The Forbidden City was the Chinese

The Forbidden City was the Chinese imperial palace from the Ming dynasty to the end of the Qing dynasty. It is located in the center of Beijing, China, and now houses the Palace Museum. It served as the home of emperors and their households as well as the ceremonial and political center of Chinese government for almost 500 years.

Built in 1406 to 1420, the complex consists of 980 buildings and covers 72 ha (180 acres).[1] The palace complex exemplifies traditional Chinese palatial architecture,[2] and has influenced cultural and architectural developments in East Asia and elsewhere. The Forbidden City was declared a World Heritage Site in 1987,[2] and is listed by UNESCO as the largest collection of preserved ancient wooden structures in the world.

Since 1925, the Forbidden City has been under the charge of the Palace Museum, whose extensive collection of artwork and artifacts were built upon the imperial collections of the Ming and Qing dynasties. Part of the museum's former collection is now located in the National Palace Museum in Taipei. Both museums descend from the same institution, but were split after the Chinese Civil War.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การจีนอิมพีเรียลพาเลสจากราชวงศ์หมิงของราชวงศ์ได้ ตั้งอยู่ในศูนย์กลางของปักกิ่ง จีน และเช่าพิพิธภัณฑ์พาเลซ มันทำหน้าที่เป็นบ้านของจักรพรรดิห และเรือนเป็นตัวอย่าง และการเมืองของรัฐบาลจีนเกือบ 500 ปีแห่ง 1406-1420 ซับซ้อนประกอบด้วยอาคาร 980 และครอบคลุม 72 ฮา (180 เอเคอร์)[1] ซับซ้อน exemplifies สถาปัตยกรรมสอยกว่าจีนแบบดั้งเดิม, [2] และได้รับอิทธิพลทางวัฒนธรรม และสถาปัตยกรรมพัฒนา ในเอเชียตะวันออก และอื่น ๆ การได้รับการประกาศเป็นมรดกโลกในปีค.ศ. 1987, [2] และอยู่ โดยองค์การยูเนสโกเป็นคอลเลกชันที่ใหญ่ที่สุดของโครงสร้างไม้โบราณรักษาโลกตั้งแต่ 1925 การได้รับภายใต้ค่าของพิพิธภัณฑ์พระราชวัง ที่หย่อนของงานศิลปะและสิ่งประดิษฐ์ที่สร้างขึ้นอิมพีเรียลคอลเลกชันของราชวงศ์หมิงและชิง ตอนนี้อยู่ส่วนหนึ่งของคอลเลกชันเดิมของพิพิธภัณฑ์ในพิพิธภัณฑ์พระราชวังแห่งชาติไทเป พิพิธภัณฑ์ทั้งสองมาจากสถาบันเดียวกัน แต่ถูกแยกหลังจากสงครามกลางเมืองจีน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เมืองต้องห้ามเป็นพระราชวังอิมพีเรียลจีนจากราชวงศ์หมิงที่จุดสิ้นสุดของราชวงศ์ชิง มันตั้งอยู่ในใจกลางของกรุงปักกิ่งประเทศจีนและตอนนี้เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์พระราชวัง มันทำหน้าที่เป็นบ้านของจักรพรรดิและผู้ประกอบการของพวกเขาเช่นเดียวกับศูนย์พระราชพิธีและการเมืองของรัฐบาลจีนเป็นเวลาเกือบ 500 ปี. สร้างขึ้นใน 1406-1420 ที่ซับซ้อนประกอบด้วยอาคาร 980 และครอบคลุม 72 เฮกตาร์ (180 เอเคอร์). [1] พระราชวังที่ซับซ้อนเป็นตัวอย่างสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมของจีนโต, [2] และมีอิทธิพลต่อการพัฒนาวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมในเอเชียตะวันออกและที่อื่น ๆ พระราชวังต้องห้ามถูกประกาศให้เป็นมรดกโลกในปี 1987 [2] และเป็น บริษัท จดทะเบียนโดยยูเนสโกเป็นคอลเลกชันที่ใหญ่ที่สุดของโครงสร้างไม้ที่เก็บรักษาไว้ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก. ตั้งแต่ปี 1925 เมืองต้องห้ามที่ได้รับภายใต้การดูแลของพิพิธภัณฑ์พระราชวังที่มี คอลเลกชันที่กว้างขวางของศิลปะและสิ่งประดิษฐ์ที่ถูกสร้างขึ้นบนคอลเลกชันของจักรพรรดิราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิง เป็นส่วนหนึ่งของคอลเลกชันของอดีตพิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ในขณะนี้ในพิพิธภัณฑ์พระราชวังแห่งชาติในกรุงไทเป พิพิธภัณฑ์ทั้งสองลงมาจากสถาบันเดียวกัน แต่ถูกแยกออกหลังจากสงครามกลางเมืองจีน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เมืองต้องห้ามถูกจีนพระราชวังตั้งแต่สมัยราชวงศ์หมิงถึงปลายสมัยราชวงศ์ชิง ตั้งอยู่ในศูนย์กลางของกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน และตอนนี้ที่บ้านพิพิธภัณฑ์พาเลซ มันทำหน้าที่เป็นบ้านของจักรพรรดิและครอบครัวของพวกเขาเช่นเดียวกับการพระราชพิธีและศูนย์ทางการเมืองของรัฐบาลจีน เกือบ 500 ปี สร้างขึ้นใน 1406 ที่จะเริ่ม

,ที่ซับซ้อนประกอบด้วย 980 อาคารและครอบคลุม 72 ฮา ( 180 เอเคอร์ ) . [ 1 ] เป็นตัวอย่างที่ซับซ้อนพระราชวังหรูหราสถาปัตยกรรมจีนดั้งเดิม และได้รับอิทธิพลทางวัฒนธรรมและทางสถาปัตยกรรมการพัฒนาในภูมิภาคเอเชียตะวันออก และที่อื่น ๆ เมืองต้องห้ามถูกประกาศให้เป็นมรดกโลกในปี 1987[ 2 ] และเป็น บริษัท จดทะเบียนโดยยูเนสโกเป็นคอลเลกชันที่ใหญ่ที่สุดของโครงสร้างไม้โบราณที่เก็บรักษาไว้ในโลก

ตั้งแต่ 1925 , เมืองต้องห้ามถูกข้อหาพระราชวังที่มีคอลเลกชันที่กว้างขวางของศิลปะและสิ่งประดิษฐ์ที่ถูกสร้างขึ้นบนคอลเลกชันของจักรพรรดิของราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิง .ส่วนหนึ่งของคอลเลกชันที่พิพิธภัณฑ์ เดิมอยู่ในพิพิธภัณฑ์แห่งชาติไต้หวันในไทเป ทั้งพิพิธภัณฑ์ สืบเชื้อสายมาจากสถาบันเดียวกัน แต่แยกหลังสงครามกลางเมืองจีน