Maize reproduces sexually each year

Maize reproduces sexually each year. This randomly selects half the genes from a given plant to propagate to the next generation, meaning that desirable traits found in the crop (like high yield or good nutrition) can be lost in subsequent generations unless certain techniques are used.

Maize breeding in prehistory resulted in large plants producing large ears. Modern breeding began with individuals who selected highly productive varieties in their fields and then sold seed to other farmers. James L. Reid was one of the earliest and most successful developing Reid's Yellow Dent in the 1860s. These early efforts were based on mass selection. Later breeding efforts included ear to row selection, (C. G. Hopkins ca. 1896), hybrids made from selected inbred lines (G. H. Shull, 1909), and the highly successful double cross hybrids using 4 inbred lines (D. F. Jones ca. 1918, 1922). University supported breeding programs were especially important in developing and introducing modern hybrids. (Ref Jugenheimer Hybrid Maize Breeding and Seed Production pub. 1958) by the 1930s, companies such as Pioneer devoted to production of hybrid maize had begun to influence long term development. Internationally important seed banks such as International Maize and Wheat Improvement Center (CIMMYT) and the US bank at Maize Genetics Cooperation Stock Center University of Illinois at Urbana-Champaign maintain germplasm important for future crop development.

Since the 1940s the best strains of maize have been first-generation hybrids made from inbred strains that have been optimized for specific traits, such as yield, nutrition, drought, pest and disease tolerance. Both conventional cross-breeding and genetic modification have succeeded in increasing output and reducing the need for cropland, pesticides, water and fertilizer.[43]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์พันธุ์ทางเพศในแต่ละปี นี้สุ่มเลือกยีนครึ่งจากโรงงานที่ได้รับการเผยแพร่ในรุ่นต่อไปซึ่งหมายความว่าลักษณะที่พึงประสงค์ที่พบในพืช (เช่นผลผลิตสูงหรือโภชนาการที่ดี) จะหายไปในรุ่นต่อมาเว้นแต่เทคนิคบางอย่างจะใช้. การปรับปรุงพันธุ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประวัติศาสตร์ส่งผล ในโรงงานขนาดใหญ่ผลิตหูขนาดใหญ่ พันธุ์โมเดิร์นเริ่มต้นด้วยบุคคลที่เลือกพันธุ์ที่มีประสิทธิภาพสูงในสาขาของพวกเขาแล้วขายเมล็ดพันธุ์ให้กับเกษตรกรอื่น ๆ เจมส์ลิตรเรดเป็นหนึ่งในที่เก่าแก่ที่สุดและประสบความสำเร็จมากที่สุดในการพัฒนาของเรดเหลืองบุ๋มในยุค 1860 ความพยายามในช่วงต้นเหล่านี้อยู่บนพื้นฐานของการเลือกมวล ความพยายามในการปรับปรุงพันธุ์ต่อมารวมถึงหูถึงแถวเลือก (CG ฮอปกินส์แคลิฟอร์เนีย 1896), ไฮบริดที่ทำจากสายพันธุ์แท้ที่เลือก (GH Shull 1909) และลูกผสมคู่ที่ประสบความสำเร็จใช้ 4 สายพันธุ์แท้ (DF โจนส์แคลิฟอร์เนีย 1918, 1922) . มหาวิทยาลัยได้รับการสนับสนุนโปรแกรมการปรับปรุงพันธุ์ที่มีความสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการพัฒนาและการแนะนำไฮบริดที่ทันสมัย (Ref Jugenheimer การปรับปรุงพันธุ์ข้าวโพดและเมล็ดพันธุ์ไฮบริดผับผลิต. 1958) โดยช่วงทศวรรษที่ 1930 บริษัท ไพโอเนียร์เช่นทุ่มเทให้กับการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ลูกผสมก็เริ่มที่จะมีอิทธิพลต่อการพัฒนาระยะยาว ต่างประเทศธนาคารเมล็ดพันธุ์ที่สำคัญเช่นข้าวโพดและนานาชาติข้าวสาลีปรับปรุงเซ็นเตอร์ (CIMMYT) และธนาคารสหรัฐที่ข้าวโพดพันธุศาสตร์ความร่วมมือศูนย์สต็อกของมหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ Urbana-Champaign รักษาเชื้อพันธุกรรมสำคัญสำหรับการพัฒนาพืชในอนาคต. ตั้งแต่ปี 1940 สายพันธุ์ที่ดีที่สุดของข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ได้รับ ไฮบริดรุ่นแรกที่ทำมาจากสายพันธุ์พันธุ์ที่ได้รับการปรับให้เหมาะสมกับลักษณะเฉพาะเช่นผลผลิต, โภชนาการ, ภัยแล้งศัตรูพืชและความทนทานต่อโรค ทั้งแบบธรรมดาข้ามพันธุ์และการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมได้ประสบความสำเร็จในการเพิ่มผลผลิตและลดความจำเป็นในการ cropland สารกำจัดศัตรูพืชและปุ๋ยน้ำ. [43]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ข้าวโพด reproduces ทางเพศในแต่ละปี นี้สุ่มเลือกครึ่งหนึ่งของยีนจากพืชที่ได้รับการเผยแพร่ไปยังรุ่นถัดไป หมายถึง คุณลักษณะที่พบในพืช ( เช่น ผลผลิตสูง หรือโภชนาการที่ดี ) จะหายไปในรุ่นต่อมา นอกจากเทคนิคที่แน่นอน มีการใช้ข้าวโพดพันธุ์

ในประวัติศาสตร์ทำให้พืชขนาดใหญ่การผลิตขนาดใหญ่หูพันธุ์สมัยใหม่เริ่มด้วยบุคคลที่เลือกมีประสิทธิภาพสูงพันธุ์ในเขตของตนและขายเมล็ดพันธุ์ให้กับเกษตรกรอื่น ๆ เจมส์ลิตร รีดเป็นหนึ่งที่เก่าแก่ที่สุดและประสบความสำเร็จมากที่สุดการพัฒนารี้ดเดนท์สีเหลืองใน 1860s . ความพยายามเหล่านี้ก่อนตามการเลือกขนาดใหญ่ ภายหลังผสมพันธุ์ความพยายามรวมหูเพื่อเลือกแถว ( C . G . ฮอปกินส์โดย 1896 )ลูกผสมที่ผลิตจากการคัดเลือกสายพันธุ์แท้ ( จี. เอช. ชัล 1909 , ) และประสบความสำเร็จคู่ข้ามลูกผสมโดยใช้ 4 สายพันธุ์แท้ ( d . F . Jones แคลิฟอร์เนีย 1918 1922 ) มหาวิทยาลัยได้รับการสนับสนุนโปรแกรมปรับปรุงพันธุ์ที่สำคัญโดยเฉพาะในการพัฒนาและแนะนำไฮบริดที่ทันสมัย ( อ้างอิง jugenheimer พันธุ์ข้าวโพดลูกผสม และผับ การผลิตเมล็ดพันธุ์ 1958 ) โดยช่วงทศวรรษที่ 1930 ,เช่น บริษัท ไพโอเนียร์ เพื่อรองรับการผลิตลูกผสมข้าวโพดเริ่มมีอิทธิพลต่อการพัฒนาในระยะยาว ธนาคารเมล็ดพันธุ์ในระดับสากลที่สำคัญเช่นข้าวโพดข้าวสาลีและศูนย์การพัฒนาระหว่างประเทศ ( ประเทศเม็กซิโก ) และสหรัฐธนาคารความร่วมมือศูนย์สต็อกข้าวโพดพันธุศาสตร์มหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ Urbana Champaign รักษาพันธุกรรมพืชที่สำคัญสำหรับการพัฒนาในอนาคต

ตั้งแต่ปี 1940 สายพันธุ์ที่ดีที่สุดของข้าวโพดมีไฮบริดรุ่นแรกที่ผลิตจากสายพันธุ์สายพันธุ์ที่ได้รับการเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับลักษณะพิเศษเฉพาะ เช่น ผลผลิต , ภัยแล้ง , โภชนาการ , ศัตรูพืชและทนโรค ทั้งแบบธรรมดาข้ามการผสมพันธุ์และการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมได้สำเร็จในการเพิ่มผลผลิตและการลดความต้องการสำหรับการ cropland ยาฆ่าแมลง น้ำ และปุ๋ย [ 43 ]