The Doherty, a hybrid configuration

The Doherty, a hybrid configuration, is receiving new attention. It was invented in 1934 by William H. Doherty for Bell Laboratories—whose sister company, Western Electric, manufactured radio transmitters. The Doherty amplifier consists of a class-B primary or carrier stages in parallel with a class-C auxiliary or peak stage. The input signal splits to drive the two amplifiers, and a combining network sums the two output signals. Phase shifting networks are used in inputs and outputs. During periods of low signal level, the class-B amplifier efficiently operates on the signal and the class-C amplifier is cutoff and consumes little power. During periods of high signal level, the class-B amplifier delivers its maximum power and the class-C amplifier delivers up to its maximum power. The efficiency of previous AM transmitter designs was proportional to modulation but, with average modulation typically around 20%, transmitters were limited to less than 50% efficiency. In Doherty's design, even with zero modulation, a transmitter could achieve at least 60% efficiency.[15]
As a successor to Western Electric for broadcast transmitters, the Doherty concept was considerably refined by Continental Electronics Manufacturing Company of Dallas, TX. Perhaps, the ultimate refinement was the screen-grid modulation scheme invented by Joseph B. Sainton. The Sainton amplifier consists of a class-C primary or carrier stage in parallel with a class-C auxiliary or peak stage. The stages are split and combined through 90-degree phase shifting networks as in the Doherty amplifier. The unmodulated radio frequency carrier is applied to the control grids of both tubes. Carrier modulation is applied to the screen grids of both tubes. The bias point of the carrier and peak tubes is different, and is established such that the peak tube is cutoff when modulation is absent (and the amplifier is producing rated unmodulated carrier power) whereas both tubes contribute twice the rated carrier power during 100% modulation (as four times the carrier power is required to achieve 100% modulation). As both tubes operate in class C, a significant improvement in efficiency is thereby achieved in the final stage. In addition, as the tetrode carrier and peak tubes require very little drive power, a significant improvement in efficiency within the driver stage is achieved as well (317C, et al.).[16] The released version of the Sainton amplifier employs a cathode-follower modulator, not a push–pull modulator. Previous Continental Electronics designs, by James O. Weldon and others, retained most of the characteristics of the Doherty amplifier but added screen-grid modulation of the driver (317B, et al.).
The Doherty amplifier remains in use in very-high-power AM transmitters, but for lower-power AM transmitters, vacuum-tube amplifiers in general were eclipsed in the 1980s by arrays of solid-state amplifiers, which could be switched on and off with much finer granularity in response to the requirements of the input audio. However, interest in the Doherty configuration has been revived by cellular-telephone and wireless-Internet applications where the sum of several constant envelope users creates an aggregate AM result. The main challenge of the Doherty amplifier for digital transmission modes is in aligning the two stages and getting the class-C amplifier to turn on and off very quickly.
Recently, Doherty amplifiers have found widespread use in cellular base station transmitters for GHz frequencies. Implementations for transmitters in mobile devices have also been demonstrated.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

โดเฮอร์ตี้การกำหนดค่าไฮบริดได้รับความสนใจใหม่ มันถูกคิดค้นในปี 1934 โดยวิลเลียมเอช โดเฮอร์ตี้สำหรับเบลล์แล็บ-น้องสาวของ บริษัท ตะวันตกไฟฟ้าที่ผลิตเครื่องส่งสัญญาณวิทยุ เครื่องขยายเสียงโดเฮอร์ตี้ประกอบด้วยขั้นตอนหลักหรือ carrier-class b ขนานกับระดับคเสริมหรือจุดสูงสุดบนเวที สัญญาณอินพุทแยกที่จะขับรถสองแอมป์,และเครือข่ายการรวมผลรวมสองสัญญาณเอาท์พุท เครือข่ายขยับเฟสที่ใช้ในปัจจัยการผลิตและผล ในช่วงระยะเวลาของระดับสัญญาณต่ำเครื่องขยายเสียง Class B อย่างมีประสิทธิภาพทำงานบนสัญญาณและเครื่องขยายเสียง C-Class คือการตัดและสิ้นเปลืองพลังงานน้อย ในช่วงระยะเวลาของระดับสัญญาณสูงเครื่องขยายเสียง Class B-ให้อำนาจสูงสุดและเครื่องขยายเสียงระดับ C ให้ขึ้นสู่อำนาจสูงสุด ประสิทธิภาพของหน้าที่ am ออกแบบเครื่องส่งสัญญาณเป็นสัดส่วนกับการปรับ แต่มีการปรับค่าเฉลี่ยโดยทั่วไปจะมีประมาณ 20% ส่งสัญญาณถูก จำกัด ให้มีประสิทธิภาพน้อยกว่า 50% ในการออกแบบโดเฮอร์ตี้ถึงแม้จะมีการปรับศูนย์ส่งสัญญาณสามารถบรรลุ% มีประสิทธิภาพอย่างน้อย 60[15]
เป็นผู้สืบทอดไปทางทิศตะวันตกไฟฟ้าสำหรับเครื่องส่งสัญญาณออกอากาศแนวคิดโดเฮอร์ตี้กลั่นมากโดยทวีปยุโรป บริษัท ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าของดัลลัส บางทีการปรับแต่งที่ดีที่สุดคือการปรับรูปแบบหน้าจอตารางการประดิษฐ์คิดค้นโดยโจเซฟข Sainton เครื่องขยายเสียง Sainton ประกอบด้วยเวทีระดับ C หรือผู้ให้บริการหลักในแบบคู่ขนานกับระดับคเสริมหรือจุดสูงสุดบนเวทีขั้นตอนที่จะแยกและทำงานร่วมกันผ่าน 90 องศาขยับเฟสเครือข่ายในขณะที่เครื่องขยายเสียงโดเฮอร์ตี้ ผู้ให้บริการวิทยุ unmodulated ความถี่ถูกนำไปใช้กริดการควบคุมของท่อทั้งสอง การปรับผู้ให้บริการนำมาใช้กับกริดหน้าจอของท่อทั้งสอง จุดอคติของหลอดและผู้ให้บริการสูงสุดคือที่แตกต่างกันและจะจัดตั้งขึ้นดังกล่าวว่าหลอดสูงสุดคือตัดเมื่อปรับจะหายไป (และเครื่องขยายเสียงคือการผลิตไฟฟ้าของผู้ให้บริการได้รับการจัด unmodulated) ในขณะที่หลอดทั้งสองมีส่วนร่วมในอำนาจของผู้ให้บริการได้รับการจัดในช่วงการปรับ 100% (สี่เท่าอำนาจของผู้ให้บริการเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้บรรลุ 100 การปรับ%) เป็นหลอดทั้งสองทำงานใน Class C,การปรับปรุงที่สำคัญในการประสบความสำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพดังนั้นในขั้นตอนสุดท้าย นอกจากนี้ยังเป็นผู้ให้บริการ tetrode และท่อยอดเขาต้องการพลังงานไดรฟ์น้อยมากสำคัญในการปรับปรุงประสิทธิภาพภายในเวทีขับจะทำได้เช่นกัน (317c, et al,.). [16] รุ่นที่วางจำหน่ายของเครื่องขยายเสียง Sainton พนักงานแคโทด เปลี่ยนเสียงลูกศิษย์, ไม่ Push-Pull modulatorหน้าที่การออกแบบทวีปอิเล็กทรอนิกส์โดยเจมส์ o เวลดอนและคนอื่น ๆ ที่เก็บไว้มากที่สุดของลักษณะของเครื่องขยายเสียงโดเฮอร์ตี้ แต่เพิ่มหน้าจอการปรับตารางของไดรเวอร์ (317b, et al,.).
แอมป์โดเฮอร์ตี้ยังคงอยู่ในการใช้งานในสูงมากพลังงาน am เครื่องส่งสัญญาณ แต่สำหรับล่าง พลังงาน am เครื่องส่งสัญญาณ,แอมป์หลอดสุญญากาศโดยทั่วไปถูกบดบังในช่วงปี 1980 โดยอาร์เรย์ของ solid-state amplifiers ซึ่งสามารถเปิดและปิดพร้อมกับเมล็ดปลีกย่อยมากในการตอบสนองความต้องการของอินพุตเสียง อย่างไรก็ตามความสนใจในการตั้งค่าที่โดเฮอร์ตี้ได้รับการฟื้นฟูโดยการใช้งานโทรศัพท์มือถือโทรศัพท์ไร้สายและอินเทอร์เน็ตที่ผลรวมของหลายผู้ใช้ซองจดหมายคงสร้างรวมผล am ความท้าทายหลักของเครื่องขยายเสียงโดเฮอร์ตี้สำหรับโหมดการส่งผ่านดิจิตอลที่อยู่ในการจัดตำแหน่งสองขั้นตอนและได้รับเครื่องขยายเสียง Class C เพื่อเปิดและปิดอย่างรวดเร็ว.
เมื่อเร็ว ๆ นี้แอมป์โดเฮอร์ตี้ได้พบการใช้อย่างแพร่หลายในเครื่องส่งสัญญาณของสถ​​านีฐานโทรศัพท์มือถือสำหรับความถี่ GHz การใช้งานสำหรับการส่งสัญญาณในอุปกรณ์มือถือได้รับนอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นถึง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โดเฮอร์ตี การกำหนดค่าแบบผสมผสาน ได้รับความสนใจใหม่ มันถูกคิดค้นใน 1934 โดย William H. โดเฮอร์ตีในห้องปฏิบัติการเบลล์ — น้องบริษัท เวสเทิร์นไฟฟ้า ผลิตเครื่องส่งสัญญาณวิทยุ เครื่องขยายเสียงโดเฮอร์ตีประกอบด้วยเป็นคลาส B หลักหรือบริษัทขนส่งระยะไปพร้อม ๆ กับเสริม C คลาสหรือขั้นสูงสุด สัญญาณอินพุตแยกการไดรฟ์สองเครื่องขยายเสียง และเครือข่ายรวมผลรวมสัญญาณเอาท์พุทสอง ระยะที่มีใช้เครือข่ายเลื่อนลอยในอินพุตและเอาท์พุต ช่วงของระดับสัญญาณต่ำ เพาเวอร์แอมป์คลาส-บีทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพบนสัญญาณ แล้วขยายคลาส C จะตัดยอด และใช้พลังงานน้อย ช่วงที่ระดับสัญญาณสูง เพาเวอร์แอมป์คลาส-บีให้กำลังสูงสุด และเพาเวอร์แอมป์คลาส C ให้ค่าพลังงานสูงสุด ประสิทธิภาพของเครื่องส่ง AM ก่อนหน้านี้ ออกแบบได้สัดส่วนกับเอ็ม แต่ เอ็มเฉลี่ยโดยทั่วไปประมาณ 20% เครื่องส่งสัญญาณมีประสิทธิภาพจำกัดน้อยกว่า 50% ในการออกแบบของโดเฮอร์ตี แม้จะมีศูนย์เอ็ม ส่งสามารถบรรลุอย่างน้อย 60% ประสิทธิภาพการ[15]
เป็นสืบการไฟฟ้าตะวันตกสำหรับเครื่องส่งสัญญาณออกอากาศ แนวคิดโดเฮอร์ตีถูกมากกลั่น โดยคอนติเนนทัลผลิต บริษัทอิเล็กทรอนิกส์ของดัลลัส เท็กซัส บางที รีไฟน์เมนท์ที่ดีที่สุดคือ โครงร่างของเอ็มจออาทิตย์ที่คิดค้น โดยโจเซฟ B. Sainton เพาเวอร์แอมป์ Sainton ประกอบด้วยคลาส C หลักหรือบริษัทขนส่งระยะขนานกับเสริม C คลาสหรือขั้นสูงสุด ขั้นตอนการแยก และรวมถึงขยับเครือข่ายขยายโดเฮอร์ตีในระยะ 90 องศา บริษัทขนส่งคลื่นความถี่วิทยุ unmodulated ใช้กับควบคุมกริดของหลอดทั้งสอง เอ็มผู้ขนส่งจะใช้กับหน้าจอกริดของหลอดทั้งสอง จุดที่ตั้งของท่อขนส่งและยอดจะแตกต่างกัน และได้ก่อตั้งขึ้นที่ท่อสูงสุดคือตัดยอดเมื่อเอ็มมา (และเพาเวอร์แอมป์จะผลิตพลังงานผู้ได้รับคะแนน unmodulated) ในขณะที่หลอดทั้งสองนำสองอำนาจผู้ขนส่งได้รับคะแนนระหว่างเอ็ม 100% (เป็นครั้งที่สี่พลังผู้ขนส่งจะต้องบรรลุเอ็ม 100%) เป็นหลอดทั้งสองทำงานในคลาส C จึงทำการปรับปรุงที่สำคัญในประสิทธิภาพในขั้นตอนสุดท้าย นอกจากนี้ เป็น tetrode บริษัทขนส่งและสูงสุดหลอดต้องการพลังงานขับรถเล็ก ปรับปรุงอย่างมีนัยสำคัญอย่างมีประสิทธิภาพภายในระยะควบคุมทำด้วย (317C, et al)[16] รุ่น Sainton เพาเวอร์แอมป์ที่ออกใช้เป็นแคโทดหล่อ modulator ไม่ modulator push–pull ออกแบบอิเล็กทรอนิกส์ยุโรปก่อนหน้า เจมส์โอ Weldon และคนอื่น ๆ สะสมส่วนใหญ่ลักษณะของเพาเวอร์แอมป์โดเฮอร์ตีแต่เอ็มเพิ่มอาทิตย์หน้าจอของโปรแกรมควบคุม (317B, et al)
เพาเวอร์แอมป์โดเฮอร์ตียังคงใช้ ในเครื่องส่งสัญญาณ AM มากสมรรถนะสูง แต่ใช้พลังงานต่ำกว่าเครื่องส่ง สัญญาณ AM เครื่องขยายเสียงหลอดสุญญากาศโดยทั่วไปอยู่ได้ในทศวรรษ 1980 โดยอาร์เรย์เครื่องขยายโซลิดสเตตเสียง ซึ่งสามารถสลับเปิด และปิดกับมากส่วนประกอบปลีกย่อยในการตอบสนองความต้องการของสัญญาณเสียง อย่างไรก็ตาม สนใจในการตั้งค่าคอนฟิกโดเฮอร์ตีมีการฟื้นฟู โดยที่ผลรวมของหลายซองคงผู้ใช้สร้างผลลัพธ์ที่ AM รวมโปรแกรม โทรศัพท์มือถือ และอินเตอร์ เน็ตไร้สาย ความท้าทายหลักของเพาเวอร์แอมป์โดเฮอร์ตีสำหรับวิธีส่งข้อมูลดิจิตอลอยู่ในขั้นสองการจัดตำแหน่ง และการขยายคลาส C เพื่อเปิด และปิดอย่างรวดเร็ว.
ล่าสุด เครื่องขยายเสียงโดเฮอร์ตีได้พบอย่างแพร่หลายใช้เครื่องส่งสัญญาณของสถานีฐานโทรศัพท์มือถือสำหรับความถี่ GHz สำหรับเครื่องส่งสัญญาณในโทรศัพท์มือถือที่ใช้งานมีการแสดง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

doherty ที่การตั้งค่าระบบไฮบริดที่ได้รับความสนใจใหม่ มันเป็นผู้ประดิษฐ์คิดค้นขึ้นมาในช่วงปีค.ศ .1934 โดย William H . doherty สำหรับเสียงระฆัง Laboratories - ซึ่งในเครือบริษัทผลิตไฟฟ้าแบบตะวันตกตัวส่งสัญญาณวิทยุ แอมพลิไฟเออร์ doherty ที่ประกอบด้วยขั้นตอนหลักหรือผู้ให้บริการระดับ First Class B ในแบบคู่ขนานกับเวทีเสริมหรือสูงสุด Class - C สัญญาณอินพุตจะแยกไปขับรถในระยะเวลาสองที่แอมพลิฟายเออร์และเครือข่ายด้วยการผสมผสานที่จำนวนเงินสองสัญญาณเอาต์พุต เครือข่ายการเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานในอินพุตและเอาต์พุต ในช่วงที่มีระดับสัญญาณต่ำแอมพลิฟายเออร์ Class - B ได้อย่างมี ประสิทธิภาพ ทำงานในสัญญาณและแอมพลิฟายเออร์ Class - C เป็นตัดและใช้พลังงานน้อย ในระหว่างช่วงเวลาของระดับสัญญาณสูงระบบขยายเสียง Class - B ที่ให้พลังไฟสูงสุดและแอมพลิฟายเออร์ Class - C ที่ช่วยมอบแบนด์วิดธ์ที่สูงถึงระดับพลังงานสูงสุดของพื้นที่ การออกแบบที่มี ประสิทธิภาพ ของตัวส่งสัญญาณเป็นก่อนหน้าเป็นสัดส่วนเพื่อการโมดูเลชันแต่พร้อมด้วยการแปลงสัญญาณโดยเฉลี่ยโดยทั่วไปประมาณ 20% เป็นตัวส่งสัญญาณจำกัดให้น้อยกว่า 50% มี ประสิทธิภาพ ในการออกแบบของ doherty แม้จะมีศูนย์การโมดูเลชันตัวส่งสัญญาณที่จะได้รับอย่างมี ประสิทธิภาพ อย่างน้อย 60%[ 15 ]
เป็นผู้สืบราชสันตติวงศ์เป็นไฟฟ้าแบบตะวันตกสำหรับเครื่องส่งสัญญาณการถ่ายทอดแนวความคิด doherty ที่หรูหราเป็นอย่างมากโดยการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แบบคอนติเน็นทัลของ Dallas , TX อาจจะเป็นการคัดกรองที่ดีที่สุดคือโครงสร้างขนาด - ตารางการโมดูเลชันที่คิดค้นโดยโยเซฟ B . sainton แอมพลิไฟเออร์ sainton ที่ประกอบไปด้วยในเวทีระดับ First Class - C หลักหรือผู้ให้บริการในแบบคู่ขนานกับเวทีเสริมหรือสูงสุด Class - Cขั้นตอนที่จะถูกแยกและประกอบไปด้วยการเปลี่ยนผ่านเครือข่ายระยะ 90 องศาในแอมพลิฟายเออร์ doherty ได้ คลื่นพาหะความถี่วิทยุ unmodulated ที่จะถูกนำมาใช้กับระบบการควบคุมของท่อทั้งสอง การโมดูเลชันผู้ให้บริการจะถูกนำมาใช้กับเครือข่ายที่แสดงของท่อทั้งสอง จุดการทำงานของท่อดูดสูงสุดและผู้ให้บริการที่มีความแตกต่างกันและจะถูกสร้างขึ้นที่สูงสุดคือตัดท่อดูดฝุ่นเมื่อการโมดูเลชันไม่อยู่(และที่แอมพลิฟายเออร์เป็นการผลิตกระแสไฟฟ้า unmodulated ผู้ให้บริการ)ในขณะที่ทั้งสองท่อช่วยสองครั้งที่อันดับผู้ขนส่งพลังงานในระหว่าง 100% สัญญาณคลื่นวิทยุ(เป็นสี่ครั้งที่ผู้ให้บริการมีการจ่ายไฟที่ต้องทำเพื่อให้บรรลุ 100% การโมดูเลชัน) เป็นท่อทั้งสองทำงานใน C - Classการปรับปรุงอย่างมีนัยสำคัญที่อยู่ในความมี ประสิทธิภาพ จะทำให้เกิดขึ้นในขั้นตอนสุดท้าย นอกจากนี้ในการเป็นผู้ให้บริการและข้อต่อท่อและท่อระบายน้ำ tetrode สูงสุดที่ต้องใช้พลังงานเป็นอย่างมากขับรถเพียงเล็กน้อยที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในแอมพลิฟายเออร์ ประสิทธิภาพ ในขั้นตอนพนักงานขับรถที่มีความสำเร็จเป็นอย่างดี( 317 C et al .)[ 16 ]รุ่น sainton ที่มีพนักงาน ภาพ สาวก RF โมดูเลเตอร์ RF โมดูเลเตอร์ไม่ push - ดึงที่ก่อนหน้าแบบคอนติเน็นทัลการออกแบบอิเล็กทรอนิกส์โดยเจมส์ O weldon และอื่นๆที่ถูกเก็บไว้ที่ลักษณะของ doherty แอมพลิฟายเออร์แต่หน้าจอเพิ่มขึ้น - ตารางการโมดูเลชันของพนักงานขับรถ( 317 B , et al .)..
ที่ doherty แอมพลิฟายเออร์ยังคงอยู่ที่ใช้งานอยู่ในเป็นอย่างมาก - ไฟสูงเป็นตัวส่งสัญญาณ,แต่สำหรับลดใช้พลังงานเป็นตัวส่งสัญญาณ,เครื่องขยายสัญญาณเสียงเครื่องดูดฝุ่น - ท่อดูดฝุ่นในทั่วไปเป็นเร้นในช่วงทศวรรษที่ 1980 s โดยแอมพลิฟายเออร์อาเรย์ของ Solid - State ซึ่งสามารถเปิดและปิดด้วยย่อยมากกว่าในการตอบสนองความต้องการของระบบเสียงเข้า แต่ถึงอย่างไรก็ตามในการกำหนดค่าดอกเบี้ย doherty ที่ได้รับการฟื้นฟูขึ้นมาใหม่โดยแอพพลิเคชันระบบเซลลูลาร์และโทรศัพท์แบบไร้สาย - อินเตอร์เน็ตที่รวมของผู้ใช้หลายซองจดหมายคงที่จะสร้างผลเป็นที่รวม ความท้าทายที่สำคัญของเครื่องขยายเสียง doherty สำหรับโหมดการส่งสัญญาณแบบดิจิตอลจะอยู่ในแนวเดียวกับสองขั้นตอนและได้รับระบบขยายเสียง Class - C เพื่อเปิดและปิดเป็นอย่างมากได้อย่างรวดเร็ว
เมื่อไม่นานมานี้แอมพลิฟายเออร์ doherty ได้พบการใช้อย่างแพร่หลายในตัวส่งสัญญาณสถานีฐานเซลลูลาร์สำหรับความถี่ GHz การใช้งานสำหรับเครื่องส่งสัญญาณในอุปกรณ์แบบพกพาได้รับการแสดงให้เห็นว่ายังมี