Few studies have attempted to ident

Few studies have attempted to identify factors that contribute to aboveground carbon offset additionality
in forest restoration planting in the tropics. Moreover, those that have compared aboveground carbon offset
potential of naturally regenerating secondary forests and plantation forests have yielded conflicting
results regarding the ability of the latter to attain carbon offset additionality, thus limiting broad adoption
of carbon-driven forest restoration interventions. We assessed woody species diversity, stem density,
stem diameter and wood specific gravity of secondary and plantation forests in Kakamega Forest
in western Kenya to identify determinants of aboveground carbon offset additionality in plantation
forests. Secondary forests comprised old-growth, middle-aged and young vegetation stands. Plantation
forests consisted of mixed indigenous, Maesopsis eminii indigenous monoculture and Cupressus lusitanica,
Pinus patula and Bischofia javanica exotic monoculture stands. Assessment was carried in 135 sample
plots in three forest blocks using stratified systematic sampling in nested plots. Analysis of variance indicated
that there was no significant difference in woody species diversity between secondary and plantation
forests due to natural forest succession in both forest types. Mixed indigenous plantation had more
aboveground carbon stock than secondary forest stands of comparable stand age due to its greater proportion
of tree species with high wood specific gravity and large tree diameter. Old-growth secondary
forest had more aboveground carbon stock than monoculture forest plantations due to its relatively
higher wood specific gravity. Middle-aged secondary forest had relatively lower aboveground carbon
stock than plantation forests of comparable stand age because of its smaller tree diameter. The results
suggest that stem diameter and wood specific gravity are the most important determinants of
aboveground carbon offset additionality. Thus, forest managers and investors in carbon offset projects
can achieve aboveground carbon offset additionality in forest restoration interventions by planting tree
species with relatively higher wood specific gravity and manipulating them to attain large stem diameter
through silvicultural management.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ศึกษาน้อยได้พยายามระบุปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับโผล่คาร์บอนออฟเซ็ต additionalityในการฟื้นฟูป่าที่ปลูกในเขตร้อน นอกจากนี้ ผู้ที่มีเปรียบเทียบโผล่คาร์บอนออฟเซ็ตศักยภาพของธรรมชาติปฏิรูปรองป่าและปลูกป่ามีผลขัดแย้งกันผลเกี่ยวกับความสามารถของหลังบรรลุคาร์บอนออฟเซ็ต additionality จึง จำกัดนำสิ่งการแทรกแซงการฟื้นฟูป่าขับคาร์บอน เราประเมินความหลากหลายของพันธุ์ไม้ ก้านความหนาแน่นลำต้นเส้นผ่าศูนย์กลางและความถ่วงจำเพาะไม้รองและไร่พื้นที่ป่าเรสต์ในเคนยาตะวันตกระบุดีเทอร์มิแนนต์ของคาร์บอนโผล่ additionality ออฟเซ็ตในไร่ป่า ป่ารองประกอบด้วยพืชเติบ โตเก่า วัยกลางคน และหนุ่มยืน ไร่ประกอบด้วยป่าผสมพื้นเมือง Maesopsis eminii พื้นเมืองเดี่ยวและ Cupressus lusitanicaสน patula และยืน Bischofia javanica แปลกปลูกพืชเชิงเดี่ยว ดำเนินการประเมินในตัวอย่าง 135แปลงในป่าสามบล็อกใช้ stratified สุ่มตัวอย่างอย่างเป็นระบบในผืนซ้อนกัน การวิเคราะห์ความแปรปรวนที่ระบุก็ไม่สำคัญความหลากหลายของพันธุ์ไม้แตกต่างมัธยมและไร่ป่าเนื่องจากป่าธรรมชาติอย่างต่อเนื่องในป่าทั้งสองชนิด สวนผสมพื้นเมืองมีมากขึ้นคาร์บอนโผล่สต็อกกว่าป่ารองยืนอายุยืนเทียบเคียงเนื่องจากสัดส่วนมากขึ้นของพันธุ์ไม้ถ่วงไม้สูงและต้นไม้ขนาดใหญ่เส้นผ่าศูนย์กลาง รองเติบโตเก่าเพิ่มเติมคาร์บอนโผล่สต็อกกว่าสวนป่าปลูกพืชเชิงเดี่ยวเนื่องจากมีป่าค่อนข้างสูงไม้ถ่วง วัยกลางคนรองป่ามีคาร์บอนโผล่ที่ค่อนข้างต่ำกว่าในสต็อกกว่าสวนป่าอายุยืนเทียบได้เนื่องจากเส้นผ่าศูนย์กลางของต้นไม้ขนาดเล็ก ผลลัพธ์แนะนำว่า เส้นผ่าศูนย์กลางลำต้นและไม้ถ่วงเป็นดีเทอร์มิแนนต์สำคัญที่สุดของโผล่คาร์บอนออฟเซ็ต additionality ดังนั้น ผู้จัดการป่าและนักลงทุนในคาร์บอนออฟเซ็ตโครงการสามารถบรรลุโผล่คาร์บอนออฟเซ็ต additionality ในการแทรกแซงการฟื้นฟูป่า โดยการปลูกต้นไม้ชนิดถ่วงไม้ค่อนข้างสูงและจัดการกับพวกเขาเพื่อให้ได้เส้นผ่าศูนย์กลางลำต้นขนาดใหญ่ผ่าน silvicultural การจัดการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การศึกษาน้อยได้พยายามที่จะระบุปัจจัยที่นำไปสู่ดินคาร์บอน additionality ชดเชย
ในการปลูกฟื้นฟูป่าในเขตร้อน นอกจากนี้ผู้ที่ได้เมื่อเทียบชดเชยคาร์บอนเหนือพื้นดิน
ที่มีศักยภาพของธรรมชาติที่ regenerating รองป่าและการปลูกป่ามีผลที่ขัดแย้ง
ผลเกี่ยวกับความสามารถของหลังที่จะบรรลุการชดเชยคาร์บอน additionality จึง จำกัด การยอมรับในวงกว้าง
ของคาร์บอนที่ขับเคลื่อนด้วยการแทรกแซงการฟื้นฟูป่า เราประเมินความหลากหลายของสายพันธุ์วู้ดดี้, ก้านหนาแน่น
ลำต้นเส้นผ่าศูนย์กลางและไม้แรงโน้มถ่วงที่เฉพาะเจาะจงของรองและการปลูกป่าใน Kakamega ป่า
ในภาคตะวันตกของเคนยาในการระบุปัจจัยของดินคาร์บอน additionality ชดเชยในการปลูก
ป่า รองป่าประกอบด้วยเก่าการเจริญเติบโตของพืชยืนวัยกลางคนและหนุ่มสาว แพลนเทชัน
ป่าประกอบด้วยผสมพื้นเมือง Maesopsis eminii เชิงเดี่ยวพื้นเมืองและ Cupressus lusitanica,
ปินั patula และ Bischofia javanica แปลกใหม่ยืนเชิงเดี่ยว ประเมินได้ดำเนินการใน 135 ตัวอย่าง
แปลงในสามช่วงตึกป่าใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้นเป็นระบบในแปลงที่ซ้อนกัน การวิเคราะห์ความแปรปรวนชี้ให้เห็น
ว่าไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญในความหลากหลายสายพันธุ์วู้ดดี้ระหว่างรองและการปลูก
ป่าเนื่องจากการสืบทอดป่าธรรมชาติในป่าทั้งสองชนิด ไร่พื้นเมืองผสมมีมากขึ้น
หุ้นคาร์บอนเหนือพื้นดินกว่ายืนรองป่าอายุยืนเทียบเคียงเนื่องจากสัดส่วนมากขึ้นของ
สายพันธุ์ต้นไม้ที่มีความถ่วงจำเพาะไม้สูงและเส้นผ่าศูนย์กลางต้นไม้ใหญ่ การเจริญเติบโตเก่ามัธยม
ป่ามีหุ้นคาร์บอนเหนือพื้นดินมากกว่าสวนป่าเชิงเดี่ยวเนื่องจากค่อนข้างของ
ไม้ที่สูงกว่าแรงโน้มถ่วงที่เฉพาะเจาะจง วัยกลางคนรองป่ามีคาร์บอนค่อนข้างต่ำเหนือพื้นดิน
หุ้นกว่าการปลูกป่าอายุยืนเทียบเคียงเพราะเส้นผ่าศูนย์กลางต้นไม้ขนาดเล็ก ผลการ
ชี้ให้เห็นว่าขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางลำต้นและไม้ความถ่วงจำเพาะเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดของ
คาร์บอนเหนือพื้นดินชดเชย additionality ดังนั้นผู้จัดการป่าและนักลงทุนในโครงการชดเชยคาร์บอน
สามารถบรรลุเหนือพื้นดินคาร์บอน additionality ชดเชยในการแทรกแซงการฟื้นฟูป่าโดยการปลูกต้นไม้
ชนิดด้วยไม้ที่ค่อนข้างสูงกว่าแรงโน้มถ่วงที่เฉพาะเจาะจงและการจัดการกับพวกเขาเพื่อให้บรรลุเส้นผ่าศูนย์กลางลำต้นขนาดใหญ่
ผ่านการจัดการวนวัฒน์