Paw Htoo, paternal grandmotherShe m

Paw Htoo, paternal grandmother
She mentioned that her son (the father) went back to Myanmar in February 2012 and before he went back, he told her that he would go back to visit his brother at Ka Moo Thway village in Tavoy district. The father never contacted them after he went but his brother Saw Lu Tha came to visit her in the same year in 2012 and stayed about 5 to 6 months in the camp. Saw Lu Tha said that the father just came to stay with him for a day and he went out to work at another village called Pway Po Kla. He also informed him that the father got injured from a car accident and after that, he cohabited with a woman who is Tavoyan (a person from Tavoy district) where he was working. The father hardly made contact with his brother Saw Lu Tha and later he heard that the father moved out from the village he was staying without informing anyone. The father also disappeared from the site of his brother and since then, they never heard from each other again. She tried to ask the people passing by but she did not hear anything about her son (the father) and she does not think he would come back to the camp at this stage. They do not know where he is living at this time although he might still be alive. When asked, she has not heard about yet that the father has children with his current wife. She mentioned that it would be a waste of time if the mother and children had to wait for the father to be resettled because the father had already disappeared for more than 3 years without any trace. She stated that she also does not know why the father cut contacts with them and she wants to know about it too. They also tried to pass the message with the visitors to inform them if they saw the father but no news came back.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Htoo ตีน ย่าเธอกล่าวว่า ลูกชายของเธอ (พ่อ) ก็กลับไปพม่าในเดือน 2555 กุมภาพันธ์ และก่อนเขากลับ เขาบอกเธอว่า เขาจะกลับไปเยี่ยมน้องที่หมู่บ้านคาหมู่ Thway ในเขต Tavoy พ่อไม่เคยติดต่อพวกเขาหลังจากเขาไป แต่ของเขาพี่ชายเห็นลูท่ามาเยี่ยมเธอในปีเดียวกันในปี 2012 และพักประมาณ 5-6 เดือนในค่าย เห็นท่าลูกล่าวว่า พ่อเพิ่งเข้ามาอยู่กับเขาวัน และเขาออกไปทำงานที่หมู่บ้านอื่นที่เรียกว่าภูหินร่องกล้า Po Pway เขายังทราบเขาว่า พระบิดาได้รับบาดเจ็บ จากอุบัติเหตุรถยนต์ และหลัง จากนั้น เขา cohabited กับผู้หญิงที่เป็น Tavoyan (คนอำเภอ Tavoy) ที่เขาทำงาน พ่อทำไม่ติดต่อกับเขาพี่ชายเห็นลูท่า และภายหลังเขาได้ยินว่า พ่อย้ายออกจากหมู่บ้านที่เขามีอยู่โดยไม่บอกใคร พ่อยังหายไปจากเว็บไซต์ ของพี่ชายของเขา และหลัง จาก นั้น พวกเขาไม่เคยได้ยินกันอีกครั้ง เธอพยายามถามคนที่ผ่านมา แต่เธอไม่ได้ยินอะไรเกี่ยวกับลูกชายของเธอ (พ่อ) และเธอไม่ได้คิดว่า เขาจะกลับมาแคมป์ในขั้นตอนนี้ พวกเขาไม่รู้ว่าที่เขาอาศัยอยู่ในเวลานี้แม้ว่ายังอาจมีชีวิตอยู่ เมื่อถาม เธอได้ไม่ได้ยินเกี่ยวกับยังว่า พ่อมีลูกกับภรรยาปัจจุบัน เธอกล่าวว่า มันจะเสียเวลาหากแม่และเด็กก็จะรอพ่อจะเป็น resettled เนื่องจากบิดาได้แล้วหายไปกว่า 3 ปีโดยไม่มีร่อง เธอระบุว่า เธอยังไม่รู้ว่าทำไมพ่อตัดการติดต่อกับพวกเขา และเธอต้องการจะรู้เกินไป พวกเขาพยายามส่งข้อความที่ มีผู้เข้าชมแจ้งถ้าเห็นพ่อ แต่กลับไม่มีข่าวมา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

พาวทู,
พ่อแม่ของเธอบอกว่าลูกชายของเธอ(พ่อ) ก็กลับไปที่ประเทศพม่าในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2012 และก่อนที่เขาจะกลับไปเขาบอกเธอว่าเขาจะกลับไปเยี่ยมชมพี่ชายของเขาที่กาหมู่ Thway หมู่บ้านในเขตทวาย พ่อไม่เคยติดต่อพวกเขาหลังจากที่เขาไป แต่พี่ชายของเขาเห็นท่าลูมาเยี่ยมเธอในปีเดียวกันในปี 2012 และอยู่ที่ประมาณ 5 ถึง 6 เดือนในค่าย เห็นท่าลูกล่าวว่าพ่อเพิ่งมาอยู่กับเขาสำหรับวันและเขาก็ออกไปทำงานที่หมู่บ้านอื่นที่เรียกว่าเล่น Po กล้า นอกจากนี้เขายังบอกเขาว่าพ่อได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางรถยนต์และหลังจากนั้นเขาเลิกกับผู้หญิงคนหนึ่งที่เป็น Tavoyan (คนที่มาจากเมืองทวาย) ที่เขาเป็นคนที่ทำงาน พ่อทำแทบจะไม่ติดต่อกับพี่ชายของเขาเห็นท่า Lu และต่อมาเขาก็ได้ยินมาว่าพ่อย้ายออกจากหมู่บ้านเขาพักอยู่โดยไม่ต้องแจ้งใคร พ่อยังหายไปจากเว็บไซต์ของพี่ชายและตั้งแต่นั้นมาพวกเขาไม่เคยได้ยินจากกันอีกครั้ง เธอพยายามที่จะขอให้คนที่ผ่านไป แต่เธอไม่ได้ยินอะไรเกี่ยวกับลูกชายของเธอ (พ่อ) และเธอก็ไม่ได้คิดว่าเขาจะกลับมาที่ค่ายในขั้นตอนนี้ พวกเขาไม่ทราบว่าเขาจะมีชีวิตอยู่ในเวลานี้แม้ว่าเขาจะยังคงมีชีวิตอยู่ เมื่อถามว่าเธอยังไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับยังที่พ่อมีลูกกับภรรยาของเขาในปัจจุบัน เธอบอกว่ามันจะเสียเวลาถ้าแม่และเด็กต้องรอพ่อที่จะอพยพไปเพราะพ่อได้หายไปแล้วนานกว่า 3 ปีโดยไม่มีร่องรอยใด ๆ เธอบอกว่าเธอยังไม่ทราบว่าทำไมพ่อตัดการติดต่อกับพวกเขาและเธอต้องการที่จะรู้เกี่ยวกับมันมากเกินไป พวกเขายังพยายามที่จะส่งข้อความที่มีผู้เข้าชมที่จะแจ้งให้พวกเขาหากพวกเขาเห็นพ่อ แต่ข่าวไม่กลับมา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

คุณยายทูตีน ,
เธอบอกว่าลูกชายของเธอ ( พ่อ ) กลับพม่าในเดือนกุมภาพันธ์ 2012 และก่อนเขากลับมา เขาบอกเธอว่าเขาจะกลับไปหาพี่ชายของเขาที่กะมู thway หมู่บ้านทวายอำเภอ พ่อไม่เคยติดต่อเขา หลังจากที่เขาไป แต่พี่ชายของเขาเห็นลู่ท่ามาเยี่ยมเธอในปี 2012 และอยู่ประมาณ 5 ถึง 6 เดือน ในค่ายเห็นลู่ ท่าบอกว่าพ่อเพิ่งมาอยู่กับเค้าทั้งวัน และเขาไปทำงานที่หมู่บ้านอื่น เรียกว่า pway โปกล้า เขายังแจ้งเค้าว่าพ่อได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ และหลังจากนั้น เขาอาศัยอยู่บ้านเดียวกันกับผู้หญิงที่ tavoyan ( บุคคลจากทวายอำเภอ ) ที่ซึ่งเขาได้ทำงานพ่อแทบจะไม่ได้ติดต่อกับพี่ชายของเขาเห็นลู่ท่าและต่อมาเขาได้ยินว่าพ่อย้ายออกจากหมู่บ้านที่เขาอยู่โดยไม่บอกใคร พ่อก็หายไปจากเว็บไซต์ของพี่ชาย และตั้งแต่นั้นมาก็ไม่เคยได้ยินจากแต่ละอื่น ๆ อีกเธอพยายามถามผู้คนที่ผ่านไปมา แต่เธอไม่ได้ยินอะไรเกี่ยวกับลูกชายของเธอ ( พ่อ ) เธอไม่คิดว่าเขาจะกลับมาที่ค่าย ณ เวทีนี้ พวกเขาไม่รู้ว่าเขาอยู่ในเวลานี้ ถึงแม้ว่าเขาอาจจะยังมีชีวิตอยู่ เมื่อถามว่า เธอไม่ได้รู้เรื่องเลยว่าพ่อมีลูกกับภรรยาคนปัจจุบันของเขาเธอกล่าวว่า มันคงจะเสียเวลาเปล่าหากแม่และลูกต้องรอพ่ออยู่บ้านเพราะพ่อก็หายตัวไปนานกว่า 3 ปี โดยไม่มีร่องรอย เธอกล่าวว่า เธอยังไม่ได้รู้ว่าทำไมพ่อตัดการติดต่อกับพวกเขาและเธอต้องการที่จะรู้เกี่ยวกับมันพวกเขายังพยายามที่จะส่งต่อข้อความที่มีผู้เข้าชม เพื่อแจ้งให้ทราบหากพวกเขาเห็นพ่อแต่ไม่มีข่าวกลับมา