It should be noted, however, that t

It should be noted, however, that the effect sizes of the meta-analysis had a wide range (ES ranged from 0.22 to 1.31), suggesting that some unexamined factors influence self-talk and performance. Hardy (2006)indicated that self-talk is difficulty to define as a single construct, and suggested that self-talk be considered as a) statements to the self, b) multidimensional, c) having interpretive elements associated with the statements, d) dynamic, and e) serve at least instructive and motivational functions. These multiple characteristics provide guides for further investigation of the relationship between self-talk and performance. Indeed, Tod et al. (2011) argued that researchers should shift their focus from “first-generation questions”, that is, examination of self-talk effects on performance, to “second-generation questions”, that is, investigation of moderators and mediators underlying the relationship. Herein, the present study emphasizes two moderators, nature of self-talk and type of motor task, as well as a mediator, self-efficacy, to add to the current knowledge base.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ก็ควรจดบันทึก อย่างไรก็ตาม ขนาดผลของ meta-analysis มีความหลากหลาย (ES อยู่ในช่วงจาก$ 0.22 การ 1.31), แนะนำว่า ปัจจัยบางอย่าง unexamined มีอิทธิพลต่อตนเองพูด และประสิทธิภาพ ฝรั่ง (2006) ระบุว่า ตนเองพูดเป็นปัญหาเพื่อกำหนดเป็นโครงสร้างเดียว และแนะนำที่ตนเองพูดถือเป็น) งบเพื่อตนเอง ขหลาย c) มี interpretive องค์ประกอบเชื่อมโยงกับใบแจ้งยอด d) แบบไดนามิก และ e) บริการที่ให้คำแนะนำ และหัด ลักษณะเหล่านี้หลายให้คำแนะนำเพิ่มเติมการตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างตนเองพูด และประสิทธิภาพ แน่นอน Tod et al. (2011) โต้เถียงว่า นักวิจัยควรเปลี่ยนโฟกัสของพวกเขาจาก "รุ่นถาม" นั่นคือ การตรวจสอบตนเองพูดคุยผลประสิทธิภาพ "second-generation ถาม" นั่นคือ การตรวจสอบผู้ควบคุมและอักเสบต้นความสัมพันธ์ นี้ การศึกษาปัจจุบันเน้นผู้ควบคุมสอง ธรรมชาติของตนเองพูด และงานมอเตอร์ ชนิดรวมทั้งเป็นผู้ไกล่เกลี่ย ประสิทธิภาพตนเอง เพื่อเพิ่มฐานความรู้ของปัจจุบัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มันควรจะสังเกตเห็นอย่างไรว่าขนาดอิทธิพลของ meta-analysis มีหลากหลาย (ES อยู่ระหว่าง 0.22-1.31) ชี้ให้เห็นว่าปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการ unexamined บางตัวเองพูดและประสิทธิภาพการทำงาน ฮาร์ดี้ (2006) ชี้ให้เห็นว่าตัวเองพูดเป็นความยากลำบากที่จะกำหนดเป็นโครงสร้างเดียวและชี้ให้เห็นว่าได้รับการพิจารณาตัวเองพูดเป็น) งบเพื่อตนเอง b) หลายมิติค) มีองค์ประกอบที่สื่อความหมายที่เกี่ยวข้องกับงบที่ง) แบบไดนามิกและจ) ให้บริการอย่างน้อยฟังก์ชั่นให้คำแนะนำและสร้างแรงบันดาลใจ เหล่านี้หลายลักษณะให้คำแนะนำสำหรับการสืบสวนต่อไปของความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองพูดและประสิทธิภาพการทำงาน แท้จริงท็อด et al, (2011) ที่ถกเถียงกันอยู่ว่านักวิจัยควรเปลี่ยนโฟกัสของพวกเขาจากคำถาม "รุ่นแรก" ซึ่งก็คือการตรวจสอบผลกระทบที่ตัวเองพูดกับประสิทธิภาพการทำงานเพื่อ "คำถามรุ่นที่สอง" ซึ่งก็คือการตรวจสอบของผู้ดูแลและผู้ไกล่เกลี่ยพื้นฐานความสัมพันธ์ ที่นี้การศึกษานี้เน้นสองผู้ดูแลธรรมชาติของตัวเองพูดและประเภทของงานมอเตอร์เช่นเดียวกับการเป็นคนกลางตนเองประสิทธิภาพเพื่อเพิ่มฐานความรู้ในปัจจุบัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มันควรจะสังเกต อย่างไรก็ตาม ผลขนาดของการวิเคราะห์ได้หลากหลาย ( คือมีค่าระหว่าง 0.22 ถึง 1.31 ) แนะนำว่า บาง unexamined ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อตนเองพูดและการแสดง ฮาร์ดี ( 2006 ) พบว่า ตนเองพูด มันยากที่จะกำหนดให้เป็นหนึ่งเดียว สร้าง และพบว่าตนเองพูด ถือเป็น ) งบเพื่อตนเอง ข ) แบบพหุมิติc ) มีองค์ประกอบแปลที่เกี่ยวข้องกับบริษัท D ) แบบไดนามิกและ E ) ให้บริการอย่างน้อยความรู้และแรงจูงใจการทำงาน หลายลักษณะเหล่านี้ให้แนวทางการสืบสวนต่อไปของความสัมพันธ์ระหว่างที่ตนเองพูด และประสิทธิภาพ แน่นอน , TOD et al . ( 2011 ) เสนอว่านักวิจัยควรเปลี่ยนแปลงของพวกเขาเน้นจาก " รุ่นแรก " คำถามนั่นคือการตรวจสอบตนเองพูดต่อประสิทธิภาพ " หรือ " คำถามนั้น คือการสืบสวนของผู้ดูแลและผู้ไกล่เกลี่ย ) ความสัมพันธ์ ในที่นี้ การศึกษาปัจจุบันเน้นสองผู้ดูแล ธรรมชาติของตนเองพูด และชนิดของมอเตอร์ งาน ตลอดจนเป็นสื่อกลาง การรับรู้ความสามารถของตนเอง เพื่อเพิ่มฐานความรู้ในปัจจุบัน