Socioeconomic statuswas also associ

Socioeconomic statuswas also associated with a history of
kidney stones. Those individuals with an annual household
income $19 999 were more likely than individuals earning
>$75 000 annually to report a history of kidney stones (OR:
1.57 [95% CI, 1.17–2.09], p = 0.002). Individuals with an
annual household income between $20 000 and $34 999
showeda similar increase in risk (OR:1.65[95%CI,1.27–2.15],
p < 0.001) compared with the high-income group.
Conditions associated the metabolic syndrome were also
associated with a reported history of stone disease (Table 4).
The odds of kidney stones were 1.55 times higher among
obese participants than among individuals of normal
weight (OR: 1.55 [95% CI, 1.25–1.94], p < 0.001). Respondents
with a history of diabetes were also more likely to
report kidney stones (OR: 1.59 [95% CI, 1.22–2.07],
p < 0.001). A statistically significant relationship among
dietary intake variables and history of kidney stones was
observed only for high levels of sodium intake (data not
shown). For these reasons, we did not include dietary intake
variables in the final model (Table 4).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

นอกจากนี้ยัง เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์เศรษฐกิจ statuswasนิ่วในไต บุคคลผู้ มีบ้านประจำปีการรายได้ $19 999 มีแนวโน้มมากกว่าบุคคลที่มีรายได้>$ 75 000 เป็นประจำทุกปีเพื่อรายงานประวัตินิ่วในไต (หรือ:1.57 [95% CI, 1.17 – 2.09], p = 0.002) บุคคลที่มีการรายได้ครัวเรือนต่อปีระหว่าง $20 000 และ $34 999เพิ่มขึ้นคล้าย showeda ความเสี่ยง (OR:1.65[95%CI,1.27–2.15],p < 0.001) เปรียบเทียบกับกลุ่มมีรายได้สูงเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องกับอาการยังเกี่ยวข้องกับประวัติรายงานโรคหิน (ตาราง 4)ราคาของนิ่วได้ 1.55 ครั้งสูงในหมู่คนอ้วนกว่าในหมู่บุคคลปกติน้ำหนัก (หรือ: 1.55 [95% CI, 1.25 – 1.94], p < 0.001) ผู้ตอบมีประวัติโรคเบาหวานก็มักจะขึ้นรายงานนิ่ว (หรือ: 1.59 [95% CI, 1.22 – 2.07],p < 0.001) ความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระหว่างตัวแปรการบริโภคอาหารและประวัติของนิ่วในไตสังเกตสำหรับการบริโภคโซเดียมในระดับสูงเท่านั้น (ข้อมูลไม่แสดง) เหตุผลเหล่านี้ เราไม่มีอาหารบริโภคตัวแปรในแบบจำลองสุดท้าย (ตาราง 4)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

statuswas ทางเศรษฐกิจและสังคมนอกจากนี้ยังเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ของ
นิ่วในไต บุคคลผู้ที่มีครัวเรือนต่อปี
? รายได้ 19 $ 999 มีแนวโน้มมากกว่าบุคคลที่มีรายได้
> 75 $ 000 ต่อปีเพื่อรายงานความเป็นมาของนิ่วในไต (หรือ:
1.57 [95% CI, 1.17-2.09], P = 0.002) บุคคลที่มี
รายได้ต่อปีของใช้ในครัวเรือนระหว่าง $ 20 000 และ $ 34 999
showeda เพิ่มขึ้นที่คล้ายกันในความเสี่ยง (OR: 1.65 [95% CI, 1.27-2.15],
p <0.001) เมื่อเทียบกับกลุ่มที่มีรายได้สูง
เงื่อนไขที่เกี่ยวข้องภาวะ metabolic syndrome ยัง
เกี่ยวข้องกับประวัติความเป็นมาของการเกิดโรครายงานหิน (ตารางที่ 4)
อัตราต่อรองของนิ่วในไตเป็น 1.55 เท่าสูงในหมู่
ผู้เข้าร่วมกว่าโรคอ้วนในหมู่ประชาชนปกติ
น้ำหนัก (OR: 1.55 [95% CI, 1.25-1.94], p <0.001) ผู้ตอบแบบสอบถาม
ที่มีประวัติของโรคเบาหวานก็มีแนวโน้มที่จะ
รายงานนิ่วในไต (OR: 1.59 [95% CI, 1.22-2.07],
p <0.001) ความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญในหมู่
ตัวแปรการบริโภคอาหารและประวัติของนิ่วในไตได้รับ
เพียงข้อสังเกตสำหรับระดับสูงของการบริโภคโซเดียม (ข้อมูลไม่
แสดง) ด้วยเหตุผลเหล่านี้เราไม่ได้รวมการบริโภคสารอาหาร
ตัวแปรในรุ่นสุดท้าย (ตารางที่ 4)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

statuswas และยังเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ของนิ่วในไต บุคคลเหล่านั้น มีครัวเรือนรายได้ $ 19 999 มีแนวโน้มมากกว่าบุคคล รายได้> $ 75 , 000 ต่อปี รายงานประวัติของนิ่วในไต ( หรือ1.57 [ 95%CI , 1.17 - 2.09 ] , p = 0.002 ) บุคคลกับครัวเรือนรายได้ระหว่าง $ 20 , 000 และ $ 34 รายการshoweda คล้ายกันเพิ่มเสี่ยง ( หรือ 1.6 [ 95% CI 1.27 – 2.15 ]p < 0.001 ) เมื่อเทียบกับกลุ่มที่มีรายได้สูง .เงื่อนไขที่เกี่ยวข้องซินโดรมสลายยังที่เกี่ยวข้องกับการรายงานประวัติของโรคนิ่ว ( ตารางที่ 4 )ราคาของนิ่วในไตเป็น 1.55 เท่าของผู้ที่อ้วนกว่าของบุคคลปกติน้ำหนัก ( หรือ : 1.55 [ 95%CI , 1.25 - 1.94 ] , p < 0.001 ) ผู้ตอบแบบสอบถามที่มีประวัติของโรคเบาหวานยังมีแนวโน้มที่จะรายงานนิ่วในไต ( หรือ : 1.59 [ 95%CI 1.22 ( 2.07 )p < 0.001 ) มีความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร การบริโภคอาหาร และประวัติศาสตร์ของนิ่วในไตคือสังเกตได้เพียงระดับการบริโภคโซเดียม ( ข้อมูลไม่แสดง ) ด้วยเหตุผลเหล่านี้เราไม่ได้รวมถึงการบริโภคอาหารตัวแปรในโมเดลสุดท้าย ( ตารางที่ 4 )