Check if you have “topic sentence.”

Check if you have “topic sentence.” A topic sentence should be clear and concise. This means, when you see a topic sentence, you should be able to tell what the rest of the paragraph is about.

For example, if the topic sentence is “There are many ways to lose weight”, the reader will expect 2 to 3 or more ways of how to lose weight.

A. ? Choose “A” if you think the paragraph has a clear and concise topic sentence.
B. ? Choose “B” if you need to make changes

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ตรวจสอบว่าคุณมี "ประโยค." ประโยคควรมีความชัดเจนและรัดกุม นี้หมายความว่าเมื่อคุณเห็นประโยคหัวข้อคุณควรจะสามารถที่จะบอกสิ่งที่เหลือของย่อหน้าที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับ

ตัวอย่างเช่นถ้าประโยคคือ "มีหลายวิธีที่จะลดน้ำหนัก", ผู้อ่านจะคาด 2-3 หรือมากกว่าวิธีการของวิธีการในการลดน้ำหนัก

?เลือก "" ถ้าคุณคิดย่อหน้ามีประโยคที่ชัดเจนและรัดกุม.
b ? เลือก b "" ถ้าคุณจำเป็นต้องทำการเปลี่ยนแปลง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ตรวจสอบว่า คุณมี "ประโยคหัวข้อ" ประโยคหัวข้อควรจะชัดเจน และกระชับ ซึ่งหมายความว่า เมื่อเห็นประโยคหัวข้อ คุณควรจะสามารถบอกส่วนเหลือของย่อหน้าคือเกี่ยวกับอะไร

ตัวอย่าง ถ้าประโยคหัวข้อ "มีหลายวิธีในการลดน้ำหนัก" อ่านจะคาด 2-3 หรือมากกว่าวิธีการลดน้ำหนัก

A. ? เลือก "A" ถ้าคุณคิดว่า ย่อหน้าได้ความชัดเจน และกระชับหัวข้อประโยค
B หรือไม่ เลือก "B" ถ้าคุณต้องการเปลี่ยน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ตรวจดูว่าคุณได้"ประโยคหัวข้อ"ประโยคหัวข้อที่ควรมีความชัดเจนและรัดกุม ซึ่งหมายความว่าเมื่อคุณดูหัวข้อประโยคที่คุณควรจะสามารถบอกได้ว่าส่วนที่เหลือของวรรคเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับ

ตัวอย่างเช่นหากประโยคหัวข้อคือ"มีหลายวิธีที่สามารถลดน้ำหนัก"ผู้อ่านที่จะคาดหวังได้ 2 ถึง 3 วิธีเพิ่มเติมหรือในการลดน้ำหนัก

A . ??เลือก"ที่"หากคุณคิดว่าวรรคที่มีประโยคหัวข้อชัดเจนและรัดกุม.
B . ?? เลือก“ B ”หากคุณต้องการทำการเปลี่ยนแปลง