Figure 3B shows the enzyme-digested

Figure 3B shows the enzyme-digested rat lung tissue containing 70- and
250-nm manufactured SiO2 particles at the same concentration as in the reference
sample (2:1 ratio). The inset graph is a magnified version of the circled area
showing that we were clearly able to detect 2 particle sizes from a tissue sample. particles. The difference in the relative sizes of the 70- and 250-nm peaks in the
reference samples is due to the size-dependent sensitivity of the light scattering
detector. Rayleigh scattering theory predicts that scattering intensity from a single
particle varies with the dp6 where dp is particle geometric diameter. However,
the number of particles for a given mass increases inversely with the dp3, and the
mass ratio of the 70 to 250 nm particles was 2:1. Thus the expected ratio of peak
areas would be about 23:1. A similar experiment using a mixture of 80-nm and
500-nm particles in enzyme-digested rat lung tissue also produced the expected
bimodal fractogram (data not shown). The geometrical size of the 70-nm particles
was confirmed by transmission electron microscopy (TEM) of a sample collected
after the SdFFF separation [19].

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

รูป 3B แสดงเนื้อเยื่อปอดหนูย่อยเอนไซม์ประกอบด้วย 70 - และ250 nm ผลิต SiO2 อนุภาคที่ความเข้มข้นเดียวกันในการอ้างอิงตัวอย่าง (อัตราส่วน 2:1) กราฟแทรกเป็นรุ่นขยายพื้นที่วนแสดงว่า เราได้ชัดเจนสามารถตรวจสอบขนาดอนุภาค 2 จากตัวอย่างเนื้อเยื่อ อนุภาค ความแตกต่างของขนาดที่เปรียบเทียบของยอด 70 - และ 250-nm ในการตัวอย่างอ้างอิงได้เนื่องจากความไวขึ้นอยู่กับขนาดของ scattering แสงเครื่องตรวจจับ ทฤษฎี rayleigh scattering ทำนายความเข้มที่ scattering จากเดียวอนุภาคแตกต่างกันไป dp6 ที่ dp เป็นเส้นผ่าศูนย์กลางเรขาคณิตของอนุภาค อย่างไรก็ตามจำนวนอนุภาคสำหรับกำหนดมวลเพิ่มขึ้น inversely กับ dp3 และอัตราส่วนมวลของอนุภาคนาโนเมตร 70-250 มี 2:1 ดังนั้นอัตราส่วนที่คาดไว้ของพีคพื้นที่จะเกี่ยวกับ 23:1 คล้ายการทดลองโดยใช้ส่วนผสมของ 80 nm และอนุภาค 500 nm ในปอดหนูย่อยเอนไซม์ยังผลิตที่คาดไว้bimodal fractogram (ข้อมูลไม่แสดง) Geometrical ขนาดอนุภาค 70 นาโนเมตรยืนยัน โดยการส่งผ่านอิเล็กตรอน microscopy (ยการ) ของตัวอย่างที่เก็บรวบรวมหลังจากแยก SdFFF [19]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

รูปที่ 3B แสดงให้เห็นว่าหนูเอนไซม์ที่ย่อยสลายเนื้อเยื่อปอดที่มี 70 และ
250 นาโนเมตรผลิตอนุภาค SiO2
ที่มีความเข้มข้นเช่นเดียวกับในการอ้างอิงตัวอย่าง(2: 1) กราฟสิ่งที่ใส่เข้าไปเป็นรุ่นขยายของพื้นที่วงกลมแสดงให้เห็นว่าเราได้อย่างชัดเจนสามารถตรวจสอบ 2 ขนาดอนุภาคจากตัวอย่างเนื้อเยื่อ
อนุภาค ความแตกต่างในขนาดที่สัมพันธ์กันของ 70 และยอด 250 นาโนเมตรในตัวอย่างอ้างอิงเป็นเพราะความไวขึ้นอยู่กับขนาดของกระเจิงแสงตรวจจับ ทฤษฎีการกระเจิง Rayleigh คาดการณ์ว่าการกระจายความเข้มจากเดียวอนุภาคแตกต่างกันไปด้วยdp6 DP ที่เป็นอนุภาคขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเรขาคณิต อย่างไรก็ตามจำนวนของอนุภาคสำหรับการเพิ่มขึ้นของมวลได้รับผกผันกับ DP3 และอัตราส่วนโดยมวลของ70-250 อนุภาคนาโนเมตรเป็น 2: 1 ดังนั้นจึงคาดว่าอัตราส่วนสูงสุดของพื้นที่จะประมาณ 23: 1 การทดลองที่คล้ายกันโดยใช้ส่วนผสมของ 80 นาโนเมตรและอนุภาค 500 นาโนเมตรเอนไซม์ที่ย่อยสลายเนื้อเยื่อปอดหนูยังผลิตที่คาดว่าจะ fractogram bimodal (ไม่ได้แสดงข้อมูล) ขนาดทางเรขาคณิตของอนุภาค 70 นาโนเมตรได้รับการยืนยันโดยการส่งผ่านกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน(TEM) ของตัวอย่างที่เก็บรวบรวมหลังจากแยกSdFFF เมื่อ [19]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

รูปที่ 3B แสดงเอนไซม์ย่อยเนื้อเยื่อปอดหนูที่มี 70 -
250 nm ผลิตอนุภาคซิลิกอนไดออกไซด์ที่ความเข้มข้นเดียวกันในการอ้างอิง
ตัวอย่าง ( 2 อัตรา ) การใส่กราฟจะขยายรุ่นของวงกลมพื้นที่
แสดงว่าเราอย่างชัดเจนสามารถตรวจจับ 2 ขนาดอนุภาคจากตัวอย่างเนื้อเยื่อ อนุภาค ความแตกต่างในขนาดสัมพัทธ์ของ 70 - 250 nm ยอดใน
ตัวอย่างการอ้างอิงเนื่องจากขนาดขึ้นอยู่กับความไวของแสงกระจาย
เครื่องตรวจจับ Rayleigh scattering ทฤษฎีคาดการณ์ว่า การกระจายความเข้มจากอนุภาคเดียว
ขึ้นอยู่กับ DP6 ที่ DP เป็นอนุภาคของเส้นผ่าศูนย์กลาง อย่างไรก็ตาม
จำนวนอนุภาคเพื่อให้มวลเพิ่มขึ้นผกผันกับ dp3 และ
อัตราส่วนมวลของ 70 250 nm อนุภาคคือ 2 : 1 .จึงคาดว่าอัตราส่วนของพื้นที่สูงสุด
จะประมาณ 1 . คล้ายกับการทดลอง โดยใช้ส่วนผสมของ 80 nm และ
500 nm อนุภาคในเอนไซม์ย่อยเนื้อเยื่อปอดที่หนูคาด
ไบโมดอล fractogram ( ข้อมูลไม่แสดง ) ขนาดทางเรขาคณิตของ 70 nm อนุภาค
ถูกยืนยันโดยส่งกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน ( TEM ) ของการเก็บตัวอย่าง
หลังจากแยก sdfff [ 19 ] .