Magnesium is a mineral that is pres

Magnesium is a mineral that is present in relatively large amounts in the body. Researchers estimate that the average person’s body contains about 25 grams of magnesium, and about half of that is in the bones. Magnesium is important in more than 300 chemical reactions that keep the body working properly. People get magnesium from their diet, but sometimes magnesium supplements are needed if magnesium levels are too low. Dietary intake of magnesium may be low, particularly among women.

An easy way to remember foods that are good magnesium sources is to think fiber. Foods that are high in fiber are generally high in magnesium. Dietary sources of magnesium include legumes, whole grains, vegetables (especially broccoli, squash, and green leafy vegetables), seeds, and nuts (especially almonds). Other sources include dairy products, meats, chocolate, and coffee. Water with a high mineral content, or “hard” water, is also a source of magnesium.

People take magnesium to prevent or treat magnesium deficiency. Magnesium deficiency is not uncommon in the US. It’s particularly common among African Americans and the elderly.

Magnesium is also used as a laxative for constipation and for preparation of the bowel for surgical or diagnostic procedures. It is also used as an antacid for acid indigestion.

Some people use magnesium for diseases of the heart and blood vessels including chest pain, irregular heartbeat, high blood pressure, high levels of “bad” cholesterol called low-density lipoprotein (LDL) cholesterol, low levels of “good” cholesterol called high-density lipoprotein (HDL) cholesterol, heart valve disease (mitral valve prolapse), and heart attack.

Magnesium is also used for treating attention deficit-hyperactivity disorder (ADHD), anxiety, chronic fatigue syndrome (CFS), Lyme disease, fibromyalgia, leg cramps during pregnancy, diabetes, kidney stones, migraineheadaches, weak bones (osteoporosis), premenstrual syndrome (PMS), altitude sickness, urinary incontinence, restless leg syndrome, asthma, hayfever, multiple sclerosis, and for preventing hearing loss.

Athletes sometimes use magnesium to increase energy and endurance.

Some people put magnesium on their skin to treat infected skin ulcers, boils, and carbuncles; and to speed up wound healing. Magnesium is also used as a cold compress in the treatment of a severe skin infection caused by strep bacteria (erysipelas) and as a hot compress for deep-seated skin infections.

Some companies that manufacturer magnesium/calcium combination supplements promote a 2:1 or 3:1 ratio as being ideal for absorption of these elements. However, there is no credible research to support this claim. Claims that coral calcium products have ideal combinations of magnesium and calcium to cure a variety of diseases and conditions are being carefully evaluated by the US Food and Drug Administration (FDA) and US Federal Trade Commission (FTC).

How does it work?
Magnesium is required for the proper growth and maintenance of bones. Magnesium is also required for the proper function of nerves, muscles, and many other parts of the body. In the stomach, magnesium helps neutralize stomach acid and moves stools through the intestine.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แมกนีเซียมเป็นแร่ที่มีอยู่ในปริมาณค่อนข้างมากในร่างกาย นักวิจัยประเมินว่า ร่างกายของคนโดยเฉลี่ยประกอบด้วยแมกนีเซียมประมาณ 25 กรัม และประมาณครึ่งหนึ่งของที่อยู่ในกระดูก แมกนีเซียมมีความสำคัญกว่า 300 ปฏิกิริยาเคมีที่ทำให้ร่างกายทำงานอย่างถูกต้อง คนได้รับแมกนีเซียมจากอาหารของพวกเขา แต่บางครั้งการจำเป็นเสริมแมกนีเซียมถ้าระดับแมกนีเซียมต่ำเกินไป บริโภคอาหารของแมกนีเซียมอาจต่ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่ผู้หญิงได้

วิธีง่าย ๆ จำอาหารที่เป็นแหล่งแมกนีเซียมดีจะคิดว่า ไฟเบอร์ได้ อาหารที่มีไฟเบอร์สูงโดยทั่วไปสูงแมกนีเซียมได้ แหล่งอาหารของแมกนีเซียมรวมกิน ทั้งธัญพืช ผัก (โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรอกโคลี สควอช และผักใบสีเขียว), เมล็ดพืช และถั่ว (โดยเฉพาะอย่างยิ่งอัลมอนด์) แหล่งอื่น ๆ ได้แก่ผลิตภัณฑ์จากนม เนื้อสัตว์ ช็อคโกแลต และกาแฟ น้ำแร่สูงเนื้อหา หรือน้ำ "ยาก" นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งของแมกนีเซียม

คนใช้แมกนีเซียมเพื่อป้องกัน หรือรักษาผู้ที่ขาดแมกนีเซียม ผู้ที่ขาดแมกนีเซียมไม่ใช่ในสหรัฐอเมริกา มันเป็นเรื่องธรรมดาโดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวอเมริกันแอฟริกันและผู้สูงอายุ

แมกนีเซียมยังใช้เป็นเป็นยาระบายท้องผูก และ สำหรับเตรียมลำไส้สำหรับขั้นตอนการผ่าตัด หรือวินิจฉัย นอกจากนี้ยังใช้เป็นยาลดกรดที่สำหรับกรดอาหารไม่ย่อย

บางคนใช้แมกนีเซียมสำหรับโรคหัวใจและหลอดเลือดรวมทั้งอาการปวดหน้าอก เต้นผิดปกติ ความ ดันโลหิตสูง ระดับสูงของ "ไม่ดี" ไขมันที่เรียกว่าไลโพโปรตีน low-density (LDL) ไขมัน ระดับต่ำของไขมันที่ "ดี" ที่เรียกว่าไลโพโปรตีน high-density (HDL) ไขมัน โรคลิ้นหัวใจ (ตรงปลิ้นวาล์ว mitral), และหัวใจวาย

แมกนีเซียมนอกจากนี้ยังใช้สำหรับรักษาโรคใส่เข้าร่องเข้ารอยขาดดุล (ภาระผูกพัน), วิตกกังวล อาการล้าเรื้อรัง (CFS), โรคไร Lyme, fibromyalgia เลกเป็นตะคริวใน ระหว่างตั้งครรภ์ เบาหวาน นิ่ว migraineheadaches อ่อนแอกระดูก (กระดูกพรุน), กลุ่มอาการหรือการคลอดบุตร (PMS), โรคสูง ลำบาก กลุ่มอาการกระสับกระส่ายขา โรคหอบหืด hayfever หลายเส้นโลหิตตีบ และป้องกันการสูญเสียการได้ยิน

นักกีฬาบางครั้งใช้แมกนีเซียมเพื่อเพิ่มพลังงานและความอดทน

บางคนใส่แมกนีเซียมผิวของพวกเขาเพื่อ รักษาแผลในปากผิวหนังติดเชื้อ เดือด carbuncles และเร็วรักษาบาดแผล แมกนีเซียมยังใช้ประคบเย็นในการรักษาของการติดเชื้อผิวหนังอย่างรุนแรงที่เกิดจากแบคทีเรีย strep (erysipelas) และ เป็นการประคบร้อนช่วยผิวหนังติดเชื้อ

ส่งเสริมบริษัทที่ผู้ผลิตผสมแมกนีเซียม/แคลเซียมผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร 2:1 หรือ 3:อัตราส่วนที่ 1 เป็นห้องสำหรับการดูดซึมขององค์ประกอบเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม มีงานวิจัยไม่น่าเชื่อถือสนับสนุนข้อเรียกร้องนี้ อ้างว่า ผลิตภัณฑ์แคลเซียมปะการังมีชุดสำรองของแมกนีเซียมและแคลเซียมเพื่อรักษาความหลากหลายของโรค และเงื่อนไขจะเป็นประเมินอย่างระมัดระวัง โดยเราอาหาร และยา (FDA) และเรากลางทางการค้าเสริม (FTC)

จะทำ?
แมกนีเซียมจำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตเหมาะสมและบำรุงรักษาของกระดูกได้ แมกนีเซียมจำเป็นสำหรับการทำงานที่เหมาะสมของเส้นประสาท กล้ามเนื้อ และส่วนอื่น ๆ ของร่างกายยังอยู่ ในกระเพาะอาหาร แมกนีเซียมช่วยแก้กระเพาะอาหารกรด และย้ายอุจจาระผ่านลำไส้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แมกนีเซียมเป็นแร่ธาตุที่มีอยู่ในปริมาณที่ค่อนข้างใหญ่ในร่างกาย นักวิจัยประเมินว่าร่างกายของคนโดยเฉลี่ยมีประมาณ 25 กรัมของแมกนีเซียมและประมาณครึ่งหนึ่งของที่อยู่ในกระดูก แมกนีเซียมเป็นสิ่งสำคัญในกว่า 300 ปฏิกิริยาทางเคมีที่ทำให้ร่างกายทำงานอย่างถูกต้อง คนได้รับแมกนีเซียมจากอาหารของพวกเขา แต่บางครั้งเสริมแมกนีเซียมมีความจำเป็นถ้าระดับแมกนีเซียมต่ำเกินไป การบริโภคอาหารที่ของแมกนีเซียมอาจจะต่ำโดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่ผู้หญิงวิธีที่ง่ายต่อการจำอาหารที่มีแหล่งที่มาของแมกนีเซียมที่ดีคือการคิดเส้นใย อาหารที่มีเส้นใยสูงจะสูงทั่วไปในแมกนีเซียม แหล่งอาหารของแมกนีเซียมรวมถึงพืชตระกูลถั่ว, ธัญพืช, ผัก (ผักชนิดหนึ่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งสควอชและผักใบเขียว), เมล็ดพืชและถั่ว (โดยเฉพาะอัลมอนด์) แหล่งอื่น ๆ รวมถึงผลิตภัณฑ์นม, เนื้อ, ช็อคโกแลตและกาแฟ น้ำที่มีแร่ธาตุสูงหรือ "ยาก" น้ำยังเป็นแหล่งที่มาของแมกนีเซียมคนใช้แมกนีเซียมในการป้องกันหรือรักษาโรคขาดแมกนีเซียม การขาดแมกนีเซียมไม่ได้เป็นเรื่องผิดปกติในสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะอย่างยิ่งมันเป็นเรื่องธรรมดาในหมู่ชาวอเมริกันแอฟริกันและผู้สูงอายุแมกนีเซียมยังใช้เป็นยาระบายสำหรับอาการท้องผูกและการเตรียมลำไส้สำหรับขั้นตอนการผ่าตัดหรือการวินิจฉัย นอกจากนี้ยังใช้เป็นยาแก้ท้องเฟ้ออาหารไม่ย่อยเพื่อกรดบางคนใช้แมกนีเซียมสำหรับโรคของหัวใจและหลอดเลือดรวมถึงอาการเจ็บหน้าอก, การเต้นของหัวใจผิดปกติความดันโลหิตสูงระดับสูงของคอเลสเตอรอล "เลว" ที่เรียกว่าไลโปโปรตีนความหนาแน่นต่ำ (LDL) คอเลสเตอรอล ระดับต่ำของ "ดี" คอเลสเตอรอลที่เรียกว่าไลโปโปรตีนความหนาแน่นสูง (HDL) คอเลสเตอรอลโรคลิ้นหัวใจ (ย้อย mitral วาล์ว) และการโจมตีหัวใจแมกนีเซียมนอกจากนี้ยังใช้สำหรับการรักษาความผิดปกติของความสนใจขาดดุล hyperactivity (ADHD) ความวิตกกังวลความเหนื่อยล้าเรื้อรัง ซินโดรม (CFS), โรค Lyme, fibromyalgia, ปวดขาในระหว่างตั้งครรภ์เป็นโรคเบาหวาน, นิ่วในไต migraineheadaches กระดูกอ่อนแอ (โรคกระดูกพรุน) โรค premenstrual (PMS) เจ็บป่วยระดับความสูง, ปัสสาวะเล็ดอาการขาอยู่ไม่สุขหอบหืด hayfever หลายเส้นโลหิตตีบ และการป้องกันการสูญเสียการได้ยินนักกีฬาบางครั้งใช้แมกนีเซียมเพื่อเพิ่มพลังงานและความอดทนบางคนใส่แมกนีเซียมบนผิวหนังของพวกเขาในการรักษาแผลที่ผิวหนังติดเชื้อเดือดและอัญมณี; และเพื่อเพิ่มความเร็วในการรักษาบาดแผล แมกนีเซียมยังใช้เป็นลูกประคบเย็นในการรักษาโรคติดเชื้อที่ผิวหนังอย่างรุนแรงเกิดจากเชื้อแบคทีเรียเชื้อ (ไฟลามทุ่ง) และในขณะที่ลูกประคบสำหรับการติดเชื้อที่ผิวหนังฝังลึกบาง บริษัท ที่ผลิตอาหารเสริมแมกนีเซียม / แคลเซียมรวมกันส่งเสริม 2:1 หรือ 03:01 อัตราส่วนเป็นที่เหมาะสำหรับการดูดซึมขององค์ประกอบเหล่านี้ แต่ไม่มีการวิจัยที่น่าเชื่อถือเพื่อสนับสนุนการเรียกร้องนี้ อ้างว่าผลิตภัณฑ์แคลเซียมปะการังมีการผสมในอุดมคติของแมกนีเซียมและแคลเซียมในการรักษาความหลากหลายของโรคและเงื่อนไขที่จะได้รับการประเมินอย่างรอบคอบโดยสหรัฐอเมริกาอาหารและยา (FDA) และสหรัฐอเมริกาคณะกรรมาธิการการค้าของรัฐบาลกลาง (FTC) มันทำงานอย่างไรแมกนีเซียมเป็น ที่จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตที่เหมาะสมและการบำรุงรักษากระดูก แมกนีเซียมเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการทำงานที่เหมาะสมของเส้นประสาทกล้ามเนื้อและส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย ในกระเพาะอาหารแมกนีเซียมช่วยต่อต้านกรดในกระเพาะอาหารและย้ายอุจจาระผ่านลำไส้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แมกนีเซียมเป็นแร่ธาตุที่เป็นปัจจุบันในปริมาณที่ค่อนข้างมากในร่างกาย นักวิจัยประเมินว่าร่างกายคนเฉลี่ยมีประมาณ 25 กรัม แมกนีเซียม และประมาณครึ่งหนึ่งของที่อยู่ในกระดูก แมกนีเซียมเป็นสำคัญมากกว่า 300 ปฏิกิริยาทางเคมีที่ทำให้ร่างกายทำงานอย่างถูกต้อง คนได้รับแมกนีเซียมจากอาหารของพวกเขาแต่บางครั้งอาหารเสริมแมกนีเซียมแมกนีเซียมเป็นถ้าระดับต่ำเกินไป การบริโภคอาหารของแมกนีเซียมอาจจะต่ำมาก โดยเฉพาะในหมู่ผู้หญิง

เป็นวิธีที่ง่ายที่จะจำอาหารที่เป็นแหล่งของแมกนีเซียมที่ดีคือว่าไฟเบอร์ อาหารที่มีเส้นใยสูง โดยทั่วไปจะสูงในแมกนีเซียม แหล่งอาหารของแมกนีเซียมได้แก่ ถั่ว , ธัญพืช , ผักโดยเฉพาะคะน้า สควอชและพืชผักใบเขียว ) , เมล็ดและถั่ว ( โดยเฉพาะอัลมอนด์ ) แหล่งที่มาอื่น ๆได้แก่ ผลิตภัณฑ์จากนม เนื้อสัตว์ ช็อกโกแลต และกาแฟ น้ำกับเนื้อหาแร่สูง หรือ " น้ำกระด้าง " ยังเป็นแหล่งของแมกนีเซียม แมกนีเซียม

บางคนใช้เพื่อป้องกันหรือรักษาโรคแมกนีเซียมขาด การขาดแมกนีเซียมไม่พิสดารในเรามันเป็นโดยทั่วไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งในแอฟริกาอเมริกันและผู้สูงอายุ

แมกนีเซียมยังใช้เป็นยาระบายสำหรับอาการท้องผูกและการเตรียมลำไส้สำหรับขั้นตอนการผ่าตัดหรือการวินิจฉัย นอกจากนี้ยังใช้เป็นยาลดกรดสำหรับอาหารไม่ย่อยกรด

บางคนใช้แมกนีเซียมสำหรับโรคหัวใจและหลอดเลือด ได้แก่ เจ็บหน้าอก , หัวใจเต้นผิดปกติ , ความดันโลหิตสูงระดับสูงของคอเลสเตอรอลความหนาแน่นต่ำไลโปโปรตีนที่เรียกว่า " เลว " ( LDL ) คอเลสเตอรอล , ระดับต่ำของคอเลสเตอรอลที่ " ดี " เรียกว่าไลโปโปรตีนความหนาแน่นสูง ( HDL ) คอเลสเตอรอล , โรคลิ้นหัวใจ ( ลิ้นหัวใจรั่ว ) และการโจมตีหัวใจ

แมกนีเซียม นอกจากนี้ยังใช้รักษาโรคสมาธิสั้น ( ADHD ) , ความวิตกกังวล , โรคอ่อนเพลียเรื้อรัง ( CFS ) , โรค Lyme , fibromyalgia ,ตะคริวในระหว่างตั้งครรภ์ เบาหวาน นิ่วไต migraineheadaches กระดูกอ่อน ( โรคกระดูกพรุน ) , การเกิดกลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือน ( PMS ) , โรคความสูง ปัสสาวะเล็ด กระสับกระส่ายเลกซินโดรม โรคหืด โรคหลายเส้นโลหิตตีบ และเพื่อป้องกันการสูญเสียการได้ยิน .

นักกีฬาบางครั้งใช้แมกนีเซียมเพื่อเพิ่มพลังงานและความอดทน

บางคนใส่แมกนีเซียมบนผิวของพวกเขาเพื่อรักษาแผลติดเชื้อและผิวเดือด , carbuncles ; และเร่งการสมานแผล แมกนีเซียมยังใช้เป็นบีบอัดเย็นในการรักษาของการติดเชื้อที่เกิดจากแบคทีเรียรุนแรง ผิวหนัง Strep ( ไฟลามทุ่ง ) และบีบอัดร้อนสำหรับการติดเชื้อผิวหนังลึกๆ

บาง บริษัท ที่ผู้ผลิตอาหารเสริมแคลเซียมแมกนีเซียม / การส่งเสริม 2 : 1 หรือ 3 :1 อัตราส่วนที่เหมาะสำหรับการดูดซึมของธาตุเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือเพื่อสนับสนุนการเรียกร้องนี้ อ้างว่าผลิตภัณฑ์แคลเซียมปะการังมีการผสมในอุดมคติของแมกนีเซียมและแคลเซียมเพื่อรักษาความหลากหลายของโรคและเงื่อนไขมีการประเมินอย่างรอบคอบโดยสหรัฐอเมริกาอาหารและยา ( FDA ) และคณะกรรมาธิการการค้าของรัฐบาลกลางสหรัฐ ( FTC )

มันทำงานอย่างไร
แมกนีเซียมเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตที่เหมาะสมและบำรุงกระดูก แมกนีเซียมยังเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการทำงานที่เหมาะสมของเส้นประสาท กล้ามเนื้อ และส่วนอื่นๆ ของร่างกาย ในกระเพาะอาหาร แมกนีเซียม ช่วยต่อต้านกรดในกระเพาะอาหารและลำไส้
ย้ายตั่งผ่าน .