Once the upward force of air resist

Once the upward force of air resistance upon an object is large enough to balance the downward force of gravity, the object is said to have reached a terminal velocity. The terminal velocity is the final velocity of the object; the object will continue to fall to the ground with this terminal velocity. In the case of the elephant and the feather, the elephant has a much greater terminal velocity than the feather. As mentioned above, the elephant would have to accelerate for a longer period of time. The elephant requires a greater speed to accumulate sufficient upward air resistance force to balance the downward force of gravity. In fact, the elephant never does reach a terminal velocity; the animation above shows that there is still an acceleration on the elephant the moment before striking the ground. If we were to depict the relative magnitude of the two forces acting upon the elephant and the feather at various times in their fall, perhaps it would appear as shown below. (NOTE: The magnitude of the force vector is indicated by the relative size of the arrow.)

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เมื่อแรงต้านอากาศตามวัตถุขึ้นเป็นพอเพียงสมดุลแรงโน้มถ่วงลง วัตถุที่กล่าวถึงความเร็วเทอร์มินัล ความเร็วสุดท้ายของวัตถุ เป็นความเร็วเทอร์มินัล วัตถุจะยังตกสู่พื้นด้วยความเร็วนี้เทอร์มินัล ในกรณีของช้างและขน ช้างมีมากมากกว่าสถานีความเร็วกว่าขน ดังกล่าวข้างต้น ช้างจะต้องเร่งเป็นเวลานานของเวลา ช้างต้องการความเร็วสูงเพื่อสะสมแรงต้านทานอากาศขึ้นด้านบนพอสมดุลแรงโน้มถ่วงลง ในความเป็นจริง ช้างไม่ถึงความเร็วเทอร์มินัล ภาพเคลื่อนไหวข้างต้นแสดงว่ายังมีการเร่งความเร็วบนช้างช่วงก่อนพื้นโดดเด่น ถ้าเราแสดงขนาดของกองกำลังทั้งสองทำหน้าที่ช้างและนกที่เวลาต่าง ๆ ในฤดูใบไม้ร่วงของญาติ บางทีมันจะปรากฏดังต่อไปนี้ (หมายเหตุ: ขนาดของเวกเตอร์แรงถูกบ่งชี้ ด้วยลูกศรขนาดญาติกัน)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เมื่อแรงขึ้นของแรงต้านของอากาศเมื่อวัตถุมีขนาดใหญ่พอที่จะปรับสมดุลแรงลงของแรงโน้มถ่วงวัตถุที่มีการกล่าวถึงมีรายได้ถึงความเร็วปลาย ความเร็วขั้วเป็นความเร็วสุดท้ายของวัตถุ; วัตถุจะยังคงตกอยู่กับพื้นดินด้วยความเร็วสถานีนี้ ในกรณีของช้างและขนช้างมีความเร็วปลายมากขึ้นกว่าขนนก ดังกล่าวข้างต้นช้างจะมีการเร่งการเป็นระยะเวลานานของเวลา ช้างต้องใช้ความเร็วมากขึ้นที่จะสะสมแรงต้านของอากาศสูงขึ้นเพียงพอที่จะรักษาความสมดุลของแรงโน้มถ่วงของโลกลดลง ในความเป็นจริงช้างไม่เคยไม่ถึงความเร็วปลาย; การเคลื่อนไหวดังกล่าวข้างต้นแสดงให้เห็นว่ายังคงมีการเร่งความเร็วในช้างเป็นช่วงเวลาก่อนที่จะโดดเด่นพื้นดิน ถ้าเราจะเห็นภาพขนาดญาติของทั้งสองกองกำลังทำหน้าที่อยู่กับช้างและขนนกในหลาย ๆ ครั้งในฤดูใบไม้ร่วงของพวกเขาบางทีก็จะปรากฏที่แสดงด้านล่าง (หมายเหตุ: ขนาดของเวกเตอร์แรงถูกระบุด้วยขนาดที่สัมพันธ์กันของลูกศร.)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เมื่อขึ้นแรงต้านของอากาศ เมื่อวัตถุมีขนาดใหญ่เพียงพอเพื่อความสมดุลของแรงที่ลดลงของแรงโน้มถ่วงของวัตถุกล่าวว่ามีถึงความเร็วปลาย . ขั้วความเร็วความเร็วสุดท้ายของวัตถุ วัตถุจะตกถึงพื้นด้วยความเร็วปลาย . ในกรณีของช้างและขนนกช้างมีมากขึ้นความเร็วปลายกว่าขนนก ดังกล่าวข้างต้น ช้างจะต้องเร่งสำหรับระยะเวลานานของเวลา ช้างต้องการความเร็วมากขึ้นเพื่อสะสมเพียงพอขึ้น แรงต้านอากาศให้สมดุล แรงต่ำของแรงโน้มถ่วง ในความเป็นจริง , ช้างไม่เคยเข้าถึงความเร็วปลาย ;การเคลื่อนไหวข้างต้นแสดงให้เห็นว่ายังคงมีการเร่งในช่วงเวลาก่อนที่ช้างกับพื้นดิน ถ้าเราแสดงถึงความสำคัญของญาติของทั้งสองกำลังแสดงอยู่บนช้างและขนนกในช่วงเวลาต่าง ๆ ในฤดูใบไม้ร่วงของพวกเขา มันอาจจะปรากฏดังแสดงด้านล่าง ( หมายเหตุ : ขนาดของแรงเวกเตอร์ แสดงโดยขนาดสัมพัทธ์ของลูกศร )