Pronouns
Pronouns หรือ สรรพนาม หมายถึง คำที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้เรียกแทนคำนามต่าง ในกรณีที่มีการกล่าวถึงครั้งที่สอง หรือผู้ฟังน่าจะรู้อยู่แล้วว่าเราหมายถึงสิ่งใด ปกติภาษาอังกฤษมีการกำหนดลำดับบุรุษและสถานะการเป็นประธาน (ผู้กระทำ Subject pronouns) หรือ กรรม (ผู้ถูกกระทำ object pronouns) ของประโยค โดยเรียงลำดับได้ดังนี้คือ
กรณีประธาน (Subject pronouns)
บุรุษที่ 1 คือ คนที่พูด อันได้แก่
I ฉัน
We พวกเรา
บุรุษที่ 2 คือ คนที่เราพูดด้วย อันได้แก่
You คุณ
You พวกคุณ
*จะสังเกตุได้ว่า ใช้คำเดียวกันแต่ความหมายแตกต่างกัน การสื่อสารต้องดูคำรอบข้างเพื่อการระบุจำนวนผู้สนทนาด้วย
บุรุษที่ 3 คือ คนที่เราพูดถึง อันได้แก่
He เขาผู้ชาย
She หล่อนผู้หญิง
it มัน (อาจหมายถึง สัตว์ สิ่งของ หรืออื่น ๆ)
they พวกมัน (หมายถึงอะไรก็ได้ที่มากกว่าหนึ่ง เช่น พวกเขา พวกเธอ พวกมัน ได้ทั้งหมด)
กรณีกรรม (Object pronouns)
บุรุษที่ 1 คือ คนที่พูด อันได้แก่
me ฉัน
us พวกเรา
บุรุษที่ 2 คือ คนที่เราพูดด้วย อันได้แก่
You คุณ
You พวกคุณ
*จะสังเกตุได้ว่า ใช้คำเดียวกันกับประธาน เป็นคำเฉพาะเลย
บุรุษที่ 3 คือ คนที่เราพูดถึง อันได้แก่
him เขาผู้ชาย
her หล่อนผู้หญิง
it มัน (อาจหมายถึง สัตว์ สิ่งของ หรืออื่น ๆ ใช้คำเดียวกันกับประธานเช่นกัน)
them พวกมัน (หมายถึงอะไรก็ได้ที่มากกว่าหนึ่ง เช่น พวกเขา พวกเธอ พวกมัน ได้ทั้งหมด)
นอกจากนี้ object pronoun ยังสามารถทำหน้าที่ได้ทั้งกรรมตรงและกรรมรอง เช่น
กรรมตรง (Direct object pronouns)
I talked to him uesterday. ผมพูดกับเขาเมื่อวานนี้
(เขาถูกพูดด้วยโดยตรง จึงเป็นกรรมตรง)
กรรมรอง (Indirect object pronouns)
I also gave him the book. ผมได้มอบหนังสือให้กับเขาด้วย
(หนังสือคือกรรมตรงเพราะถูกมอบให้กรรมรองคือตัวเขา)
Subjective ประธาน Objective กรรม
I (ฉัน)
me (ฉัน)
You (คุณ)
you (คุณ)
We (พวกเรา)
us (พวกเรา)
They (พวกเขา)
them (พวกเขา)
He (เขา)
him (เขา)
She (หล่อน)
her (หล่อน)
It (มัน)
it (มัน)
Reflexive pronouns
สรรพนาม อีกหนึ่งชนิด คือ สรรพนามที่ใช้ระบุขยายว่าการกระทำใดกระทำหนึ่งกระทำโดยประธานนั้น ๆ จริงด้วยตนเอง ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้ object pronoun ตามด้วยคำว่า self (เอกพจน์) หรือ selves (พหูพจน์)
I did it myself. ผมทำมันด้วยตัวผมเอง
We did it ourselves พวกเราทำมันด้วยตัวพวกเราเอง
You did it yourself. คุณทำมันด้วยตัวคุณเอง
You did it yourselves. พวกคุณทำมันด้วยตัวพวกคุณเอง
He did it himself. เขาทำมันด้วยตัวเขาเอง
She did it herself. หล่อนทำมันด้วยตัวหล่อนเอง
It did it itself. มันทำมันด้วยตัวมันเอง
They did it themselves พวกเขาทำมันด้วยตัวพวกเขาเอง
เอกพจน์ พหูพจน์
I - myself
we - ourselves
you - yourself
you - yourselves
he - himself
they - themselves
she - herself
it - itself
Reciprocal pronouns
สรรพนาม อีกตัวที่ถูกใช้เพื่อกล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างประธานและกรรมเมื่อต้องการ หลีกเลี่ยงการพูดถึงอีก เท่าที่เห็นตอนนี้ก็คือ คำว่า each other (ซึ่งกันและกัน)
Maria and Julia don't like each other.
มารีอาและจูเลียไม่ชอบกัน
Disjunctive pronouns
สรรพนาม ในกลุ่ม object pronouns มักถูกใช้ในรูปประโยคที่มีการกล่าวถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาในการ สนทนาทำนองอ้างอิงถึง มักจะลอย ๆ เหมือนห้วน ๆ เหมือนละที่ได้มีการกล่าวนำไปแล้วไม่ต้องพูดซ้ำอีก ตัวอย่าง เช่น
All the students left the class yesterday, but me. I was there for an hour waiting for the teacher.
นักเรียนทุกคนออกไปจากห้องเรียนเมื่อวานนี้ มีเพียงผม ผมอยู่ที่นั่นรออาจารย์เป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง
Who wants cheese? Me.
ใครต้องการชีสบ้าง ผม
Dummy pronouns
หรือ expletive pronoun หรือ pleonastic pronoun เป็นสรรพนามที่ถูกละออกไปเมื่อมีการใช้แบบซ้ำซ้อนเพื่อระบุการกระทำแรกและ ตามด้วยการกระทำที่สองของประธานตัวเดียวกัน
โดยปกติแล้ว เมื่อละ pronoun ตัวที่สองออก กริยาที่ตามมาจะอยู่ในรูป gerund หรือ กริยาเติม ing แทน
They warm up for half an hour before going out.
ซึ่งเป็นตัดลดรูปมาจาก
They warm up for half an hour before they go out.
Possessive pronouns
สรรพนามที่บ่งบอกความเป็๋นเจ้าของ มักจะอยู่ตำแหน่งด้านท้ายของประโยค โดยตามท้ายกริยาช่วย verb to be (is, am, are) โดยใช้คำต่อไปนี้
mine ของฉัน
ours ของพวกเรา
yours ของคุณ ของพวกคุณ
his ของเขา
hers ของเธอ
its ของมัน
theirs ของพวกเขา
Whose car is that? It's mine.
Whose cats are in my bedroom? It's hers.
* ลองหาเวลาศึกษาเกี่ยวกับคำคุณศัพท์แสดงความเป็นเจ้าของ (Possessive adjectives) เพื่อการใช้งานคำแสดงความเป็นเจ้าของได้อย่างเหมาะสมนะครับ
Possessive adjective Possessive pronoun
my
mine
ของฉัน
your
yours
ของคุณ
our
ours
ของพวกเรา
their
theirs
ของพวกเขา
his
his
ของเขา
her
hers
ของหล่อน
its
-
ของมัน
ดูตารางการเปรียบเทียบ
Subjective Objective Possessive adjective Possessive pronoun Reflexive pronoun
I
me
my
mine
myself
You
you
your
yours
yourself
We
us
our
ours
ourselves
They
them
their
theirs
themselves
He
him
his
his
himself
She
her
her
hers
herself
It
it
its
-
itself
Demonstrative pronouns
คำสรรพนามที่ใช้เพื่อบ่งกลุ่มของนามที่พูดถึง เช่น สื่งนี้ ส่งนั่น เหล่านี้ และเหล่านั้น ในภาษาอังกฤษใช้อยู่สี่คำ คือ
this นี้
these เหล่านี้
that นั้น
those เหล่านั้น
โดยใช้เพื่อกล่าวถึงสิ่งนั้นเป็นครั้งที่สอง เช่น
There is an apple on my desk. I take this.
All the books here are very cheap. I will buy these.
The shirt on the corner looks nice. I want that.
The DVD's in your office are old now. I will take those out.
Indefinite pronouns
คำ สรรพนามอีกตัวที่ใช้กันบ่อยคือ สรรพนามที่ไม่มีการระบุตัวตนอย่างชัดเจนลงไป เช่น ใคร ๆ ใครก็ได้ หรือ คนส่วนใหญ่ ซึ่งในภาษาอังกฤษใช้คำว่า anyone
Anyone knows how to use that elevator.
ใคร ๆ ก็รู้วิธีการใช้ลิฟท์ตัวนั้น
Distributive pronouns
คำสรรพนามที่ใช้เพื่อเป็นการระบุตัวตนลงไปเป็นราย ๆ หรือกลุ่มย่อยไปจากทั้งหมดในกลุ่มใหญ่ ในภาษาอังกฤษใช้คำว่า
each แต่ละ
any ใด ๆ
either ทั้งคู่ของนามนั้น
neither ไม่ทั้งคู่ของนามนั้น
others อื่น ๆ
Negative pronouns
คำสรรพนามเพื่อใช้เรียกแทนสิ่งใดที่ไม่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่พูดถึง
เช่น nobody no one ซึ่งแปลกว่า ไม่มีใคร
Nobody thinks that you are ugly.
Relative pronouns
คำ สรรพนามที่ใช้ในการเชื่อมโยงคำนามที่มีการกล่าวไปถึงก่อนหน้านี้โดยรูป ประโยคมีความสัมพันธ์กันว่า สิ่งที่อยู่ในประโยคแรกมีความเกี่ยวข้องด้านหนึ่งด้านใดกับประโยคที่ตามมา
ปกติ เราใช้
who กับ คน
which กับสัตว สิ่งของอื่น
where กับสถานที่
that เป็นคำกลาง ๆ สามารถใช้แทนได้ทุกประเภท
what เป็นคำกลาง ๆ สามารถใช้แทนได้ทุกประเภทเช่นกัน แต่มักจะใช้อ้างอิงสิ่งที่บุคคลอื่นได้กล่าวไปแล้ว หรือละไว้เป็นที่เข้าใจกันแล้ว
This is a house. Jack built this house.
This is the house that Jack built.
She is a bank teller. She helped us open an account.
She is the bank teller who helped us open an account.
I know what I can do right now.
who
ผู้ซึ่งใช้แทนคน
which
ที่ ซึ่ง อัน ใชักับสัตว์และสิ่งของ
that
ที่ ซึ่ง อัน ใช้ได้ทั้งคนและสิ่งของ
whom
ผู้ซึ่ง ทำหน้าที่เป็นกรรมของประโยคและใช้ไ