PURPOSE AND SETTING:The last decade

PURPOSE AND SETTING:
The last decade has seen increased use of health impact assessment (HIA) to influence public policies developed outside the Health sector. HIA has developed as a structured, linear and technical process to incorporate health, broadly defined, into policy. This is potentially incongruent with complex, non-linear and tactical policy making which does not necessarily consider health. HIA research has however not incorporated existing public policy theory to explain practitioners' experiences with HIA and policy. This research, therefore, used public policy theory to explain HIA practitioners' experiences and investigate 'What is the fit between HIA and public policy?'
METHODS:
Empirical findings from nine in-depth interviews with international HIA practitioners were re-analysed against public policy theory. We reviewed the HIA literature for inclusion of public policy theories then compared these for compatibility with our critical realist methodology and the empirical data. The theory 'Policy Cycles and Subsystems' (Howlett et al., 2009) was used to re-analyse the empirical data.
FINDINGS:
HIAs for policy are necessarily both tactical and technical. Within policy subsystems using HIA to influence public policy requires tactically positioning health as a relevant public policy issue and, to facilitate this, institutional support for collaboration between Public Health and other sectors. HIA fits best within the often non-linear public policy cycle as a policy formulation instrument. HIA provides, tactically and technically, a space for practical reasoning to navigate facts, values and processes underlying the substantive and procedural dimensions of policy.
CONCLUSIONS:
Re-analysing empirical experiential data using existing public policy theory provided valuable explanations for future research, policy and practice concerning why and how HIA fits tactically and technically with the world of public policy development. The use of theory and empiricism opens up important possibilities for future research in the search for better explanations of complex practical problems.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วัตถุประสงค์และการตั้งค่า:ทศวรรษได้เห็นการใช้ประเมินผลกระทบสุขภาพ (เหีย) จะมีอิทธิพลต่อนโยบายสาธารณะพัฒนานอกภาคสุขภาพเพิ่มขึ้น เหียได้พัฒนาเป็นกระบวนการโครงสร้าง เชิงเส้น และเทคนิคการรวมสุขภาพ ทั่วไปกำหนด เป็นนโยบาย นี่คืออาจ incongruent กับทำซึ่งไม่จำเป็นต้องพิจารณาสุขภาพนโยบายซับซ้อน ไม่ใช่เชิงเส้น และยุทธวิธี เหียวิจัยได้แต่ไม่รวมทฤษฎีนโยบายสาธารณะที่มีอยู่เพื่ออธิบายประสบการณ์เหียและนโยบายของผู้นั้น งานวิจัยนี้ ดังนั้น ใช้นโยบายสาธารณะทฤษฎี การอธิบายประสบการณ์ของคของผู้สอบสวน 'คืออะไรพอดีระหว่างเหียและนโยบายสาธารณะ'วิธีการ:พบประจักษ์จากเก้าการสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้คของต่างประเทศได้อีกครั้ง analysed กับทฤษฎีนโยบายสาธารณะ เราทบทวนวรรณกรรมเหียสำหรับการรวมทฤษฎีนโยบายสาธารณะ แล้วเทียบเข้ากันได้กับวิธีของ realist ที่สำคัญและข้อมูลประจักษ์เหล่านี้ ทฤษฎี 'วงจรนโยบายและย่อย' (Howlett et al., 2009) ถูกใช้เพื่อการวิเคราะห์ข้อมูลผลการค้นพบ:HIAs for policy are necessarily both tactical and technical. Within policy subsystems using HIA to influence public policy requires tactically positioning health as a relevant public policy issue and, to facilitate this, institutional support for collaboration between Public Health and other sectors. HIA fits best within the often non-linear public policy cycle as a policy formulation instrument. HIA provides, tactically and technically, a space for practical reasoning to navigate facts, values and processes underlying the substantive and procedural dimensions of policy.CONCLUSIONS:Re-analysing empirical experiential data using existing public policy theory provided valuable explanations for future research, policy and practice concerning why and how HIA fits tactically and technically with the world of public policy development. The use of theory and empiricism opens up important possibilities for future research in the search for better explanations of complex practical problems.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วัตถุประสงค์และการตั้งค่า:
ทศวรรษที่ผ่านมาได้เห็นการใช้ที่เพิ่มขึ้นของการประเมินผลกระทบทางสุขภาพ (เอชไอเอ) ที่มีอิทธิพลต่อการพัฒนานโยบายสาธารณะที่อยู่นอกภาคสุขภาพ เอชไอเอได้พัฒนาเป็นโครงสร้างกระบวนการเชิงเส้นและเทคนิคที่จะรวมสุขภาพที่กำหนดไว้ในวงกว้างลงไปในนโยบาย นี้อาจไม่สอดคล้องกันกับความซับซ้อนที่ไม่ใช่เชิงเส้นและการกำหนดนโยบายทางยุทธวิธีซึ่งไม่จำเป็นต้องพิจารณาสุขภาพ วิจัยเอชไอเอได้ แต่ไม่ใช่ บริษัท ทฤษฎีนโยบายสาธารณะที่มีอยู่เพื่ออธิบายประสบการณ์ของผู้ปฏิบัติงานที่มีเอชไอเอและนโยบาย การวิจัยครั้งนี้จึงใช้ทฤษฎีนโยบายสาธารณะที่จะอธิบายประสบการณ์และตรวจสอบ 'ผู้ปฏิบัติงานเอชไอเอคืออะไรพอดีระหว่างเอชไอเอและนโยบายสาธารณะ'?
วิธีการ:
ผลการวิจัยเชิงประจักษ์จากเก้าสัมภาษณ์ในเชิงลึกกับผู้ปฏิบัติงานในระดับนานาชาติเอชไอเอเป็นอีกครั้งที่การวิเคราะห์กับนโยบายสาธารณะ ทฤษฎี เราได้ตรวจสอบวรรณกรรมเอชไอเอสำหรับการรวมของทฤษฎีนโยบายสาธารณะแล้วเมื่อเทียบเหล่านี้เข้ากันได้กับความจริงวิธีการที่สำคัญของเราและข้อมูลเชิงประจักษ์ (. Howlett et al, 2009) ทฤษฎี 'วงจรนโยบายและระบบย่อย' ถูกนำมาใช้อีกครั้งในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงประจักษ์.
ข้อค้นพบ:
Hias นโยบายจำเป็นต้องมีทั้งทางยุทธวิธีและเทคนิค ภายในระบบย่อยนโยบายการใช้เอชไอเอที่มีอิทธิพลต่อการกำหนดนโยบายสาธารณะต้องใช้กลยุทธ์การวางตำแหน่งของสุขภาพเป็นปัญหานโยบายสาธารณะที่เกี่ยวข้องและเพื่ออำนวยความสะดวกนี้การสนับสนุนสถาบันเพื่อการทำงานร่วมกันระหว่างสาธารณสุขและภาคอื่น ๆ เหมาะกับเอชไอเอที่ดีที่สุดในรอบนโยบายสาธารณะมักจะไม่เชิงเส้นเป็นเครื่องมือในการกำหนดนโยบาย เอชไอเอให้กลวิธีและเทคนิคพื้นที่สำหรับเหตุผลในทางปฏิบัติที่จะนำทางข้อเท็จจริงค่านิยมและกระบวนการพื้นฐานมิติที่สำคัญและการดำเนินการของนโยบาย.
สรุปเรื่องการวิเคราะห์ข้อมูลจากประสบการณ์เชิงประจักษ์ใช้ทฤษฎีนโยบายสาธารณะที่มีอยู่ให้คำอธิบายที่มีคุณค่าสำหรับการวิจัยในอนาคตนโยบายและ
การปฏิบัติเกี่ยวกับสาเหตุและวิธีการ HIA เหมาะกับกลวิธีและเทคนิคกับโลกของการพัฒนานโยบายสาธารณะ การใช้ทฤษฎีและประสบการณ์นิยมเปิดขึ้นไปได้ที่สำคัญสำหรับการวิจัยในอนาคตในการค้นหาคำอธิบายที่ดีขึ้นของปัญหาในทางปฏิบัติที่ซับซ้อน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วัตถุประสงค์และการตั้งค่า :
ทศวรรษที่ผ่านมาได้เห็นการใช้ที่เพิ่มขึ้นของการประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ ( HIA ) ที่มีอิทธิพลต่อนโยบายของรัฐพัฒนานอกภาคสาธารณสุข เฮียได้พัฒนาเป็นโครงสร้าง กระบวนการเชิงเส้นและเทคนิครวมสุขภาพ ซึ่งกำหนดเป็นนโยบาย นี้อาจซึ่งไม่ลงรอยกันกับซับซ้อนยุทธวิธีการไม่เชิงเส้นและนโยบายที่ไม่จําเป็นต้องพิจารณาสุขภาพ วิจัยเฮียได้แต่ไม่รวมที่มีอยู่นโยบายสาธารณะทฤษฎีเพื่ออธิบายประสบการณ์ของผู้ปฏิบัติงานกับเฮียและนโยบาย งานวิจัยนี้จึงใช้ทฤษฎีนโยบายสาธารณะเพื่ออธิบายประสบการณ์ของเฮียประกอบและตรวจสอบสิ่งที่จะพอดีกับเฮียและนโยบายสาธารณะ ?

วิธีการ :เชิงประจักษ์ผลการวิจัยจากการสัมภาษณ์เจาะลึกกับผู้ปฏิบัติงานเฮียเก้าระหว่างประเทศอีกครั้งกับทฤษฎีการวิเคราะห์นโยบายสาธารณะ เราได้ทบทวนวรรณกรรม HIA เพื่อรวมของทฤษฎีนโยบายสาธารณะเปรียบเทียบเหล่านี้เข้ากันได้กับวิธีการหนึ่งเดียวของเราอย่างมีวิจารณญาณและข้อมูลเชิงประจักษ์ ทฤษฎีวงจรและระบบนโยบาย ' ' ( ฮาวลิต et al . ,2009 ) ถูกใช้เพื่อจะวิเคราะห์ข้อมูลเชิงประจักษ์ ผล :

hias นโยบายจะต้องทั้งยุทธวิธีและทางเทคนิค ภายในระบบย่อยโดยใช้นโยบาย HIA ที่จะมีอิทธิพลต่อนโยบายสาธารณะต้องใช้กลยุทธ์ตำแหน่งสุขภาพเป็นประเด็นนโยบายสาธารณะที่เกี่ยวข้อง และ ความนี้ สถาบันที่สนับสนุนความร่วมมือระหว่างกระทรวงสาธารณสุขและภาคอื่น ๆเฮียเหมาะกับที่ดีที่สุดภายในวงจรนโยบายสาธารณะมักใช้เป็นนโยบายการกำหนดเครื่องมือ เฮียให้ ทั้งในเรื่องเทคนิคและแทคติก มีพื้นที่สำหรับเหตุผลในทางปฏิบัติที่จะนำทางข้อเท็จจริง คุณค่า และกระบวนการพื้นฐานสำคัญขั้นตอนและมิติของนโยบาย .

สรุปRe : วิเคราะห์ข้อมูลประสบการณ์เชิงประจักษ์โดยใช้ทฤษฎีนโยบายสาธารณะที่มีอยู่ให้คำอธิบายที่มีค่าสำหรับการวิจัยในอนาคต นโยบาย และการปฏิบัติเกี่ยวกับว่าทำไมเฮียเหมาะกับกลยุทธ์และในทางเทคนิคกับโลกของการพัฒนานโยบายสาธารณะการใช้ทฤษฎีและประสบการณ์นิยมเปิดขึ้นเป็นไปได้ที่สำคัญสำหรับการวิจัยในอนาคตในการค้นหาคำอธิบายที่ดีของปัญหาในทางปฏิบัติที่ซับซ้อน