SummaryThis document incorporates t

Summary
This document incorporates the revisions to these laws, as announced by National Treasury on 16 February 2016.
The Taxation Laws Amendment Act, 2015 has passed some of Government’s retirement reform proposals into law. The new rules are designed to harmonise the tax treatment for all types of retirement funds (ie pension, provident and retirement annuity funds). The new rules will take effect on 1 March 2016.
In summary, from 1 March 2016, the deduction cap for retirement fund contributions increases to 27.5% of the greater of remuneration or taxable income. This rate applies to the aggregate of contributions made to an individual’s pension, provident and RA funds. Presently, different contribution caps and deduction bases apply to the three types of funds.
The annual deduction cap is R350,000 (including the cost of risk benefits). Individuals who contribute more in any one year can carry forward any unclaimed amount and deduct these from tax in subsequent years, subject to the deduction limits in those years. Any unclaimed contributions are returned untaxed at withdrawal or retirement.
Only the employee may claim contributions (both in respect of the employer and the employee contributions). The employee’s PAYE deduction must be adjusted to reflect these contributions. If the employer makes the contribution, this must be neutralized by way of a fringe benefits tax charge levied on the employee.
These reforms initially included a provision that provident fund members must, from 1 March 2016, use two-thirds of their fund benefit to purchase an annuity at RETIREMENT. The implementation of this requirement was postponed to at least 1 March 2018. At that point this law may either become effective, or be scrapped. If scrapped, National Treasury will revisit the tax deduction available on contributions to provident fund (with a view to lowering these).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สรุปเอกสารนี้ประกอบด้วยการแก้ไขกฎหมายเหล่านี้ ตามที่ประกาศ โดยแห่งชาติวันที่ 16 2559 กุมภาพันธ์ภาษีอากรกฎหมายแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติ 2015 ผ่านบางส่วนของข้อเสนอการปฏิรูปการเกษียณอายุของรัฐบาลในกฎหมาย กฎระเบียบใหม่ถูกออกแบบมาคู่ไปกับการรักษาภาษีสำหรับชนิดทั้งหมดของกองทุนเกษียณอายุ (เช่นเพนชั่น สำรองเลี้ยงชีพและกองทุนบำนาญเกษียณอายุ) กฎใหม่จะมีผลวันที่ 1 2559 มีนาคมในสรุป ตั้งแต่ 1 2559 มีนาคม ฝาหักสำหรับเงินสมทบกองทุนเกษียณอายุเพิ่มขึ้น 27.5% ของมากขึ้นค่าตอบแทนหรือต้องเสียภาษีรายได้ อัตรานี้ใช้กับผลรวมของเงินสมทบบำนาญของแต่ละบุคคล สำรองเลี้ยงชีพและกองทุน RA ปัจจุบัน ผลงานต่าง ๆ ฝาและฐานหักใช้กับสามชนิดของกองทุนฝาหักประจำปีเป็น R350, 000 (รวมถึงต้นทุนของผลประโยชน์ความเสี่ยง) บุคคลที่มีส่วนร่วมมากขึ้นในรอบปีสามารถยกยอดเงินใด ๆ ไม่มีเหตุสมควร และหักออกจากภาษีเหล่านี้ในปีต่อมา ภายใต้วงเงินหักในปีที่ผ่าน ผลงานใด ๆ ไม่มีเหตุสมควรมีคืนประสิทธิภาพที่ถอนหรือเกษียณอายุเฉพาะพนักงานอาจอ้างผลงาน (ทั้งนายจ้างและพนักงานในกิจการ) พนักงาน PAYE หักต้องถูกปรับปรุงเพื่อให้สะท้อนถึงผลงานเหล่านี้ ถ้านายจ้างทำผลงาน นี้ต้องเป็นกลาง โดยมีค่าธรรมเนียมภาษีสวัสดิการที่เก็บจากพนักงานปฏิรูปเหล่านี้เริ่มแรกรวมบทบัญญัติที่ว่า สมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพต้อง ตั้งแต่ 1 2559 มีนาคม ใช้สองในสามของผลประโยชน์ของกองทุนในการซื้อรายปีที่เกษียณอายุ การดำเนินการของข้อกำหนดนี้ถูกเลื่อนออกไปอย่างน้อย 1 2561 มี.ค. ซึ่งจุดนี้กฎหมายอาจจะมีผลบังคับใช้ หรือเป็นของเสีย หากเป็นเศษซาก แห่งชาติท่องการหักภาษีตามสมทบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (เพื่อลดการตั้งค่าเหล่านี้)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สรุป
เอกสารนี้จะรวมการแก้ไขกฎหมายเหล่านี้ตามประกาศกระทรวงการคลังแห่งชาติที่ 16 กุมภาพันธ์ 2016
การจัดเก็บภาษีกฎหมายพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม 2015 ได้ผ่านบางส่วนของรัฐบาลข้อเสนอการปฏิรูปการเกษียณอายุในกฎหมาย กฎระเบียบใหม่ได้รับการออกแบบเพื่อให้กลมกลืนรักษาภาษีสำหรับทุกประเภทของกองทุนเกษียณอายุ (เช่นเงินบำนาญ, กองทุนสำรองเลี้ยงชีพและการเกษียณอายุเงินงวด) กฎระเบียบใหม่จะมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2016
โดยสรุปตั้งแต่ 1 มีนาคม 2016 ฝาหักเงินสมทบกองทุนเพื่อการเกษียณอายุเพิ่มขึ้นเป็น 27.5% ของที่มากขึ้นของค่าตอบแทนหรือรายได้ที่ต้องเสียภาษี อัตรานี้นำไปใช้รวมของผลงานที่ทำเงินบำนาญของแต่ละบุคคลชีพและกองทุน RA ปัจจุบันแคปผลงานที่แตกต่างกันและฐานหักนำไปใช้กับสามประเภทของเงินทุน.
หมวกหักประจำปีเป็น R350,000 (รวมถึงค่าใช้จ่ายของผลประโยชน์ความเสี่ยง) บุคคลที่มีส่วนร่วมมากขึ้นในปีหนึ่ง ๆ สามารถดำเนินการส่งต่อจำนวนเงินที่ไม่มีเหตุสมควรใด ๆ และหักค่าใช้จ่ายเหล่านี้จากภาษีในปีต่อ ๆ มาภายใต้ข้อ จำกัด การหักเงินในปีที่ผ่านมา การมีส่วนร่วมใด ๆ ไม่มีเหตุสมควรที่จะถูกส่งกลับไม่ต้องเสียภาษีในการถอนหรือการเกษียณอายุ.
เฉพาะพนักงานอาจเรียกร้องการมีส่วนร่วม (ทั้งในส่วนของนายจ้างและผลงานของพนักงาน) พนักงานหัก PAYE จะต้องมีการปรับเพื่อสะท้อนให้เห็นถึงผลงานเหล่านี้ ในกรณีที่นายจ้างทำให้ผลงานนี้จะต้องเป็นกลางโดยวิธีการคิดค่าใช้จ่ายสิทธิประโยชน์ทางภาษีขอบเรียกเก็บจากลูกจ้าง.
การปฏิรูปครั้งนี้ครั้งแรกรวมถึงบทบัญญัติว่าสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพต้องตั้งแต่ 1 มีนาคม 2016 ใช้สองในสามของผลประโยชน์กองทุนของพวกเขาไป ซื้อเงินงวดที่เกษียณอายุ การดำเนินการตามข้อกำหนดนี้ถูกเลื่อนออกไปอย่างน้อย 1 มีนาคม 2018 ณ จุดที่กฎหมายนี้อาจจะกลายเป็นอย่างใดอย่างหนึ่งที่มีประสิทธิภาพหรือไม่ก็ถูกทิ้ง หากทิ้งแห่งชาติธนารักษ์จะทบทวนการหักภาษีที่มีอยู่ในเงินสมทบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (ที่มีมุมมองในการลดเหล่านี้)