in 2005, scientists under the direc

in 2005, scientists under the direction of Egyptian archeologist Zahi Hawass used new and more effective X-ray technology to study the mummy. They discovered that the damage to Tut's chest was caused by Howard Carter, and the hole in Tut's skull was made when embalmers were preparing the body for burial. While this ruled out one theory, that of murder, it still doesn't tell us exactly how he died.
Then, in 2008, Hawass and his team analyzed Tut's DNA. They found that he suffered from flat feet as well as a bone disease that would u have made it difficult for him to walk. When they analyzed the DNA of the mummies in other tombs nearby, they made some shocking discoveries. They found Tut's father and mother, who had similar DNA, were actually brother and sister. The DNA they passed on to Tut may have left him highly vulnerable to disease. Did an infection that started in his fractured leg-added to the bone disease-cause his death? No one knows for sure. But Hawass and his team hope they will someday have an answer to this age-old mystery

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในปี 2005 นักวิทยาศาสตร์ภายใต้ทิศทางของ archeologist อียิปต์ Zahi Hawass ใช้เทคโนโลยีเอ็กซเรย์ใหม่ และเพิ่มประสิทธิภาพการศึกษามัมมี่ พวกเขาค้นพบว่า เกิดความเสียหายของ Tut อก โดยโฮเวิร์ดคาร์เตอร์ และทำหลุมในกะโหลกศีรษะของ Tut embalmers ได้เตรียมร่างกายสำหรับฝังศพ ขณะนี้ปกครองออกทฤษฎีหนึ่ง ที่ ฆาตกรรม ยังคงไม่บอกเรา ว่าวิธีเขาตาย จากนั้น ใน 2008, Hawass และทีมของเขาวิเคราะห์ดีเอ็นเอของ Tut พวกเขาพบว่า เขารับความเดือดร้อนจากแบนเท้ารวมทั้งโรคกระดูกที่คุณได้ทำให้มันยากสำหรับเขาที่จะเดิน เมื่อพวกเขาวิเคราะห์ดีเอ็นเอของมัมมี่อื่น ๆ ในบริเวณใกล้เคียง พวกเขาได้ค้นพบบางอย่างน่าตกใจ พวกเขาพบ Tut ของพ่อและแม่ ที่มีดีเอ็นเอคล้าย จริง ๆ แล้วน้องสาว ดีเอ็นเอที่จะส่งให้ Tut อาจมีเหลือเขาสูงเสี่ยงต่อการเกิดโรค ทำการติดเชื้อที่เริ่มร้าวเขาขาเพิ่มสาเหตุโรคกระดูกตายหรือไม่ ไม่มีใครรู้แน่ แต่ Hawass และทีมของเขาหวังว่า สักวันหนึ่งพวกเขาจะได้คำตอบความลึกลับนี้ดั้งเดิม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในปี 2005 นักวิทยาศาสตร์ภายใต้การดูแลของนักโบราณคดีอียิปต์ Zahi Hawass ที่ใช้เทคโนโลยี X-ray ใหม่และมีประสิทธิภาพมากขึ้นในการศึกษามัมมี่ พวกเขาค้นพบว่าเกิดความเสียหายกับหน้าอกของตุตันคาเมนมีสาเหตุมาจากโฮเวิร์ดคาร์เตอร์และหลุมในกะโหลกศีรษะของตุตันคาเมนที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อ embalmers กำลังเตรียมร่างกายสำหรับการฝังศพ ในขณะนี้การปกครองออกทฤษฎีหนึ่งที่เกิดการฆาตกรรมก็ยังไม่ได้บอกเราว่าวิธีการที่เขาจะเสียชีวิต.
จากนั้นในปี 2008 Hawass และทีมงานของเขาวิเคราะห์ดีเอ็นเอตุตันคาเมน พวกเขาพบว่าเขาได้รับความเดือดร้อนจากเท้าแบนเช่นเดียวกับโรคกระดูกที่จะ U ได้ทำให้มันเป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะเดิน เมื่อพวกเขาวิเคราะห์ดีเอ็นเอของมัมมี่ในสุสานอื่น ๆ ที่อยู่ใกล้เคียงพวกเขาได้ค้นพบที่น่าตกใจบาง พวกเขาพบว่าพ่อของตุตันคาเมนและแม่ที่มีดีเอ็นเอที่คล้ายกันเป็นจริงพี่ชายและน้องสาว ดีเอ็นเอที่พวกเขาส่งผ่านไปยังตุตันคาเมนอาจจะทิ้งเขาไปมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรค ไม่ได้มีการติดเชื้อที่เริ่มต้นในร้าวขาของเขาเพิ่มให้กับกระดูกโรคทำให้เกิดการตายของเขา? ไม่มีใครรู้ว่า แต่ Hawass และทีมของเขาหวังว่าพวกเขาสักวันหนึ่งจะมีคำตอบนี้ลึกลับอายุเก่า

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในปี 2005 , นักวิทยาศาสตร์ภายใต้ทิศทางของนักโบราณคดีอียิปต์ซา วาสใช้ใหม่และมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยเทคโนโลยีเพื่อการศึกษามัมมี่ พวกเขาได้ค้นพบว่า ความเสียหายเกิดจากหน้าอก tut คือ โฮเวิร์ด คาร์เตอร์ และหลุมในหัวถุยทำเมื่อ embalmers เตรียมศพเพื่อนำไปฝัง ในขณะที่นี้ปกครองออกทฤษฎีหนึ่งที่ฆาตกรรม มันยังไม่ได้บอกเราว่าเขาจะตายจากนั้นในปี 2008 วาสและทีมงานวิเคราะห์อัตราแลกเปลี่ยนของดีเอ็นเอ พวกเขาพบว่าเขาเป็นทุกข์จากเท้าแบน ตลอดจนโรคกระดูกที่ u ได้ทำให้มันยากสำหรับเขาที่จะเดิน เมื่อวิเคราะห์ดีเอ็นเอของมัมมี่ในสุสานอื่นที่ใกล้เคียงก็มีการค้นพบที่น่าตกใจ . พวกเขาพบถุยของพ่อและแม่ที่มีดีเอ็นเอเหมือนกัน เป็นพี่ชายกับน้องสาว ดีเอ็นเอของพวกเขาผ่านทางอัตราแลกเปลี่ยนอาจจะทิ้งเขาสูงเสี่ยงต่อโรค มีการติดเชื้อที่เริ่มต้นในขาของเขาหักเพิ่มกระดูกโรคสาเหตุการตายของเขา ไม่มีใครรู้แน่ แต่ วาส และทีมงานของเขา หวังว่าสักวันหนึ่งจะได้คำตอบความลึกลับโบราณนี้