In the part of past practices, ther

In the part of past practices, there were seven out of eight variables associated with human anthrax namely butchering carcass cutting and sell to others, leaving carcass alone, digging hole and bury carcass. dry meat of carcass contacting and handling carcass, being main cook of the family. These findings were similar to the results from the study done by Khamphaphongphan and Denny in 2008 after an anthrax outbreak in Kaeng Lai village, Bachieng district, Champasak province, Lao PDR. They found that practices such as butchering dead cow, contact and handling cow product risk factors and associated with were anthrax infection [10]. Another study done in Kazakhstan (restrospective cohort study), found that slaughtering animals and butchering are main risk factors of anthrax infection human

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในส่วนของการปฏิบัติที่ผ่านมา มีเจ็ดจากการแปดตัวแปรเกี่ยวข้องกับมนุษย์แอนแทรกซ์คือ แล่ซากตัด และขายให้คนอื่น ออกจากซากคน ขุดหลุม และฝังซาก แห้งเนื้อของซากที่ติดต่อ และการจัดการซาก เป็นอาหารหลักของครอบครัว ค้นพบเหล่านี้ก็คล้ายกับผลจากการศึกษาโดย Khamphaphongphan และ Denny 2008 หลังจากการระบาดของโรคแอนแทรกซ์ในหมู่บ้านแก่งไล Bachieng อำเภอ จังหวัด ลาว พวกเขาพบว่า ปฏิบัติเช่นแล่วัวตาย ติดต่อและจัดการวัวผลิตภัณฑ์ปัจจัยเสี่ยง และเกี่ยวข้องกับถูกติดเชื้อแอนแทรกซ์ [10] ศึกษาอื่นที่ทำในคาซัคสถาน (restrospective ศึกษาตามแผน), พบว่า การฆ่าสัตว์ และแล่เป็นปัจจัยเสี่ยงหลักของการติดเชื้อแอนแทรกซ์มนุษย์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในส่วนของการปฏิบัติที่ผ่านมามีเจ็ดแปดตัวแปรที่เกี่ยวข้องกับการระบาดของมนุษย์คือการแล่เนื้อตัดแต่งซากและขายให้กับคนอื่น ๆ ออกจากซากคนเดียวขุดหลุมฝังศพซาก เนื้อแห้งการติดต่อและการจัดการซากซากถูกปรุงอาหารหลักของครอบครัว การค้นพบนี้มีความคล้ายคลึงกับผลที่ได้จากการศึกษาทำโดย Khamphaphongphan และนี่ส์ในปี 2008 หลังจากการระบาดของโรคแอนแทรกซ์ในหมู่บ้านแก่งแครายอำเภอ Bachieng จังหวัดจำปาสักสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว พวกเขาพบว่าการปฏิบัติเช่นแล่เนื้อวัวตายติดต่อและการจัดการปัจจัยเสี่ยงและผลิตภัณฑ์วัวที่เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อเป็นโรคระบาด [10] การศึกษาทำในคาซัคสถาน (การศึกษาการศึกษาย้อนหลัง) อีกพบว่าสัตว์ที่ฆ่าและแล่เนื้อเป็นปัจจัยเสี่ยงหลักของมนุษย์ติดเชื้อแอนแทรกซ์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในส่วนของการปฏิบัติที่ผ่านมา มีเจ็ดแปดตัวที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์แอนแทรกซ์ คือซากตัดเชือดและขายให้กับผู้อื่น ทิ้งซากไว้ขุดหลุมและฝังซาก เนื้อแห้งของซากติดต่อและการจัดการซาก เป็นอาหารหลักของครอบครัว การค้นพบเหล่านี้คล้ายคลึงกับผลที่ได้จากการศึกษาทำโดย khamphaphongphan และเดนนี่ในปี 2008 หลังจากแอนแทรกซ์ระบาดใน bachieng แก่งลายหมู่บ้าน อำเภอ จังหวัดจำปาสัก ลาว พวกเขาพบว่าวิธีปฏิบัติ เช่น ฆ่าวัวตาย , วัวที่ติดต่อและการจัดการผลิตภัณฑ์ ปัจจัยความเสี่ยง และเกี่ยวข้องกับการติดเชื้อแอนแทรกซ์ [ 10 ] ศึกษาอื่นที่ทำในคาซัคสถาน ( restrospective การศึกษาไปข้างหน้า ) พบว่า การฆ่าสัตว์ และฆ่าเชื้อแอนแทรกซ์ เป็นปัจจัยเสี่ยงหลักของมนุษย์