Insurgency’s Decline and End in Pen

Insurgency’s Decline and End in Peninsular Malaysia and in Sarawak
The 1970s and 1980s saw the CPM intensify its activities of terrorism and
clashes with the security forces. Communist groups attempted to blow up the
National Monument in Kuala Lumpur, carried out ambushes of police field forces and succeeded in assassinating the police chief of Perak state and the
Inspector-General of Police. These activities were due to a rivalry among
three factions in the CPM. The split had been over party purges and strategies
and each faction tried to outdo the other in militancy and violence. The
communist threat was so serious during the administration of third Prime
Minister Hussein Onn (1976-81) that it was alleged the government had been
infiltrated and there was communist influence among UMNO politicians.
These allegations arose in the heat of UMNO politics during the party’s
annual elections for top posts, and were taken so seriously that two UMNO
deputy ministers and several Malay journalists were detained for communist
activities.
However, in 1973-4 a major victory was scored by the government
when one of the Sarawak Communist Organization’s (SCO) leaders, Bong
Kee Chok, was persuaded to surrender with 481 followers. The group made
up about 75 % of the total communist force in the state. The rest followed
suit under another peace accord in 1990. The Chinese-led insurgency in
Sarawak began immediately after the Brunei uprising in December 1962
when SCO members joined the Brunei rebels in the jungles and teamed up
with Indonesian troops under Indonesia’s ‘confrontation’ of Malaysia. The
insurgents formed the North Kalimantan Communist Party (NKCP) in 1970.
Communism had spread from China through Sarawak’s Chinese schools in
the 1940s, and after the war spread further in the labour movement and
through infiltration within Sarawak’s first political party, the predominantlyChinese
Sarawak United People’s party, which was formed in June 1959.30
To reduce the local people’s support for the insurgency in Sarawak, the
federal government decided in 1965 to introduce ‘controlled areas’ by
resettling some 10,000 settlers in the First Division and the Third Division
near the border areas with Indonesian Kalimantan. The settlers were placed in
three ‘new villages’ fenced in with barbed wire, similar to those set up during
the 1948-60 Emergency in Malaya. 31 As a result of this operation, the
insurgents like their counterparts in Malaya could not receive food supplies
and other means of support from their Chinese and Dayak supporters.
Skirmishes with the security forces took place intermittently until overtures
were made by the Sarawak Chief Minister Abdul Rahman Ya’akub to the
insurgents and he succeeded in persuading them to lay down their arms.
Communist influence in the SUPP was only brought under control after the
party adopted a change of policy after the riots on May 13, 1969, when it
finally supported the formation of Malaysia and agreed to join the ruling
Alliance coalition in the Sarawak Council Negri. In Peninsular Malaysia, the split in the CPM eventually brought the
surrender of two factions which had merged and comprised 700 guerrillas.
They surrendered to Thai troops in December 1987, and it was reported that
only 1300 guerrillas of the original CPM’s 8th, 10th and 12th Regiments
remained active.32 On 5 November 1989 the Malaysian government revealed
that it was holding discussions with the CPM and the Thai military
commanders and groups close to the CPM. The talks had gone on for almost
a year. On 2 December 1989 the CPM agreed to end its armed struggle and
signed separate formal peace treaties with the Malaysian Government and
Thailand’s southern military commanders. 33 It was this agreement that
persuaded the Sarawak guerrillas in the NKCP to lay down their arms as well
in 1990. Six months later, the Deputy Inspector General of Police reported
that the CPM had fulfilled its obligations by surrendering its arms, which
were destroyed. He also reported that CPM members were helping to find
effective ways to destroy some 45,000 booby traps laid by its guerrillas along
the Malaysian-Thai border.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ลดลงและสิ้นสุด ในมาเลเซียตะวันตก และ ในซาราวัคของแดนทศวรรษ 1970 และทศวรรษที่ 1980 เห็น CPM ที่กระชับของกิจกรรมการก่อการร้าย และการปะทะกันกับกองกำลังรักษาความปลอดภัย กลุ่มคอมมิวนิสต์พยายามระเบิดอนุสรณ์สถานแห่งชาติในกัวลาลัมเปอร์ ambushes ของกองกำลังตำรวจฟิลด์ดำเนินการ และประสบความสำเร็จในการผ่านหัวหน้าตำรวจรัฐเปรัคและ-ราชการตำรวจ กิจกรรมเหล่านี้ได้เนื่องจากการแข่งขันระหว่างฝ่ายที่สามในการ CPM แยกที่เคยทิ้งพรรคและกลยุทธ์และต่างฝ่ายต่างพยายามเช่นกันใน militancy และความรุนแรง ที่ในระหว่างการบริหารงานของนายกสามถูกจังภัยคุกคามคอมมิวนิสต์รัฐมนตรี Hussein อ่อ (1976-81) ที่มันได้กล่าวหารัฐบาลได้ถูกแทรกซึม และมีอิทธิพลคอมมิวนิสต์ระหว่าง UMNO นักการเมืองข้อกล่าวหาเหล่านี้เกิดขึ้นในเมือง UMNO ระหว่างของพรรคการเลือกตั้งประจำปีสำหรับกระทู้ด้านบน และได้ดำเนินการอย่างจริงจังดังนั้น UMNO ที่สองรองรัฐมนตรีและนักข่าวมาเลย์หลายถูกกักตัวในกลุ่มคอมมิวนิสต์กิจกรรมอย่างไรก็ตาม ใน 1973-4 เป็นชัยชนะสำคัญที่ทำ โดยรัฐบาลเมื่อซาราวัคคอมมิวนิสต์ขององค์กร (พร้อม SCO) อย่างใดอย่างหนึ่งผู้นำ บองโชคขี้ ถูกเกลี้ยกล่อมให้ยอมแพ้ โดยลูกศิษย์ที่ 481 กลุ่มที่ทำค่าประมาณ 75% ของกองกำลังคอมมิวนิสต์ทั้งหมดในรัฐ ส่วนเหลือตามเหมาะสมกับภายใต้แอคคอร์ดสันติภาพอีกในปี 1990 แดนจีน led ในซาราวัคเริ่มทันทีหลังจากบรูไนอัพไรซิ่งใน 1962 ธันวาคมเมื่อสมาชิกพร้อม SCO ร่วมกบฏบรูไนในป่า และ teamed ขึ้นมีทหารอินโดนีเซียภายใต้อินโดนีเซีย 'เผชิญหน้า' ของมาเลเซีย ที่พวกก่อการร้ายเกิดขึ้นเหนือกาลิมันตันคอมมิวนิสต์พรรค (NKCP) ในปี 1970มีแพร่กระจายจากจีนคอมมิวนิสต์ผ่านโรงเรียนจีนของ Sarawak ในทศวรรษ 1940 โดย และหลังจากสงครามแพร่กระจาย ต่อไปในการเคลื่อนย้ายแรงงาน และผ่านแทรกซึมภายในของ Sarawak แรกพรรคการเมือง การ predominantlyChineseซาราวัคสหพรรคประชาชน ซึ่งก่อตั้งขึ้นในเดือน 1959.30 มิถุนายนของคนในท้องถิ่นสนับสนุนการก่อการร้ายในซาราวัค ลดการรัฐบาลตัดสินใจในปี 1965 เพื่อแนะนำ "พื้นที่ควบคุม" ด้วยresettling ตั้งถิ่นฐานบาง 10000 ในส่วนแรกและส่วนที่สามใกล้เขตแดนกับกาลิมันตันอินโดนีเซีย ตั้งถิ่นฐานที่อยู่ในสาม "ใหม่หมู่บ้าน' รั้ว ด้วยลวดหนาม คล้ายกับที่ตั้งค่าในระหว่างการฉุกเฉิน 1948 60 ในสหพันธรัฐมาลายา 31 ผลการดำเนินการนี้ การพวกก่อการร้ายเช่นคู่ของพวกเขาในสหพันธรัฐมาลายาได้รับเสบียงและวิธีการอื่น ๆ ของการสนับสนุนจากการสนับสนุนจีนและ Dayakการต่อสู้กับกองกำลังรักษาความปลอดภัยเกิดขึ้นเป็นระยะ ๆ จนถึง overturesโดยซาราวัคว่า Abdul Rahman Ya'akub เพื่อทำการพวกก่อการร้ายและเขาประสบความสำเร็จในการจูงใจให้วางอาวุธของพวกเขาอิทธิพลของคอมมิวนิสต์ในซัพพลายเฉพาะถูกนำภายใต้การควบคุมหลังจากฝ่ายนำการเปลี่ยนแปลงของนโยบายหลังจากการจลาจลบน 13 พฤษภาคม 1969 เมื่อนั้นในที่สุดได้รับการสนับสนุนการก่อตัวของมาเลเซีย และตกลงเข้าหุรัฐบาลพันธมิตรใน Negri สภาซาราวัค ในคาบสมุทรมาเลเซีย แยกใน CPM ในที่สุดมาการยอมจำนนของสองฝ่ายที่มาผสานรวมกัน และประกอบด้วยพวก 700พวกเขา surrendered กับทหารไทยในเดือน 1987 ธันวาคม และมีรายงานที่พวก 1300 เท่าของ Regiments 8, 10 และ 12 เดิมหน้า/นาทียังคงอยู่ active.32 บน 5 1989 พฤศจิกายนรัฐบาลมาเลเซียเปิดเผยได้จับกับ CPM และทหารไทยผู้นำและกลุ่มปิดการ CPM เจรจาได้หายไปในเกือบปี บน 2 1989 ธันวาคม CPM ที่ตกลงเพื่อจบการต่อสู้อาวุธ และการลงนามสนธิสัญญาสันติภาพแยกต่างหากอย่างเป็นทางการกับรัฐบาลมาเลเซีย และของประเทศไทยภาคใต้ทหารระดับผู้บัญชาการ 33 มันเป็นข้อตกลงที่เกลี้ยกล่อมพวกซาราวัคใน NKCP การวางแขนของพวกเขาเช่นกันในปี 1990 หกเดือน รายงานราชการรองของตำรวจว่า CPM ที่ได้ปฏิบัติ โดย surrendering ของแผ่นดิน ซึ่งถูกทำลาย เขายังรายงานว่า สมาชิก CPM ได้ช่วยหาวิธีที่มีประสิทธิภาพการทำลายบาง 45000 อาวุธวาง โดยพวกมันตามเขตแดนมาเลเซียไทย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ลดลงก่อความไม่สงบและสิ้นสุดในคาบสมุทรมาเลเซียและในรัฐซาราวักปี 1970 และ 1980 เห็น CPM กระชับกิจกรรมของการก่อการร้ายและการปะทะกับกองกำลังรักษาความปลอดภัย กลุ่มคอมมิวนิสต์พยายามที่จะระเบิดขึ้นอนุสรณ์สถานแห่งชาติในกรุงกัวลาลัมเปอร์ดำเนินการซุ่มโจมตีของกองกำลังตำรวจและเขตประสบความสำเร็จในการลอบสังหารหัวหน้าตำรวจรัฐเประของและผู้ตรวจราชการกรมตำรวจ กิจกรรมเหล่านี้ได้เนื่องจากการแข่งขันในหมู่สามกลุ่มใน CPM แยกได้รับมากกว่ากวาดล้างบุคคลและกลยุทธ์และแต่ละฝ่ายพยายามที่จะเอาชนะในความเข้มแข็งและความรุนแรง คอมมิวนิสต์คุกคามร้ายแรงดังนั้นในช่วงการบริหารงานของบุคคลที่สามนายกรัฐมนตรีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงฮุสเซนออนน์ (1976-1981) ที่ถูกกล่าวหารัฐบาลที่ได้รับการแทรกซึมและมีอิทธิพลของพรรคคอมมิวนิสต์ในหมู่นักการเมืองUMNO. ข้อกล่าวหาเหล่านี้เกิดขึ้นในความร้อนของการเมือง UMNO ระหว่างพรรคการเลือกตั้งประจำปีสำหรับการโพสต์บนและถูกนำอย่างจริงจังว่าทั้งสอง UMNO รัฐมนตรีว่าการกระทรวงรองผู้อำนวยการและนักหนังสือพิมพ์มาเลย์หลายคนถูกกักตัวไว้สำหรับคอมมิวนิสต์กิจกรรม. อย่างไรก็ตามใน 1973-4 ชัยชนะได้รับคะแนนโดยที่สำคัญรัฐบาลเมื่อหนึ่งในรัฐซาราวักองค์การคอมมิวนิสต์(SCO) ผู้นำบงกีหนองจอกได้รับการชักชวนให้ยอมจำนนกับ481 ผู้ติดตาม กลุ่มที่ทำขึ้นประมาณ 75% ของกำลังคอมมิวนิสต์รวมในรัฐ ส่วนที่เหลือที่ใช้ชุดภายใต้การตกลงสันติภาพอีกในปี 1990 การประท้วงจีนนำในรัฐซาราวักเริ่มทันทีหลังจากการจลาจลบรูไนในธันวาคม1962 เมื่อสมาชิก SCO เข้าร่วมกบฏบรูไนอยู่ในป่าและร่วมกับทหารอินโดนีเซียภายใต้'เผชิญหน้า' อินโดนีเซียมาเลเซีย . ก่อความไม่สงบที่เกิดขึ้นทางตอนเหนือของกาลิมันตันพรรคคอมมิวนิสต์ (NKCP) ในปี 1970 ลัทธิคอมมิวนิสต์มีการแพร่กระจายจากประเทศจีนผ่านโรงเรียนจีนซาราวักในปี 1940 และหลังจากที่สงครามการแพร่กระจายต่อไปในขบวนการแรงงานและผ่านการแทรกซึมภายในพรรคการเมืองรัฐซาราวักแรกpredominantlyChinese รัฐซาราวักประเทศ บุคคลที่ประชาชนซึ่งถูกสร้างขึ้นในเดือนมิถุนายน 1,959.30 เพื่อลดการสนับสนุนคนในท้องถิ่นสำหรับการก่อความไม่สงบในรัฐซาราวักที่รัฐบาลตัดสินใจในปี 1965 ที่จะแนะนำ 'พื้นที่ควบคุมโดยจัดแจง10,000 มาตั้งถิ่นฐานในส่วนแรกและส่วนที่สามที่อยู่ใกล้พื้นที่ชายแดนกับอินโดนีเซียกาลิมันตัน เข้ามาตั้งถิ่นฐานอยู่ในสามหมู่บ้านใหม่ 'ไม่พอใจด้วยลวดหนามคล้ายกับที่ตั้งขึ้นมาในช่วง 1948-1960 ฉุกเฉินในแหลมมลายู วันที่ 31 อันเป็นผลมาจากการดำเนินการนี้การก่อความไม่สงบเช่นคู่ของพวกเขาในแหลมมลายูอาจไม่ได้รับเสบียงอาหารและวิธีการอื่นๆ ของการสนับสนุนจากผู้สนับสนุนจีนและ Dayak ของพวกเขา. การต่อสู้กับกองกำลังรักษาความปลอดภัยที่เกิดขึ้นเป็นระยะ ๆ จนวิสัยทัศน์ที่ถูกสร้างขึ้นโดยรัฐซาราวักหัวหน้าคณะรัฐมนตรีอับดุลเราะห์มาน Ya'akub กับพวกก่อการร้ายและเขาประสบความสำเร็จในการจูงใจให้พวกเขาวางอาวุธของพวกเขา. อิทธิพลของพรรคคอมมิวนิสต์ใน SUPP ถูกนำเพียงภายใต้การควบคุมหลังจากที่บุคคลที่นำการเปลี่ยนแปลงนโยบายการจลาจลหลังจากที่เมื่อวันที่13 พฤษภาคม 1969 เมื่อมันได้รับการสนับสนุนในที่สุดการก่อตัวของมาเลเซียและตกลงที่จะเข้าร่วมการพิจารณาคดีพันธมิตรพันธมิตรในรัฐซาราวักสภา Negri ในคาบสมุทรมาเลเซีย, แยกใน CPM ในที่สุดนำยอมจำนนของทั้งสองฝ่ายซึ่งได้รวมและประกอบด้วย700 กองโจร. พวกเขายอมจำนนต่อกองกำลังของไทยในเดือนธันวาคมปี 1987 และมีรายงานว่าเพียง1300 การรบแบบกองโจรของเดิม CPM 8, 10 และ 12 ทหารยังคงactive.32 ที่ 5 พฤศจิกายน 1989 รัฐบาลมาเลเซียเปิดเผยว่าถือหารือกับCPM และกองทัพไทยแม่ทัพนายกองและกลุ่มใกล้กับCPM พูดถึงได้ไปเกือบปี ที่ 2 ธันวาคม 1989 CPM ตกลงที่จะยุติการต่อสู้ด้วยอาวุธและลงนามในสนธิสัญญาสันติภาพที่แยกจากกันอย่างเป็นทางการกับรัฐบาลมาเลเซียและผู้บัญชาการกองทัพภาคใต้ของไทย 33 มันเป็นข้อตกลงนี้ที่เกลี้ยกล่อมกองโจรซาราวักในNKCP วางแขนของพวกเขาได้เป็นอย่างดีในปี1990 หกเดือนต่อมารองจเรตำรวจรายงานว่าCPM ได้ปฏิบัติตามพันธกรณีของตนโดยการยอมจำนนแขนซึ่งถูกทำลาย นอกจากนี้เขายังมีรายงานว่าสมาชิก CPM กำลังให้ความช่วยเหลือที่จะหาวิธีที่มีประสิทธิภาพในการทำลายบางส่วน45,000 หลุมพรางวางโดยการรบแบบกองโจรของตนพร้อมชายแดนไทยมาเลเซีย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การก่อความไม่สงบลดลงและสิ้นสุดในคาบสมุทรมาเลเซียและซาราวัก
ปี 1970 และ 1980 เห็น CPM กระชับกิจกรรมการก่อการร้ายและ
การปะทะกับกองกำลังความมั่นคง . กลุ่มคอมมิวนิสต์พยายามที่จะระเบิด
อนุสาวรีย์แห่งชาติในกัวลาลัมเปอร์ ดําเนินการโดยกองกำลังด้านตำรวจและประสบความสำเร็จในการลอบสังหารหัวหน้าตำรวจของรัฐเปรัคและ
ผู้ตรวจการทั่วไปของตำรวจกิจกรรมเหล่านี้เนื่องจากมีการแข่งขันกันระหว่าง
3 กลุ่มใน CPM แยกได้มากกว่าพรรคกวาดล้างและกลยุทธ์
และแต่ละฝ่ายพยายามที่จะเอาชนะกันในความเข้มแข็งและความรุนแรง
คอมมิวนิสต์เป็นภัยคุกคามร้ายแรงดังนั้นในช่วงการบริหารงานของนายกรัฐมนตรี 3
วัดโฮริว ( 1976-81 ) ที่ถูกกล่าวหาว่ารัฐบาลได้รับ
แทรกซึมและมีอิทธิพลของคอมมิวนิสต์ในหมู่นักการเมือง Umno .
ข้อกล่าวหาเหล่านี้เกิดขึ้นในความร้อนของการเมือง Umno ช่วง
งานเลี้ยงประจำปีสำหรับการเลือกตั้งโพสต์ด้านบน และถูกถ่ายอย่างจริงจังว่าสอง Umno
รองรัฐมนตรีและสื่อมวลชนมาเลย์หลายถูกกักตัวเพื่อกิจกรรมของพรรคคอมมิวนิสต์
.
แต่ใน 1973-4 ชัยชนะใหญ่คือคะแนนโดย รัฐบาล
เมื่อหนึ่งของคนในองค์การคอมมิวนิสต์ ( SCO ) ผู้นำ บง
คี จอก ถูกเกลี้ยกล่อมให้ยอมแพ้กับ 481 คน กลุ่มทำ
ขึ้นประมาณ 75% ของฝ่ายคอมมิวนิสต์ทั้งหมดในรัฐ ส่วนที่เหลือตาม
ชุดภายใต้อื่นข้อตกลงสร้างสันติภาพในปี 1990 จีนนำการจลาจลใน
ซาราวักเริ่มทันทีหลังจากที่บรูไนถึงธันวาคม 1962
เมื่อสมาชิก SCO เข้าบรูไนกบฏในป่าทึบ และร่วมมือกับทหารใต้อินโดนีเซียอินโดนีเซีย
' เผชิญหน้า ' ของมาเลเซีย
การก่อความไม่สงบขึ้นเหนือพรรคคอมมิวนิสต์กาลิมันตัน ( nkcp ) ในปี 1970
คอมมิวนิสต์ได้แพร่กระจายจากประเทศจีนผ่านซาราวักของโรงเรียนจีนใน
1940 และหลังสงครามแพร่กระจายต่อไปในขบวนการแรงงานและ
ผ่านเข้าไปภายในพรรคการเมืองแรกซาราวัก , งานเลี้ยง predominantlychinese
ซาราวักของประชาชน ซึ่งก่อตั้งขึ้นในเดือนมิถุนายน 1959.30
ลดการสนับสนุนชุมชนท้องถิ่น เพื่อก่อความไม่สงบในรัฐซาราวัก
รัฐบาลตัดสินใจใน 1965 แนะนำควบคุมพื้นที่โดย
resettling บาง 10 , 000 ตั้งถิ่นฐานในดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 3
ใกล้พื้นที่ชายแดนกับอินโดกาลิมันตัน . ตั้งถิ่นฐานอยู่ใน ' บ้าน '
3 ใหม่ ล้อมรั้วด้วยลวดหนาม คล้ายกับการตั้งค่าในระหว่าง
1948-60 ฉุกเฉินในแหลมมลายู 31 ผลของการผ่าตัดนี้
ไม่เหมือนคู่ของพวกเขาในการที่จะไม่รับเสบียงอาหาร
และวิธีการอื่นของการสนับสนุนจากจีนและดายัค
ผู้สนับสนุนการต่อสู้กับกองกำลังความมั่นคงเกิดขึ้นเป็นระยะๆ จนถึงการทาบทาม
ถูกสร้างโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงหัวหน้าซาราวัก Abdul Rahman ya'akub กับ
กบฎและเขาประสบความสำเร็จในการจูงใจให้วางแขนของพวกเขา .
คอมมิวนิสต์อิทธิพลใน supp แค่นำภายใต้การควบคุมหลังจาก
พรรคประกาศใช้การเปลี่ยนแปลงของนโยบายหลังจากการจลาจลในเดือนพฤษภาคม 13 , 1969 เมื่อ
ในที่สุดได้รับการสนับสนุนการพัฒนาของประเทศมาเลเซียและตกลงที่จะเข้าร่วมรัฐบาล
พรรคในสภาซาราวัก เนกรี . ในคาบสมุทรมาเลเซีย , แยกใน CPM ในที่สุดนำ
ยอมแพ้ของสองฝ่ายที่ผสานระหว่าง 700 กองโจร
พวกเขายอมจำนนต่อทหารไทยในเดือนธันวาคม 1987 และมีรายงานว่า
เพียง 1300 กองโจรของเดิมเป็น 8 ครั้ง ,10 และ 12 ทหาร
ยังคง active.32 วันที่ 5 พฤศจิกายน 1989 รัฐบาลมาเลเซียเปิดเผย
มันถือการสนทนากับ CPM และทหารไทย
และผู้บัญชาการกลุ่มใกล้เคียงกับ CPM การเจรจามีขึ้นเกือบ
ปี เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม ค.ศ. 1989 CPM ตกลงที่จะสิ้นสุดการต่อสู้ด้วยอาวุธและลงนามในสนธิสัญญาสันติภาพกับแยกเป็นทางการ

รัฐบาลมาเลเซียและประเทศไทยเป็นผู้บัญชาการทหารภาคใต้ มันเป็นข้อตกลงที่
ชักชวนคนในกองโจรใน nkcp วางแขนของพวกเขาเช่นกัน
ในปี 1990 หกเดือนต่อมา สารวัตรรองผู้อำนวยการทั่วไปของตำรวจรายงานว่าได้สำเร็จ
CPM พันธกรณีโดยการยอมจำนนของแขนซึ่ง
ถูกทำลาย เขายังรายงานว่า CPM สมาชิกช่วยหา
วิธีที่มีประสิทธิภาพในการทำลายบาง 45000 booby traps วางโดยกองโจรตาม

ชายแดนไทยมาเลเซีย