Blood DonationBlood plays a vital r

Blood Donation

Blood plays a vital role in saving human life, and because scientists have yet to succeed in discovering a suitable replacement for blood, blood donation remains the most important means for transferring blood from one human to another.
Blood donation refers to the giving of extra blood that is unnecessary for the body to someone in need. Giving blood is by no means dangerous because the human body normally contains 17-18 glasses of blood, of which only 15-16 is actually used. The extra portion can be donated to others.
Blood donation can be done as often as every 3 months. This is because when some blood has been donated, the bone marrow plays an important role in producing new blood cells to replace blood loss to maintain the same blood volume. If one does not donate blood, the body will routinely excrete the degenerated blood cells in the form of urine, feces, or sweat. The process of blood donation usually takes approximately 15 minutes. 350-450 c.c. of blood, depending on the donor's weight, will be stored in a blood bag.

What is Blood?
Blood is the red fluid which, with the help of the heart, circulates in blood vessels throughout the body. Blood cells are created by bone marrow located in the arms, chest, ribs, skull, hips, spine, etc. An adult body normally contains 4,000-5,000 c.c. of blood. This can be easily calculated through the formula: total body weight x 80 = blood volume (c.c.)
Blood consists of 2 components, namely:
1. Blood cells, which make up 45% of whole blood. They are of 3 types:
1.1 Red blood cells. Replaced every 120 days, they transfer oxygen to the cells to create energy.
1.2 White blood cells. Comparable to soldiers, they prevent and destroy "intruders" to the body such as bacteria, virus, and other toxic substances. They live approximately 10 hours.
1.3 Platelets. Having a life span of 5-10 days, they make blood clot.
2. Plasma 55% of whole blood, plasma is a yellow liquid that keeps blood cells afloat. In addition to maintaining blood pressure and volume, it also serves as immunity. It consists of 92% liquid and 8% proteins. The essential proteins are:
- Albumin, which preserves the balance of water in blood vessels and tissues.
- Immunoglobulin, which makes the human body immune to certain diseases.
Interesting facts:
- The accumulated length of all blood vessels in the body is 96,000 kilometers or 2.5 times greater than the earth's circumference.
- On average, a male body contains 5-6 liters of blood while there are 4-5 liters in a female body.
- Blood circulates back to the heart as many as 1,000 times a day.
- Young people's bodies contain 35,000,000,000,000 (35 trillion) red blood cells. After 120 days, 1.2 billion red blood cells will expire and be excreted while the bone marrow, much of which is located in the ribs, skull and spine, will create new cells to replace the degenerated ones.

Donation:

Plasma
Single donor platelets
Single donor red cells



Blood Donor Criteria

1. Donors must weigh more than 45 kilograms and be in good health.

2. Donors must be between the ages of 17-70 years. Those who are 17 years of age and wish to donate, must have permission from parents. A first time donor must be less than 55 years old.
2.1 Criteria for donors more than 60-70 years old
2.1.1 Criteria for donors more than 60-65 years old
1) Donors have been consistently giving blood until the age of 60.
2) Donors may donate blood not more than 3 times a year (every 4 months)
3) Donors must have their Complete Blood Count (CBC) checked every time before donating blood.
4) Donors must have their Serum Ferritin (SF), Blood Chemistry (BC) checked once every year.
5) Doctors or nurses have considered and recorded abnormal SF, Hb,
Hematocrit and other abnormal results from olaboratories.
If the blood test results and blood pressure are normal, then the donation of blood is permitted.
2.1.2 Criteria for donors more than 65-70 years old
1) Donors have been consistently giving blood from ages 60-65 years old.
2) Donors may not donate blood more than two times a year (every 6 months).
3) Donors must have their CBC checked every time before donating blood
4) Donors must have their BC, SF, and EKG checked once every year.
5) Donors must have a medical certificate written by a doctor giving them permission to donate blood.

3. Donors must get plenty of sleep the night before donating blood.

4. Donors may not have diarrhea or symptoms of a fever 7 days before donating.

5. Women donors may not be pregnant, or breastfeeding at the time of donation. Women may not donate if they have delivered, or have had an abortion within the last six months

6. Donors may not donate if they have experienced a drastic loss of weight, without knowing the cause, within the last 3 months.

7. Donors taking aspirin, or other pain medicines must have stopped taking medicine 3 days prior to donating. Donors taking antibiotics need to have

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บริจาคโลหิตเลือดมีบทบาทสำคัญในการช่วยชีวิตมนุษย์ และเนื่องจากนักวิทยาศาสตร์ยังไม่ได้ประสบความสำเร็จในการค้นหาการแทนที่เหมาะสมสำหรับเลือด บริจาคเลือดยังคง หมายถึงสำคัญที่สุดสำหรับการถ่ายโอนเลือดจากบุคคลหนึ่งไปยังอีกบริจาคเลือดหมายถึงการให้เลือดพิเศษที่ไม่จำเป็นสำหรับร่างกายคนต้อง ให้เลือดได้โดยไม่อันตรายเนื่องจากร่างกายมนุษย์ประกอบด้วย 17-18 แก้วเลือด ซึ่งเพียง 15-16 ใช้จริงตามปกติ ส่วนเสริมสามารถบริจาคให้ผู้อื่นบริจาคเลือดสามารถทำได้เป็นทุก 3 เดือน นี้เป็น เพราะเมื่อมีการบริจาคเลือดบาง ไขกระดูกมีบทบาทสำคัญในการผลิตเซลล์เม็ดเลือดใหม่เพื่อทดแทนการสูญเสียเลือดเพื่อรักษาปริมาณเลือดเดียวกัน ถ้าหนึ่งไม่บริจาคโลหิต ร่างกายจะขับถ่ายโลหิตมากในรูปของปัสสาวะ อุจจาระ หรือเหงื่อเป็นประจำ กระบวนการในการบริจาคเลือดมักจะใช้เวลาประมาณ 15 นาที 350-450 c.c. ของเลือด ขึ้นอยู่กับน้ำหนักของผู้บริจาค จะถูกเก็บไว้ในถุงเลือดเลือดคืออะไรเลือดเป็นของเหลวสีแดงซึ่ง ด้วยความช่วยเหลือของหัวใจ หมุนเวียนอยู่ในหลอดเลือดทั่วร่างกาย เซลล์เม็ดเลือดถูกสร้าง โดยไขกระดูกอยู่ในแขน หน้าอก ซี่โครง กะโหลกศีรษะ สะโพก กระดูกสันหลัง ฯลฯ มีเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่โดยปกติประกอบด้วย 4,000 5,000 c.c. ของเลือด นี้สามารถสามารถคำนวณผ่านสูตร: รวมน้ำหนัก x 80 =เลือดระดับเสียง (c.c.)เลือดประกอบด้วยส่วนประกอบ 2 ได้แก่:1. เซลล์เม็ดเลือด ซึ่งทำขึ้น 45% ของเลือด มี 3 ประเภท:1.1 เซลล์เม็ดเลือดแดง พวกเขาแทนทุก ๆ 120 วัน โอนออกซิเจนให้เซลล์สร้างพลังงาน1.2 เซลล์เม็ดเลือดขาว เปรียบได้กับทหาร พวกเขาป้องกัน และทำลาย "บุกรุก" ให้กับร่างกายเช่นแบคทีเรีย ไวรัส และสารพิษอื่น ๆ พวกเขาอาศัยอยู่ประมาณ 10 ชั่วโมง1.3 เกล็ดเลือด พวกเขามีช่วงอายุ 5-10 วัน ทำให้เลือด2. พลาสม่า 55% ของเลือด พลาสม่าเป็นของเหลวสีเหลืองที่ช่วยให้เซลล์เม็ดเลือดลอยไป นอกเหนือจากการรักษาความดันโลหิตและปริมาณ มันยังทำหน้าที่เป็นภูมิคุ้มกัน ประกอบด้วยโปรตีนเหลวและ 8% 92% โปรตีนจำเป็น:-Albumin ซึ่งรักษาสมดุลของน้ำในหลอดเลือดและเนื้อเยื่อ-เฉพาะส่วน ซึ่งทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันโรคบางอย่างข้อเท็จจริงที่น่าสนใจ:-ความยาวสะสมของเลือดทั้งหมดในร่างกายคือ 96,000 กิโลเมตรหรือ 2.5 เท่ามากกว่าเส้นรอบวงของโลก-โดยเฉลี่ย ร่างกายชายประกอบด้วยเลือด 5-6 ลิตรในขณะที่มี 4-5 ลิตรในร่างกายหญิง-เลือดหมุนเวียนกลับสู่หัวใจได้มากถึง 1,000 ครั้งต่อวัน-ร่างกายของคนหนุ่มประกอบด้วย 35,000,000,000,000 (35 ล้าน) เซลล์เม็ดเลือดแดง หลังจาก 120 วัน เม็ดเลือดแดง 1.2 ล้านจะหมดอายุ และถูกขับออกมาในขณะที่ไขกระดูก มากซึ่งอยู่ในซี่โครง กะโหลกศีรษะ และกระดูกสันหลัง จะสร้างเซลล์ใหม่แทนที่มากบริจาค:พลาสม่าเกล็ดเลือดบริจาคที่เดียวเซลล์เดียวบริจาคแดง เงื่อนไขการบริจาคเลือด1. ผู้บริจาคต้องมีน้ำหนัก กว่า 45 กิโลกรัม และมีสุขภาพดี2. ผู้บริจาคต้องมีอายุตั้งแต่ 17-70 ปี ผู้ที่มีอายุ 17 ปี และต้องการบริจาค ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ปกครอง การบริจาคครั้งแรกต้องอายุน้อยกว่า 55 ปี2.1 เกณฑ์ สำหรับผู้บริจาค มากกว่า 60-70 ปี2.1.1 เกณฑ์ สำหรับผู้บริจาค มากกว่า 60-65 ปี1) บริจาคได้รับอย่างสม่ำเสมอให้เลือดจนกระทั่งอายุ 602) บริจาคอาจบริจาคเลือดไม่เกิน 3 ครั้งต่อปี (ทุก 4 เดือน) 3) ผู้บริจาคต้องมีการตรวจนับเม็ดเลือดสมบูรณ์ (CBC) ตรวจสอบทุกครั้งก่อนการบริจาคเลือด4) เลือดเคมี (BC) ผู้บริจาคต้องมีของ Ferritin ซีรั่ม (SF), การตรวจสอบปีละครั้งแพทย์ 5) มีพิจารณา และบันทึกปกติ SF, Hb Hematocrit และอื่น ๆ ผลลัพธ์ที่ผิดปกติจาก olaboratories ถ้าผลการตรวจเลือดและความดันเลือดปกติ บริจาคโลหิตจะได้รับอนุญาต2.1.2 เกณฑ์ สำหรับผู้บริจาค มากกว่า 65-70 ปี1) ผู้บริจาคได้รับอย่างสม่ำเสมอให้เลือดอายุ 60-65 ปี2) บริจาคอาจไม่บริจาคเลือดมากกว่าสองครั้งต่อปี (ทุก 6 เดือน)3) ผู้บริจาคต้องมี CBC การตรวจสอบทุกครั้งก่อนการบริจาคเลือด4) ผู้บริจาคต้องมีของ BC, SF, EKG ตรวจสอบปีละครั้ง5) ผู้บริจาคต้องมีใบรับรองแพทย์ที่เขียนขึ้น โดยแพทย์ให้การบริจาคเลือด3. ผู้บริจาคต้องได้รับมากมายนอนหลับคืนก่อนการบริจาคเลือด4. ผู้บริจาคอาจไม่มีท้องเสียหรืออาการมีไข้ 7 วันก่อนที่จะบริจาค5 ผู้บริจาคผู้หญิงอาจตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตรในขณะบริจาคได้ ผู้หญิงอาจไม่บริจาคถ้าพวกเขามีจัดส่ง หรือมีการทำแท้งภายในหกเดือน6. ผู้บริจาคอาจร่วมบริจาคถ้าพวกเขามีประสบการณ์การสูญเสียน้ำหนัก รุนแรงโดยไม่ทราบสาเหตุ ภายใน 3 เดือน7. ผู้บริจาคแอสไพริน หรือยาอาการปวดอื่น ๆ ต้องหยุดใช้ยา 3 วันก่อนการบริจาค ผู้บริจาคที่ใช้ยาปฏิชีวนะต้องมี

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บริจาคโลหิตเลือดมีบทบาทสำคัญในการช่วยชีวิตมนุษย์และเพราะนักวิทยาศาสตร์ยังไม่ประสบความสำเร็จในการค้นพบทดแทนที่เหมาะสมสำหรับเลือดบริจาคโลหิตยังคงเป็นวิธีที่สำคัญที่สุดสำหรับการถ่ายโอนเลือดจากหนึ่งของมนุษย์ไปยังอีก. บริจาคโลหิตหมายถึงการให้ของ เลือดพิเศษที่ไม่จำเป็นสำหรับร่างกายกับคนที่อยู่ในความต้องการ ให้เลือดโดยไม่มีหมายถึงอันตรายเพราะร่างกายมนุษย์ปกติมี 17-18 แก้วเลือดซึ่งเป็นเพียง 15-16 ถูกนำมาใช้จริง ส่วนพิเศษสามารถนำไปบริจาคให้กับผู้อื่น. บริจาคโลหิตสามารถทำได้บ่อยเท่าที่ทุก 3 เดือน ทั้งนี้เพราะเมื่อเลือดที่ได้รับบริจาคไขกระดูกที่มีบทบาทสำคัญในการผลิตเซลล์เม็ดเลือดใหม่เพื่อแทนที่การสูญเสียเลือดในการรักษาปริมาณเลือดเดียวกัน ถ้าไม่บริจาคเลือดร่างกายเป็นประจำจะขับถ่ายเซลล์เม็ดเลือดถดถอยในรูปแบบของปัสสาวะอุจจาระหรือเหงื่อ กระบวนการของการบริจาคโลหิตปกติจะใช้เวลาประมาณ 15 นาที 350-450 ซีซีในเลือดขึ้นอยู่กับน้ำหนักของผู้บริจาคจะถูกเก็บไว้ในถุงเลือด. อะไรคือสิ่งที่เลือดเลือดเป็นของเหลวสีแดงซึ่งด้วยความช่วยเหลือของหัวใจไหลเวียนในหลอดเลือดทั่วร่างกาย เซลล์เม็ดเลือดถูกสร้างขึ้นโดยไขกระดูกอยู่ในอ้อมแขน, หน้าอก, ซี่โครงกะโหลกศีรษะ, สะโพก, กระดูกสันหลัง, ฯลฯ ร่างกายผู้ใหญ่ปกติมี 4,000-5,000 ซีซีเลือด นี้สามารถคำนวณได้อย่างง่ายดายผ่านทางสูตร: น้ำหนักของร่างกายรวม x 80 = ปริมาณเลือด (CC) เลือดประกอบด้วย 2 องค์ประกอบคือ: 1 เซลล์เม็ดเลือดที่ทำขึ้น 45% ของเลือดทั้งหมด พวกเขามี 3 ประเภทคือ1.1 เซลล์เม็ดเลือดแดง เปลี่ยนทุก 120 วันที่พวกเขาถ่ายโอนออกซิเจนไปยังเซลล์ในการสร้างพลังงาน. 1.2 เซลล์เม็ดเลือดขาว เปรียบได้กับทหารพวกเขาป้องกันและทำลาย "ผู้บุกรุก" ให้กับร่างกายเช่นแบคทีเรียไวรัสและสารพิษอื่น ๆ พวกเขาอาศัยอยู่ประมาณ 10 ชั่วโมง. 1.3 เกล็ดเลือด มีช่วงชีวิตของ 5-10 วันพวกเขาทำให้ลิ่มเลือด. 2 พลาสม่า 55% ของเลือดทั้งหมดพลาสม่าเป็นของเหลวสีเหลืองที่ช่วยให้เซลล์เม็ดเลือดลอย นอกจากนี้การรักษาความดันโลหิตและปริมาณก็ยังทำหน้าที่เป็นภูมิคุ้มกัน มันประกอบด้วยของเหลว 92% และ 8% โปรตีน โปรตีนที่สำคัญ ได้แก่ : - Albumin ซึ่งเก็บรักษาความสมดุลของน้ำในหลอดเลือดและเนื้อเยื่อ. - อิมมูโนซึ่งจะทำให้ร่างกายของมนุษย์มีภูมิคุ้มกันต่อโรคบางชนิด. ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจ: - ความยาวสะสมของหลอดเลือดในร่างกายเป็น 96,000 กิโลเมตร หรือ 2.5 ครั้งยิ่งใหญ่กว่าเส้นรอบวงของโลก. - โดยเฉลี่ยร่างกายชายมี 5-6 ลิตรของเลือดในขณะที่มี 4-5 ลิตรในร่างกายหญิง. - เลือดไหลเวียนกลับสู่หัวใจมากที่สุดเท่าที่ 1,000 ครั้งต่อวัน- ร่างกายของคนหนุ่มสาวมี 35,000,000,000,000 (35000000000000) เซลล์เม็ดเลือดแดง หลังจาก 120 วัน 1.2 พันล้านเซลล์เม็ดเลือดแดงจะหมดอายุและถูกขับออกในขณะที่ไขกระดูกซึ่งส่วนมากจะอยู่ในกระดูกกะโหลกศีรษะและกระดูกสันหลังจะสร้างเซลล์ใหม่ที่จะมาแทนที่คนที่ถดถอย. บริจาค: พลาสม่าเกล็ดเลือดบริจาคเดี่ยวบริจาคเดี่ยว เซลล์เม็ดเลือดแดงเลือดบริจาคเกณฑ์1 ผู้บริจาคจะต้องชั่งน้ำหนักกว่า 45 กิโลกรัมและมีสุขภาพที่ดี. 2 ผู้บริจาคจะต้องมีอายุระหว่าง 17-70 ปีที่ผ่านมาระหว่าง บรรดาผู้ที่มีอายุ 17 ปีและต้องการที่จะบริจาคต้องได้รับอนุญาตจากผู้ปกครอง บริจาคครั้งแรกต้องมีอายุน้อยกว่า 55 ปี. 2.1 หลักเกณฑ์การให้ผู้บริจาคมากกว่า 60-70 ปี2.1.1 หลักเกณฑ์การให้ผู้บริจาคมีอายุมากกว่า 60-65 ปี1) ผู้บริจาคได้รับอย่างสม่ำเสมอให้เลือดจนอายุ 60 2) ผู้บริจาคอาจบริจาคเลือดไม่เกิน 3 ครั้งต่อปี (ทุก 4 เดือน) 3) ผู้บริจาคต้องมีจำนวนเลือดของพวกเขาที่สมบูรณ์แบบ (CBC) การตรวจสอบทุกครั้งก่อนการบริจาคโลหิต. 4) ผู้บริจาคต้องมีของเซรั่ม Ferritin (SF), เลือด เคมี (BC) ตรวจสอบปีละครั้ง. 5) แพทย์หรือพยาบาลได้มีการพิจารณาและการบันทึกความผิดปกติของ SF, Hb, Hematocrit และผลที่ผิดปกติอื่น ๆ จาก olaboratories. ถ้าผลการทดสอบเลือดและความดันโลหิตเป็นปกติแล้วการบริจาคเลือดจะได้รับอนุญาต2.1.2 หลักเกณฑ์การให้ผู้บริจาคมีอายุมากกว่า 65-70 ปี1) ผู้บริจาคได้รับอย่างสม่ำเสมอให้เลือดจากทุกเพศทุกวัย 60-65 ปี. 2) ผู้บริจาคอาจจะไม่บริจาคเลือดมากกว่าสองครั้งต่อปี (ทุก 6 เดือน). 3) ผู้บริจาคจะต้องมีการตรวจสอบ CBC ของพวกเขาทุกครั้งก่อนการบริจาคเลือด4) ผู้บริจาคต้องมีของพวกเขา BC, เอสเอฟและ EKG การตรวจสอบปีละครั้ง. 5) ผู้บริจาคต้องมีใบรับรองแพทย์เขียนโดยแพทย์ให้พวกเขาได้รับอนุญาตให้บริจาคเลือด. 3 ผู้บริจาคจะต้องได้รับความอุดมสมบูรณ์ของการนอนหลับคืนก่อนการบริจาคโลหิต. 4 ผู้บริจาคที่ไม่อาจมีอาการท้องเสียหรืออาการของไข้ 7 วันก่อนการบริจาค. 5 ผู้บริจาคผู้หญิงอาจจะไม่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรในช่วงเวลาของการบริจาค ผู้หญิงอาจไม่ได้บริจาคถ้าพวกเขาได้ส่งมอบหรือมีการทำแท้งในช่วงหกเดือน6 ผู้บริจาคอาจจะไม่บริจาคถ้าพวกเขามีประสบการณ์การสูญเสียที่รุนแรงของน้ำหนักโดยไม่ทราบสาเหตุภายใน 3 เดือน. 7 ผู้บริจาคแอสไพรินหรือยาอาการปวดอื่น ๆ จะต้องได้หยุดกินยา 3 วันก่อนที่จะมีการบริจาค บริจาคการใช้ยาปฏิชีวนะต้องมี

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การบริจาคโลหิตเลือด บทบาทสําคัญในการช่วยชีวิตมนุษย์ เพราะนักวิทยาศาสตร์ยังไม่ประสบความสำเร็จในการค้นพบที่เหมาะสมมาแทนเลือดบริจาค เลือดยังคงหมายถึงที่สำคัญที่สุดสำหรับการถ่ายโอนเลือดจากมนุษย์อื่นบริจาคโลหิต หมายถึง การให้เลือดพิเศษที่ไม่จำเป็นสำหรับร่างกายเพื่อคนที่ต้องการ การให้เลือดโดยไม่เป็นอันตราย เพราะร่างกายมนุษย์ปกติมีเลือดผ่านแว่นตา ซึ่งเพียง 15-16 มาใช้จริง ส่วนเพิ่มเติมสามารถบริจาคให้ผู้อื่นได้การบริจาคโลหิตสามารถทำได้บ่อยเท่าที่ทุก 3 เดือน นี้เป็นเพราะเมื่อเลือดที่ได้รับบริจาคไขกระดูก มีบทบาทสำคัญในการผลิตเซลล์เลือดใหม่เพื่อทดแทนการสูญเสียเลือดเพื่อรักษาปริมาณเลือดเดียวกัน ถ้าใครไม่บริจาคเลือด ร่างกายจะขับถ่ายเป็นประจำ เจอเซลล์เลือดในรูปของปัสสาวะ อุจจาระ หรือเหงื่อ กระบวนการบริจาคโลหิตปกติต้องใช้เวลาประมาณ 15 นาที 350-450 ซี. เลือด ขึ้นอยู่กับน้ำหนักของผู้บริจาค จะเก็บไว้ในถุงเลือดอะไรคือเลือดเลือด ของเหลวสีแดงซึ่งด้วยความช่วยเหลือของหัวใจ ไหลเวียนอยู่ในเส้นเลือดทั่วร่างกาย เซลล์เม็ดเลือดที่สร้างจากไขกระดูก อยู่ในแขน , หน้าอก , ซี่โครง กระดูกสะโพก กระดูกสันหลัง เป็นต้น ร่างกายผู้ใหญ่ตามปกติมี 4000-5000 ซี. เลือด นี้สามารถคำนวณได้จากสูตร : รวมน้ำหนัก x 80 = ปริมาณเลือด ( C.C . )เลือดประกอบด้วย 2 ส่วนคือ :1 . เลือดเซลล์ซึ่งสร้างขึ้น 45 % ของเลือดทั้งหมด มี 3 ประเภท ได้แก่1.1 สีแดงเลือดเซลล์ เปลี่ยนทุกๆ 120 วัน พวกเขาส่งออกซิเจนไปยังเซลล์เพื่อสร้างพลังงาน1.2 เม็ดเลือดขาว เปรียบได้กับทหารพวกเขาป้องกันและทำลาย " ผู้บุกรุก " กับร่างกาย เช่น แบคทีเรีย ไวรัส และสารพิษอื่น ๆ พวกเขาอาศัยอยู่ประมาณ 10 ชั่วโมง1.3 เกล็ดเลือด มีช่วงชีวิตประมาณ 5-10 วัน ก็ให้เลือด2 . พลาสมา 55% ของเลือดทั้งหมด พลาสมา ของเหลวสีเหลืองที่ทำให้เลือดลอย นอกจากการรักษาความดันโลหิตและปริมาณ นอกจากนี้ยังทำหน้าที่เป็นภูมิคุ้มกัน มันประกอบด้วย 92% ของเหลวและโปรตีน 8 % โปรตีนที่สำคัญ ได้แก่- อัลบูมิน ซึ่งรักษาความสมดุลของน้ำในหลอดเลือดและเนื้อเยื่อ- อิมมูโนโกลบูลินซึ่งทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันโรคบางอย่างข้อเท็จจริงที่น่าสนใจ :- สะสม ความยาวของเส้นเลือดในร่างกายคือ 96 , 000 กิโลเมตร หรือ 2.5 เท่าของเส้นรอบวงโลก .- โดยเฉลี่ยร่างกายเพศชายมี 5-6 ลิตรของเลือดในขณะที่มี 4-5 ลิตรในร่างกายผู้หญิง- เลือดที่ไหลเวียนกลับสู่หัวใจ วันละหลายพันครั้ง- เยาวชนของร่างกายประกอบด้วย 35000000000000 ( 35 บาท ) เซลล์เม็ดเลือดแดง หลังจาก 120 วัน 1.2 พันล้านเซลล์เม็ดเลือดแดงจะหมดอายุ และถูกขับออกมาในขณะที่ไขกระดูก ซึ่งตั้งอยู่ในกระดูกกะโหลกศีรษะ และกระดูกสันหลัง จะสร้างเซลล์ใหม่แทนที่เสื่อมที่การบริจาค :พลาสมาเกล็ดเลือดจากผู้บริจาคเดี่ยวผู้บริจาคเซลล์เดียวสีแดงเกณฑ์ผู้บริจาคโลหิต1 . ผู้บริจาคต้องมีน้ำหนักมากกว่า 45 กิโลกรัม และมีสุขภาพที่ดี2 . ผู้บริจาคต้องมีอายุระหว่าง 17-70 ปี ผู้ที่มีอายุ 17 ปี และต้องการบริจาค ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ปกครอง เป็นครั้งแรกที่ผู้บริจาคต้องน้อยกว่า 55 ปี2.1 เกณฑ์ผู้บริจาคกว่า 60-70 ปี2.1.1 เกณฑ์ผู้บริจาคมากกว่า 60-65 ปี1 ) ผู้บริจาคได้รับอย่างต่อเนื่องให้เลือดจนอายุ 602 ) ผู้บริจาคเลือดจะบริจาคได้ไม่เกิน 3 ครั้งต่อปี ( ทุก 4 เดือน )3 ) ผู้บริจาคต้องนับเลือดที่สมบูรณ์ ( CBC ) ตรวจสอบทุกครั้งก่อนการบริจาคเลือด4 ) ต้องมีซีรั่มเฟอริติน ( SF ) เคมีในเลือด ( BC ) ตรวจสอบทุกๆ ปี5 ) แพทย์หรือพยาบาลจะพิจารณาและบันทึก SF ผิดปกติ , โบเม็ดเลือดแดงผิดปกติและผลอื่น ๆจาก olaboratories .ถ้าผลตรวจเลือด และความดันเป็นปกติ แล้วการบริจาคเลือดจะได้รับอนุญาต2.1.2 เกณฑ์ผู้บริจาคมากกว่า 60 ปี1 ) ผู้บริจาคได้รับอย่างต่อเนื่องให้เลือดจากอายุ 60-65 ปี2 ) ผู้บริจาคอาจไม่บริจาคเลือดมากกว่า 2 ครั้งต่อปี ( ทุก 6 เดือน )3 ) ต้องมีการตรวจ CBC ทุกครั้งก่อนบริจาคโลหิต4 ) ต้องมี BC , SF , EKG และตรวจทุกๆ ปี5 ) ต้องมีใบรับรองแพทย์ เขียนโดย หมอให้พวกเขาอนุญาตให้บริจาคเลือด3 . ต้องเอาตะเกียงนอนเมื่อคืนก่อนการบริจาคเลือด4 . ผู้บริจาคอาจท้องเสีย หรือ อาการของไข้ 7 วันก่อนบริจาค5 . ผู้บริจาคหญิงอาจจะตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตรในเวลาของการบริจาค ผู้หญิงอาจไม่บริจาค หากมีการจัดส่ง หรือจะแท้งในช่วง 6 เดือน6 . ผู้บริจาคจะไม่บริจาค ถ้าพวกเขาได้สูญเสียน้ำหนักที่รุนแรงโดยไม่ทราบสาเหตุ ภายใน 3 เดือน7 . ผู้บริจาคทาน แอสไพริน หรือยารักษาโรคปวดอื่น ๆต้องหยุดกินยา 3 วัน ก่อนการบริจาค ผู้บริจาคทานยาปฏิชีวนะ ต้อง