DNA editing tools can be used to co

DNA editing tools can be used to combat herpes viruses, Dutch scientists have shown.

The herpesvirus family includes EBV, which causes glandular fever, varicella zoster, which causes chickenpox, and HSV, which causes cold sores and genital lesions, and nearly everybody is infected with at least one of these agents. Cold sores - a result of Herpes infection

The herpes family is so successful because these agents have evolved to persist in the body for the lifetime of the infected individual.

The viruses lurk in the form of small pieces of DNA that park themselves alongside our own human DNA inside our cells. This places them beyond the reach of the immune system and makes them very hard to combat with drugs.

Now, Robert Jan Lebbink and his colleagues, from the University Medical Centre Utrecht, have shown that it might be possible to employ a recently-discovered DNA editing tool called CRISPR/Cas to selectively chop up and deactivate the viral DNA hiding inside our cells while leaving the host (human) DNA untouched.

CRISPR was discovered in bacteria which use it to protect themselves against viral infections. It works like a pair of molecular scissors, which slide along a strand of DNA looking for a particular sequence of genetic information.When this is encountered, the DNA is cut apart at that point.

Writing in PLoS Pathogens, the Utrecht team reasoned that it might be possible to use the CRISPR system to probe cells for sequences unique to herpes virus and destroy the integrity of the viral DNA, rendering the infection inviable.

Working with cultured cells, the team have tested the approach against three different herpes viruses. Epstein Barr Virus (EBV) causes glandular fever and is also linked to certain forms of cancer, including lymphoma and nasopharyngeal carcinoma.

A single CRISPR construct recognising a key part of the EBV DNA was able to deactivate the virus in 40-60% of cells harbouring EBV infection. When two different CRISPRs, each targeting slightly different parts of the EBV DNA, were used simultaneously the viral deactivation rate rose to more than 95%.

The approach was similarly effective against another common herpes virus called CMV - cytomegalovirus - which can cause fatal infections in patients with weakened immune systems, particularly transplant recipients.

However, the team did notice that, unless they attacked CMV from multiple angles at once using a range of CRISPRs targeting several genes known to be essential to the virus, they quickly saw the emergency of resistant viruses capable of side-stepping the therapy.

Another herpes virus with which many people are miserably familiar is the herpes simplex virus, which causes recurrent infectious cold sores and genital lesions.

The CRISPR technique completely blocked the growth of the virus in cultured cells. However, it was not effective against the dormant virus.

In humans, herpes simplex viruses hide in the nervous system in a state of deep slumber, and this may explain why the treatment was unsuccessful in this instance.

The inactive state of the viral DNA might have rendered it inaccessible to the CRISPR machinery.

But the team have tested only a limited set of DNA targets on the virus so far, meaning that it may just be a question of finding the sweet spot where the virus remains vulnerable. If they can, it may finally usher in a means to end the misery for millions who suffer frequent, unsightly and painful outbreaks, by editing out their herpes infection...

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สามารถใช้เครื่องมือแก้ไขดีเอ็นเอในการต่อสู้กับไวรัสเริม ดัตช์นักวิทยาศาสตร์ได้แสดงให้เห็นครอบครัวสไวรัสมี EBV ซึ่งทำให้เกิดโรคเริม งูสวัดอีสุกอีใส ซึ่งทำให้เกิดอีสุกอีใส และ HSV ซึ่งสาเหตุเริมและแผลที่อวัยวะเพศ และเกือบทุกคนมีการติดเชื้ออย่างน้อยหนึ่งตัวแทนเหล่านี้ เริม - ผลของการติดเชื้อเริมครอบครัวเริมเป็นประสบความสำเร็จเนื่องจากมีพัฒนาตัวแทนเหล่านี้จะยังคงอยู่ในร่างกายตลอดชีวิตของบุคคลที่ติดเชื้อไวรัสแฝงตัวอยู่ในรูปของชิ้นดีเอ็นเอขนาดเล็กที่จอดเองควบคู่ไปกับดีเอ็นเอมนุษย์ของเราเองภายในเซลล์ของเรา นี้ทำงานไกลเกินเอื้อมระบบภูมิคุ้มกัน และทำให้พวกเขายากที่จะต่อสู้กับยาเสพติดตอนนี้ โรเบิร์ต Jan Lebbink และเพื่อนร่วม งานของเขา จาก Utrecht ในศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัย แสดงให้เห็นว่า มันอาจจะเป็นไปได้ที่ใช้ดีเอ็นเอที่เพิ่งค้นพบเครื่องมือที่เรียกว่า CRISPR/Cas การเลือกสับปิดไวรัสแก้ไขแตะต้องซ่อนดีเอ็นเอภายในเซลล์ของเราปล่อย DNA โฮสต์ (มนุษย์)CRISPR ถูกค้นพบในแบคทีเรียซึ่งใช้เพื่อปกป้องตัวเองจากติดเชื้อไวรัส การทำงานเช่นคู่ของกรรไกรโมเลกุล ซึ่งเลื่อนตามของการหาลำดับของข้อมูลทางพันธุกรรมโดยเฉพาะ เมื่อมีพบ ดีเอ็นเอถูกตัดออกจากกันซึ่งจุดเขียนใน PLoS เชื้อ ทีม Utrecht จึงให้เหตุผลว่า อาจจะใช้ระบบ CRISPR เพื่อสอบสวนเซลล์สำหรับลำดับเฉพาะของไวรัสเริม และทำลายความสมบูรณ์ของดีเอ็นเอไวรัส แสดง inviable การติดเชื้อทำงานกับเซลล์อ่าง ทีมงานได้ทดสอบวิธีการป้องกันเริมแตกต่างกันสาม เอ็ปบารร์ไวรัส (EBV) ทำให้เกิดโรคเริม และยังเชื่อมโยงกับรูปแบบบางอย่างของโรคมะเร็ง มะเร็งต่อมน้ำเหลืองและมะเร็งหลังโพรงจมูกการก่อสร้าง CRISPR เดียวตระหนักถึงส่วนสำคัญของดีเอ็นเอของ EBV ได้ปิดไวรัสใน 40-60% ของเซลล์ที่ติดเชื้อ EBV รีวิว เมื่อสอง CRISPRs แตกต่างกัน แต่ละส่วนแตกต่างกำหนดเป้าหมายของดีเอ็นเอของ EBV พร้อมใช้ ราคาปิดไวรัสกุหลาบมากกว่า 95%วิธีมีประสิทธิภาพในทำนองเดียวกันกับอีกเริมไวรัสทั่วไปเรียกว่า CMV - cytomegalovirus - ซึ่งสามารถทำให้เกิดการติดเชื้อร้ายแรงในผู้ป่วยที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ปลูกโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้รับอย่างไรก็ตาม ทีมไม่แจ้งให้ทราบว่า ยกเว้นว่าพวกเขาถูกโจมตีจากหลายมุมพร้อมกันเป็นช่วงของ CRISPRs เป้าหมายหลายยีนเรียกว่ามีความจำเป็นต่อไวรัส CMV พวกเขาได้อย่างรวดเร็วเห็นฉุกเฉินของความสามารถในด้านการก้าวการรักษาต้านไวรัสไวรัสเริมอื่นที่หลายคนคุ้นเคยอย่างน่าสังเวชเป็นไวรัสเริม ซึ่งทำให้กำเริบติดเชื้อเริมและแผลที่อวัยวะเพศเทคนิค CRISPR ถูกบล็อกการเจริญเติบโตของไวรัสในเซลล์อ่างสมบูรณ์ อย่างไรก็ตาม ก็ไม่ได้ผลกับไวรัสอยู่เฉย ๆในมนุษย์ ซ่อนไวรัสเริมในระบบประสาทของสลัมเบอร์ลึก และนี้อาจอธิบายว่า ทำไมการรักษาประสบความสำเร็จในกรณีนี้สถานะงานของดีเอ็นเอไวรัสอาจมีแสดงก็สามารถเข้าถึงเครื่องจักรแต่ทีมงานได้ทดสอบเฉพาะจำกัดชุดของดีเอ็นเอเป้าหมายบนไวรัสเพื่อห่างไกล ซึ่งหมายความ ว่า มันอาจเป็นคำถามของการหาจุดหวานที่ไวรัสยังคงเสี่ยง ถ้าพวกเขาสามารถ มันอาจสุดท้ายอัชเชอร์ในหมายถึงการสิ้นสุดทุกข์ล้านที่ระบาดบ่อย และเจ็บปวด น่าเกลียด โดยการแก้ไขจากการติดเชื้อเริม ...

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เครื่องมือในการแก้ไขดีเอ็นเอสามารถนำมาใช้ในการต่อสู้กับไวรัสเริมนักวิทยาศาสตร์ชาวดัตช์ได้แสดงให้เห็น.

ครอบครัว herpesvirus รวมถึง EBV ซึ่งทำให้เกิดไข้เกี่ยวกับต่อม varicella งูสวัดซึ่งเป็นสาเหตุของโรคอีสุกอีใสและ HSV ซึ่งทำให้เกิดแผลเย็นและแผลที่อวัยวะเพศและเกือบทุกคนจะติดเชื้อ ที่มีอย่างน้อยหนึ่งในตัวแทนเหล่านี้ แผลเย็น - ผลของการติดเชื้อเริม

ครอบครัวเริมจะประสบความสำเร็จเช่นนี้เพราะสารเหล่านี้มีการพัฒนาให้คงอยู่ในร่างกายสำหรับอายุการใช้งานของแต่ละคนที่ติดเชื้อ.

ไวรัสแฝงตัวอยู่ในรูปแบบของชิ้นเล็ก ๆ ของดีเอ็นเอที่จอดรถตัวเองควบคู่ไปกับมนุษย์เราเอง ดีเอ็นเอภายในเซลล์ของเรา สถานที่นี้พวกเขาไกลเกินเอื้อมของระบบภูมิคุ้มกันและทำให้พวกเขายากมากที่จะต่อสู้กับยาเสพติด.

ตอนนี้โรเบิร์ต ม.ค. Lebbink และเพื่อนร่วมงานของเขาจากศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยอูเทรคได้แสดงให้เห็นว่ามันอาจจะเป็นไปได้ที่จะจ้างดีเอ็นเอที่เพิ่งค้นพบ เครื่องมือแก้ไขเรียกว่า CRISPR / Cas การเลือกสับขึ้นและปิดใช้งานการซ่อนสารพันธุกรรมของไวรัสภายในเซลล์ของเราขณะที่ออกจากโฮสต์ (มนุษย์) ดีเอ็นเอแตะต้อง.

CRISPR ถูกค้นพบในแบคทีเรียที่ใช้ในการป้องกันตัวเองจากการติดเชื้อไวรัส มันทำงานเหมือนกรรไกรโมเลกุลซึ่งเลื่อนไปตามสาระของดีเอ็นเอที่กำลังมองหาลำดับโดยเฉพาะของ information.When ทางพันธุกรรมนี้จะพบดีเอ็นเอที่ถูกตัดออกจากกันที่จุดที่.

เขียนใน PLoS จุลชีพก่อโรคทีมอูเทรคให้เหตุผลว่า อาจเป็นไปได้ที่จะใช้ระบบ CRISPR เพื่อสอบสวนเซลล์สำหรับลำดับที่ไม่ซ้ำกับไวรัสเริมและทำลายความสมบูรณ์ของสารพันธุกรรมของไวรัสที่แสดงการติดเชื้อ inviable.

การทำงานกับเซลล์เพาะเลี้ยงทีมงานได้ทดสอบวิธีการกับสามไวรัสเริมที่แตกต่างกัน Epstein Barr Virus (EBV) สาเหตุต่อมไข้และยังเชื่อมโยงกับบางรูปแบบของโรคมะเร็ง ได้แก่ มะเร็งต่อมน้ำเหลืองและมะเร็งโพรงหลังจมูก.

สร้าง CRISPR เดียวตระหนักถึงความเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของ EBV ดีเอ็นเอก็สามารถที่จะยกเลิกการใช้งานไวรัสใน 40-60% ของเซลล์ เก็บงำติดเชื้อ EBV เมื่อทั้งสอง CRISPRs แตกต่างกันแต่ละกำหนดเป้าหมายส่วนแตกต่างกันเล็กน้อยของ EBV ดีเอ็นเอถูกนำมาใช้พร้อม ๆ กันอัตราการเสื่อมไวรัสเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 95%.

วิธีการที่มีประสิทธิภาพในทำนองเดียวกันกับไวรัสอื่นที่พบบ่อยโรคเริมที่เรียกว่า CMV - cytomegalovirus - ซึ่งอาจทำให้เกิดการติดเชื้อร้ายแรงใน ผู้ป่วยที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้รับการปลูก.

แต่ทีมไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้าว่าถ้าพวกเขาถูกโจมตี CMV จากมุมที่หลายครั้งใช้ช่วงของ CRISPRs กำหนดเป้าหมายหลายยีนที่รู้จักกันเป็นสิ่งจำเป็นที่จะไวรัสที่พวกเขาได้อย่างรวดเร็วเห็นฉุกเฉินของทน ไวรัสมีความสามารถในด้านการรักษาก้าว.

ไวรัสเริมอีกด้วยซึ่งหลาย ๆ คนมีความคุ้นเคยอย่างน่าสังเวชเป็นไวรัสเริมซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดซ้ำแผลเย็นติดเชื้อและแผลที่อวัยวะเพศ.

เทคนิค CRISPR สมบูรณ์ถูกปิดกั้นการเจริญเติบโตของเชื้อไวรัสในเซลล์เพาะเลี้ยง แต่มันก็ไม่ได้มีผลต่อไวรัสอยู่เฉยๆ.

ในมนุษย์ไวรัสเริมซ่อนตัวอยู่ในระบบประสาทในสถานะของการนอนหลับลึกและนี้อาจอธิบายว่าทำไมการรักษาประสบความสำเร็จในกรณีนี้.

รัฐไม่ได้ใช้งานของสารพันธุกรรมของไวรัสอาจ ได้พิจารณาให้ไม่สามารถเข้าถึงที่เครื่องจักร CRISPR ได้.

แต่ทีมงานได้ทดสอบเพียงชุด จำกัด ของเป้าหมายดีเอ็นเอไวรัสเพื่อให้ห่างไกลซึ่งหมายความว่ามันอาจจะเป็นแค่คำถามในการหาจุดหวานที่ไวรัสยังคงเปราะบาง หากพวกเขาสามารถก็อาจนำในที่สุดก็หมายถึงการสิ้นสุดความทุกข์ยากสำหรับล้านที่ประสบบ่อยน่าเกลียดและเจ็บปวดระบาดโดยการแก้ไขจากการติดเชื้อเริมของพวกเขา ...