ประเทศที่ทำให้กระบวนการของการทำขนมปังได้รับความนิยมมาก