The aim of this study was to determ

The aim of this study was to determine the effects of curcumin, ellagic acid and methionine on sperm parameters following the freeze-thawing of Merino ram semen. Ejaculates were collected via an artificial vagina from four Merino rams, evaluated microscopically and pooled at 37 degrees C. The pooled semen samples were diluted in a Tris-based extender and separated into groups containing curcumin (1, 2, 4mM), ellagic acid (1, 2, 4mM), methionine (1, 2, 4mM) and no antioxidant (control). The diluted semen was cooled to 5 degrees C slowly and equilibrated for 3 h. After the equilibration, the samples were frozen in liquid nitrogen vapour, and plunged into liquid nitrogen (-196 degrees C) for storage. Frozen straws were thawed at 37 degrees C for 30 s in a water bath for microscopic sperm evaluation, individually. All antioxidants led to a higher percentage of sperm motility in comparison to the control group. The freezing extender supplemented with methionine (1mM), curcumin (1 and 2mM) and ellagic acid (1 and 2mM) led to higher percentage of sperm plasma membrane integrity when compared to other groups (P < 0.05). Antioxidant supplementation also resulted in a higher percentage of sperm acrosome integrity in comparison to the control. Methionine, curcumin and ellagic acid (1mM: 27.7 +/- 2.4, 28.0 +/- 2.1 and 26.8 +/- 2.0) groups provided higher protection in terms of sperm mitochondrial activity when compared to other groups (P < 0.05). The findings of this study show that varying concentrations of curcumin, methionine and ellagic acid have markedly different effects on the spermatological variables under study.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

จุดมุ่งหมายของการศึกษานี้คือการ ตรวจสอบผลของเคอร์คูมิน กรด ellagic และเมไทโอนีนในสเปิร์มพารามิเตอร์ต่อแช่แข็งละลายของน้ำเชื้อพันธุ์ ram ปีที่ถูกเก็บรวบรวมผ่านทางช่องคลอดการประดิษฐ์จากสี่พันธุ์ rams ประเมินความ และ pooled ที่ 37 องศาเซลเซียส ตัวอย่างน้ำเชื้อ pooled ถูกเจือจางใน extender ที่ทริสเรทติ้งคะแนน และแบ่งเป็นกลุ่มที่ประกอบด้วยสีเหลืองปนส้ม (1, 2, 4mM), กรด ellagic (1, 2, 4mM), เมไทโอนีน (1, 2, 4 มิลลิเมตร) และไม่มีสารต้านอนุมูลอิสระ (การควบคุม) น้ำเชื้อเจือจางเย็นที่ 5 องศา C ช้า และ equilibrated สำหรับ 3 ชม หลัง equilibration ตัวอย่างถูกแช่แข็งในไนโตรเจนเหลวไอ และกระโจนลงในไนโตรเจนเหลว (-196 องศาเซลเซียส) เก็บ ได้เตรียมน้ำแข็งหลอดที่ 37 องศา C 30 s ในน้ำอาบน้ำสำหรับการประเมินของตัวอสุจิด้วยกล้องจุลทรรศน์ เอกลักษณ์ สารต้านอนุมูลอิสระทั้งหมดนำไปสู่สัดส่วนสูงของการเคลื่อนไหวของอสุจิเมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุม นำ extender ตรึงเสริม ด้วยเมไทโอนีน (1mM), เคอร์คูมิน (1 และ 2 mM) และกรด ellagic (1 และ 2 มม.) สูงกว่าเปอร์เซ็นต์ของความสมบูรณ์เยื่อหุ้มเซลล์สเปิร์มเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มอื่น ๆ (P < 0.05) การเสริมสารต้านอนุมูลอิสระยังมีผลในสัดส่วนสูงความซื่อสัตย์อะโครโซมของอสุจิเมื่อเปรียบเทียบกับตัวควบคุม เมไทโอนีน เคอร์คูมิน และกลุ่มกรด ellagic (1 มม.: 27.7 +/-28.0 +/-2.1 และ 26.8 +/-2.0, 2.4) ให้การป้องกันสูงในแง่ของสเปิร์มยลกิจกรรมเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มอื่น ๆ (P < 0.05) ผลการวิจัยของการศึกษานี้แสดงว่า ความเข้มข้นแตกต่างกันของเคอร์คูมิน เมไทโอนีน และกรด ellagic มีผลแตกต่างกันอย่างเด่นชัดในตัวแปร spermatological การศึกษา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

จุดมุ่งหมายของการศึกษาครั้งนี้คือเพื่อตรวจสอบผลกระทบของขมิ้นชันกรด ellagic และ methionine พารามิเตอร์ที่สเปิร์มต่อไปแช่แข็งละลายของน้ำอสุจิ Merino RAM ejaculates ถูกเก็บรวบรวมผ่านทางช่องคลอดเทียมจากสี่แกะ Merino ประเมินกล้องจุลทรรศน์และสำรองที่ 37 องศาเซลเซียสรวบรวมตัวอย่างน้ำอสุจิเจือจางใน Extender Tris-based และแยกออกเป็นกลุ่มที่มีขมิ้นชัน (1, 2, 4 มิลลิเมตร) กรด ellagic ( 1, 2, 4 มิลลิเมตร) methionine (1, 2, 4 มิลลิเมตร) และไม่มีสารต้านอนุมูลอิสระ (Control) น้ำอสุจิเจือจางถูกระบายความร้อนถึง 5 องศาเซลเซียสอย่างช้าๆและ equilibrated เวลา 3 ชั่วโมง หลังจากการปรับสมดุลของกลุ่มตัวอย่างถูกแช่แข็งในไอไนโตรเจนเหลวและกระโจนเข้าสู่ไนโตรเจนเหลว (-196 องศา C) สำหรับการจัดเก็บ หลอดแช่แข็งมาละลายที่อุณหภูมิ 37 องศาเซลเซียสเป็นเวลา 30 วินาทีในอ่างน้ำสำหรับการประเมินผลสเปิร์มด้วยกล้องจุลทรรศน์เป็นรายบุคคล สารต้านอนุมูลอิสระทั้งหมดนำไปสู่​​การเป็นเปอร์เซ็นต์ที่สูงขึ้นของการเคลื่อนไหวของอสุจิในการเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุม ตัวขยายการแช่แข็งเสริมด้วย methionine (1 mM) ขมิ้นชัน (1 และ 2 มิลลิเมตร) และกรด ellagic (1 และ 2 มิลลิเมตร) นำไปสู่​​การร้อยละที่สูงขึ้นของสเปิร์มความสมบูรณ์ของเยื่อหุ้มเมื่อเทียบกับกลุ่มอื่น ๆ (P <0.05) การเสริมสารต้านอนุมูลอิสระนอกจากนี้ยังส่งผลให้ในอัตราร้อยละที่สูงขึ้นของความสมบูรณ์ของสเปิร์ม acrosome ในการเปรียบเทียบกับการควบคุม methionine, ขมิ้นชันและกรด ellagic (1mM: 27.7 +/- 2.4, 28.0 +/- 2.1 และ 26.8 +/- 2.0) กลุ่มให้ความคุ้มครองที่สูงขึ้นในแง่ของสเปิร์มกิจกรรมยลเมื่อเทียบกับกลุ่มอื่น ๆ (P <0.05) ผลการศึกษาครั้งนี้แสดงว่ามีความเข้มข้นแตกต่างของ curcumin, methionine และกรด ellagic มีผลกระทบที่โดดเด่นแตกต่างในตัวแปร spermatological ภายใต้การศึกษา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

จุดมุ่งหมายของการศึกษานี้คือ เพื่อศึกษาผลของเคอร์คิวมินและลาจิก , กรดเมไทโอนีนในพารามิเตอร์อสุจิแช่แข็งละลายตามของ Merino RAM น้ำเชื้อ ejaculates ครั้งนี้ผ่านทางช่องคลอดเทียมจากสี่สายพันธุ์แกะผู้ และประเมินผลรวมที่ 37 องศา รวมจำนวนเจือจางน้ำเชื้อในบริษัทโดยแบ่งออกเป็นกลุ่มที่มีสารเคอร์คิวมิน ( 1 , 2 , 4 ) , ลาจิค แอซิด ( 1 , 2 , 4 ) , เมทไธโอนีน ( 1 , 2 , 4 ) และ ไม่มีสารต้านอนุมูลอิสระ ( ควบคุม ) การเจือจางน้ำเชื้ออยู่เย็น 5 องศาอย่างช้าๆและ equilibrated 3 ชั่วโมง หลังจาก equilibration ตัวอย่าง ( ไอแช่แข็งในไนโตรเจนเหลวและ plunged ลงในไนโตรเจนเหลว ( - 196 องศาเซลเซียส ) สำหรับการจัดเก็บ หลอดถูกแช่แข็งละลายที่อุณหภูมิ 37 องศา C 30 ในน้ำที่อาบ ในการประเมินเชื้อด้วยกล้องจุลทรรศน์แบบ ทั้งหมดสารต้านอนุมูลอิสระทำให้สูงกว่าเปอร์เซ็นต์อสุจิเคลื่อนไหวในการเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุม จุดเยือกแข็ง Extender เสริมเมทไธโอนีน ( 1mm ) ขมิ้นชัน ( 1 และ 2 มม. ) และลาจิคแอซิด ( 1 และ 2 มม. ) ทำให้เปอร์เซ็นต์ที่สูงขึ้นของเยื่อหุ้มเซลล์อสุจิสมบูรณ์เมื่อเทียบกับกลุ่มอื่น ( P < 0.05 ) สารต้านอนุมูลอิสระเสริมยังส่งผลในเปอร์เซ็นต์ที่สูงขึ้นของสเปิร์มที่มีความสมบูรณ์ในการเปรียบเทียบกับการควบคุม methionine , ขมิ้นชันและลาจิค แอซิด ( 1mm : 27.7 + / - 2.4 28 + / - , 2.1 และ 26.8 + / - 2 ) กลุ่มให้คุ้มครองที่สูงในแง่ของสเปิร์มยลกิจกรรมเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มอื่น ( P < 0.05 ) ผลการศึกษาพบว่า ความเข้มข้นแตกต่างกันของขมิ้นชัน , methionine ลาจิกกรดมีมากที่แตกต่างกันและผลกระทบต่อ spermatological ตัวแปรที่ศึกษา