บทที่ 2เอกสาร และงานวิจัยที่เกี่ยวข้องในการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ ผู้วิจ การแปล - บทที่ 2เอกสาร และงานวิจัยที่เกี่ยวข้องในการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ ผู้วิจ ไทย วิธีการพูด

บทที่ 2เอกสาร และงานวิจัยที่เกี่ยวข

บทที่ 2
เอกสาร และงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง

ในการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ ผู้วิจัยศึกษาค้นคว้าเอกสารงานวิจัยและทฤษฎีที่เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้
1. เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการสอนคำศัพท์
1.1 ความหมายของคำศัพท์
1.2 ความสำคัญของคำศัพท์
1.3 องค์ประกอบของคำศัพท์ภาษาอังกฤษ
1.4 ประเภทของคำศัพท์ภาษาอังกฤษ
1.5 หลักการเลือกคำศัพท์ภาษาอังกฤษเพื่อนำมาสอน
1.6 วิธีการสอนคำศัพท์ภาษาอังกฤษ

2. เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการใช้เกมคำศัพท์ประกอบการสอน
2.1 ความหมายของเกม
2.2 ประเภทและลักษณะของเกมประกอบการสอน
2.3 การใช้เกมประกอบการสอน
2.4 ชนิดของเกมประกอบการสอน
2.5 ความสำคัญของการใช้เกมคำศัพท์ประกอบการสอน
2.6 หลักการเลือกเกมเพื่อใช้ในการสอนภาษา

3. งานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับเกมการสอนคำศัพท์
3.1 งานวิจัยต่างประเทศ
3.2 งานวิจัยในประเทศ





1. เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการสอนคำศัพท์
1.1. ความหมายของคำศัพท์
ความหมายของคำศัพท์ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน (2542) หมายถึง กลุ่มเสียง เสียง เสียงพูด หรือลายลักษณ์อักษรที่เขียนหรือพิมพ์ขึ้นเพื่อความคิดเป็นคำหรือคำยากที่ต้องแปล
คำศัพท์ หมายถึง กลุ่มเสียงกลุ่มหนึ่ง ซึ่งมีความหมายให้รู้ว่าเป็นคน สิ่งของ อาการ หรือลักษณะอาการอย่างใดอย่างหนึ่ง (ศิธร แสงธนู และ คิด พงศทัต 2521 : 35-41)
คำศัพท์ภาษาอังกฤษ หมายถึง “คำ” ทั้งในภาษาพูด และภาษาเขียน ได้แก่ คำนาม คำกิริยา คำคุณศัพท์ และคำกริยาวิเศษณ์ ซึ่งมีความหมายแน่นอนในตัวเอง (ธนสิทธิ์ ศรีรัตน์ 2543 :10)

สรุปได้ว่า คำศัพท์ หมายถึง กลุ่มเสียง เสียงพูด ทั้งในภาษาพูดและภาษาเขียน ได้แก่คำนาม คำกริยา คำคุณศัพท์ และคำกริยาวิเศษณ์ ซึ่งมีความหมายในตัวเอง

1.2 ความสำคัญของคำศัพท์
ความรู้ในด้านคำศัพท์ถือว่าเป็นส่วนที่สำคัญในการเรียนภาษา ฟรีส (สมใจ หอมสุวรรณา2544 : 39) : อ้างอิงจาก Fries : 1984) กล่าวไว้ว่าความสำเร็จในการเรียนภาษาต่างประเทศส่วนหนึ่งนั้นขึ้นอยู่กับความสามารถในการใช้องค์ประกอบของภาษาซึ่งประกอบด้วยเสียง โครงสร้างไวยากรณ์ และคำศัพท์ องค์ประกอบทั้ง 3 อย่างนี้ จะช่วยให้ผู้เรียนภาษาสามารถเข้าใจเรื่องที่ผู้อื่นพูดและสามารถพูดให้ผู้อ่านเข้าใจได้ คือสามารถใช้สื่อสารความหมายได้ คำศัพท์จึงถือว่าเป็นพื้นฐานของการเรียนภาษาดังที่ สตีวิค (Stewick. 1972 : 2) กล่าวว่าผู้เรียนได้เรียนภาษาต่างประเทศต่อเมื่อ
1. ได้เรียนรู้ในระบบเสียง คือ สามารถพูดได้ดีและสามารถเข้าใจได้ดี
2. ได้เรียนรู้และสามารถใช้ไวยากรณ์ของภาษานั้น ๆ ได้
3. ได้เรียนรู้คำศัพท์จำนวนมากพอสมควรที่จะสามารถนำมาใช้
กาเดสซี่ (Ghadessy. 1979 : 24) ให้ความเห็นว่า การสอนคำศัพท์มีความสำคัญยิ่งกว่าการสอนโครงสร้างทางไวยากรณ์ เพราะคำศัพท์เป็นพื้นฐานของการเรียนภาษา หากผู้เรียนมีความรู้เกี่ยวกับคำศัพท์ก็สามารถจะนำคำศัพท์มาสร้างเป็นหน่วยที่ใหญ่ขึ้น เช่น วลี ประโยค ความเรียงแต่หากไม่เข้าใจคำศัพท์ก็ไม่สามารถเข้าใจหน่วยทางภาษาที่ใหญ่กว่าได้เลย
เช่นเดียวกับ วรรณพร ศิลาขาว (2538 : 18) ที่ให้ความเห็นว่า คำศัพท์เป็นหน่วยพื้นฐานทางภาษา ซึ่งผู้เรียนจะต้องเรียนรู้เป็นอันดับแรก เพราะคำศัพท์เป็นองค์ประกอบที่สำคัญในการเรียนรู้และฝึกฝนทักษะการฟัง พูด อ่าน และเขียนภาษา

สรุปได้ว่า คำศัพท์เป็นหน่วยพื้นฐานทางภาษา ซึ่งผู้เรียนจะต้องเรียนรู้เป็นอันดับแรกเพราะคำศัพท์เป็นองค์ประกอบที่สำคัญในการเรียน ทักษะ ฟัง พูด อ่าน และเขียนภาษา ดังนั้นการเรียนคำศัพท์จึงมีความสำคัญต่อการเรียนภาษามาก

1.3 องค์ประกอบของคำศัพท์ทางภาษาอังกฤษ
ในการศึกษาองค์ประกอบคำศัพท์ภาษาอังกฤษนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้นักเรียนเข้าใจคำศัพท์คำหนึ่ง ๆ ว่าประกอบด้วยอะไรบ้าง (ธนสิทธิ์ ศรีรัตน์. 2543 : 11 ; อ้างอิงจาก อุทัย ภิรมย์รื่นและ เพ็ญศรี รังติกุล. 2526 : 58) ได้กล่าวถึงองค์ประกอบของคำศัพท์ภาษาอังกฤษดังนี้
1. รูปคำ (Form) ได้แก่ ตัวอักษร (ตัวใหญ่ หรือตัวเล็ก) การได้ยิน การรู้จักคำ และจำจังหวะของเสียงในประโยค
2. ความหมาย (Meaning) ได้แก่ ความหมายของคำนั้น ๆ ซึ่งหากจะกล่าวโดยละเอียดแล้ว คำศัพท์หนึ่ง ๆ จะมีความหมายแฝงอยู่ถึง 4 นัยด้วยกัน คือ
2.1 ความหมายตามพจนานุกรม (Lexical Meaning)
ได้แก่ ความหมายตามพจนานุกรม สำหรับภาษาอังกฤษคำหนึ่ง ๆ มีความหมายหลายอย่าง บางคำอาจใช้ในความหมายแตกต่างกันทำให้บางคนเข้าใจว่าความหมายที่แตกต่างออกไป หรือความหมายที่ตนไม่ค่อยรู้จักนั้นเป็น “สำนวน” ของภาษา เช่น
He went to his home. (บ้านเป็นที่อยู่อาศัย)
The President lives in the White House. (บ้านประจำตำแหน่งประธานาธิบดี)
The House of Representative is meeting today. (สภา)
2.2 ความหมายทางไวยากรณ์ (Morphological Meaning)
คำศัพท์ประเภทนี้เมื่ออยู่ตามลำพังโดด ๆ จะเดาความหมายได้ยาก เช่น “s” เมื่อไปต่อท้ายคำนาม hats, pens จะแสดงความหมายเป็นพหูพจน์ หรือเมื่อนำไปต่อท้ายคำกริยา เช่น walks ในประโยค She walks home. ก็จะหมายความว่า การกระทำนั้นทำอยู่เป็นประจำ เป็นต้น
2.3 ความหมายจากการเรียงคำ (Syntactic Meaning)
ได้แก่ ความหมายที่เปลี่ยนแปลงไปตามการเรียงลำดับคำ เช่น boathouse หมายถึง อู่เรือ แตกต่างจาก house boat หมายถึงเรือที่ทำเป็นบ้าน
2.4 ความหมายตามเสียงขึ้นลง (Intonational Meaning)
ได้แก่ ความหมายของคำที่เปลี่ยนไปตามเสียงขึ้นลงที่ผู้พูดเปล่งออกมา ไม่ว่าจะเป็นเสียงที่มีพยางค์เดียวหรือมากกว่า เช่น Fire กับ Fire คำแรกเป็นการบอกเล่าที่อาจทำให้ผู้ฟังตกใจมากหรือน้อย แล้วแต่น้ำหนักของเสียงที่เปล่งออกส่วนคำหลังเป็นคำถาม เป็นเชิงไม่แน่ใจจากผู้ฟัง
3. ขอบเขตของการใช้คำ (Distribution) จำแนกออกเป็น
3.1 ขอบเขตทางด้านไวยากรณ์
เช่น ในภาษาอังกฤษการเรียงลำดับคำ (Word Order) หรือตำแหน่งของคำที่อยู่ในประโยคที่แตกต่างกัน ทำให้คำนั้นมีความหมายแตกต่างกันออกไปด้วย ดังประโยคต่อไปนี้
The man is brave. (คำนาม) แปลว่า คนผู้ชาย
They man the ship (คำกริยา) แปลว่า บังคับ
We need more man-power. (คำคุณศัพท์) แปลว่า กำลังคน
3.2 ขอบเขตของภาษาพูดและภาษาเขียน
คำบางคำใช้ในภาษาพูดเท่านั้น แต่คำบางคำก็ใช้ภาษาเขียนโดยเฉพาะ
3.3 ขอบเขตของภาษาในแต่ละท้องถิ่น
การใช้คำศัพท์บางคำมีความหมายแตกต่างไปแต่ละท้องถิ่น และแม้แต่ภายในประเทศเดียวกันก็ยังมีภาษาท้องถิ่นที่แตกต่างกันไป

สรุปได้ว่า องค์ประกอบของคำศัพท์ภาษาอังกฤษมี 3 ประการ คือ รูปคำความหมายและขอบเขตของการใช้คำ ในด้านของความหมาย นอกจากจะมีความหมายตามพจนานุกรมแล้ว ยังมีความหมายทางไวยากรณ์ ความหมายของการเรียงคำ และความหมายจากการออกเสียงขึ้นลงของคำ
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
บทที่ 2เอกสาร และงานวิจัยที่เกี่ยวข้องในการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ ผู้วิจัยศึกษาค้นคว้าเอกสารงานวิจัยและทฤษฎีที่เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้1. เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการสอนคำศัพท์1.1 ความหมายของคำศัพท์1.2 ความสำคัญของคำศัพท์1.3 องค์ประกอบของคำศัพท์ภาษาอังกฤษ1.4 ประเภทของคำศัพท์ภาษาอังกฤษ1.5 หลักการเลือกคำศัพท์ภาษาอังกฤษเพื่อนำมาสอน1.6 วิธีการสอนคำศัพท์ภาษาอังกฤษ2. เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการใช้เกมคำศัพท์ประกอบการสอน2.1 ความหมายของเกม2.2 ประเภทและลักษณะของเกมประกอบการสอน2.3 การใช้เกมประกอบการสอน2.4 ชนิดของเกมประกอบการสอน2.5 ความสำคัญของการใช้เกมคำศัพท์ประกอบการสอน2.6 หลักการเลือกเกมเพื่อใช้ในการสอนภาษา3. งานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับเกมการสอนคำศัพท์3.1 งานวิจัยต่างประเทศ3.2 งานวิจัยในประเทศ1. เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการสอนคำศัพท์1.1. ความหมายของคำศัพท์ความหมายของคำศัพท์ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน (2542) หมายถึง กลุ่มเสียง เสียง เสียงพูด หรือลายลักษณ์อักษรที่เขียนหรือพิมพ์ขึ้นเพื่อความคิดเป็นคำหรือคำยากที่ต้องแปลคำศัพท์ หมายถึง กลุ่มเสียงกลุ่มหนึ่ง ซึ่งมีความหมายให้รู้ว่าเป็นคน สิ่งของ อาการ หรือลักษณะอาการอย่างใดอย่างหนึ่ง (ศิธร แสงธนู และ คิด พงศทัต 2521 : 35-41)คำศัพท์ภาษาอังกฤษหมายถึง "คำ" ทั้งในภาษาพูดและภาษาเขียนได้แก่คำนามคำกิริยาคำคุณศัพท์และคำกริยาวิเศษณ์ซึ่งมีความหมายแน่นอนในตัวเอง (ธนสิทธิ์ศรีรัตน์ 2543:10)สรุปได้ว่าคำศัพท์หมายถึงกลุ่มเสียงเสียงพูดทั้งในภาษาพูดและภาษาเขียนได้แก่คำนามคำกริยาคำคุณศัพท์และคำกริยาวิเศษณ์ซึ่งมีความหมายในตัวเอง1.2 ความสำคัญของคำศัพท์ความรู้ในด้านคำศัพท์ถือว่าเป็นส่วนที่สำคัญในการเรียนภาษา ฟรีส (สมใจ หอมสุวรรณา2544 : 39) : อ้างอิงจาก Fries : 1984) กล่าวไว้ว่าความสำเร็จในการเรียนภาษาต่างประเทศส่วนหนึ่งนั้นขึ้นอยู่กับความสามารถในการใช้องค์ประกอบของภาษาซึ่งประกอบด้วยเสียง โครงสร้างไวยากรณ์ และคำศัพท์ องค์ประกอบทั้ง 3 อย่างนี้ จะช่วยให้ผู้เรียนภาษาสามารถเข้าใจเรื่องที่ผู้อื่นพูดและสามารถพูดให้ผู้อ่านเข้าใจได้ คือสามารถใช้สื่อสารความหมายได้ คำศัพท์จึงถือว่าเป็นพื้นฐานของการเรียนภาษาดังที่ สตีวิค (Stewick. 1972 : 2) กล่าวว่าผู้เรียนได้เรียนภาษาต่างประเทศต่อเมื่อ1. ได้เรียนรู้ในระบบเสียง คือ สามารถพูดได้ดีและสามารถเข้าใจได้ดี2. ได้เรียนรู้และสามารถใช้ไวยากรณ์ของภาษานั้น ๆ ได้3. ได้เรียนรู้คำศัพท์จำนวนมากพอสมควรที่จะสามารถนำมาใช้กาเดสซี่ (Ghadessy. 1979 : 24) ให้ความเห็นว่า การสอนคำศัพท์มีความสำคัญยิ่งกว่าการสอนโครงสร้างทางไวยากรณ์ เพราะคำศัพท์เป็นพื้นฐานของการเรียนภาษา หากผู้เรียนมีความรู้เกี่ยวกับคำศัพท์ก็สามารถจะนำคำศัพท์มาสร้างเป็นหน่วยที่ใหญ่ขึ้น เช่น วลี ประโยค ความเรียงแต่หากไม่เข้าใจคำศัพท์ก็ไม่สามารถเข้าใจหน่วยทางภาษาที่ใหญ่กว่าได้เลยเช่นเดียวกับ วรรณพร ศิลาขาว (2538 : 18) ที่ให้ความเห็นว่า คำศัพท์เป็นหน่วยพื้นฐานทางภาษา ซึ่งผู้เรียนจะต้องเรียนรู้เป็นอันดับแรก เพราะคำศัพท์เป็นองค์ประกอบที่สำคัญในการเรียนรู้และฝึกฝนทักษะการฟัง พูด อ่าน และเขียนภาษาสรุปได้ว่า คำศัพท์เป็นหน่วยพื้นฐานทางภาษา ซึ่งผู้เรียนจะต้องเรียนรู้เป็นอันดับแรกเพราะคำศัพท์เป็นองค์ประกอบที่สำคัญในการเรียน ทักษะ ฟัง พูด อ่าน และเขียนภาษา ดังนั้นการเรียนคำศัพท์จึงมีความสำคัญต่อการเรียนภาษามาก1.3 องค์ประกอบของคำศัพท์ทางภาษาอังกฤษได้กล่าวถึงองค์ประกอบของคำศัพท์ภาษาอังกฤษดังนี้ในการศึกษาองค์ประกอบคำศัพท์ภาษาอังกฤษนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้นักเรียนเข้าใจคำศัพท์คำหนึ่งๆ ว่าประกอบด้วยอะไรบ้าง (ธนสิทธิ์ศรีรัตน์. 2543:11 อ้างอิงจากอุทัยภิรมย์รื่นและเพ็ญศรีรังติกุลไป:58)1. รูปคำ (แบบฟอร์ม) ได้แก่ตัวอักษร (ตัวใหญ่หรือตัวเล็ก) การได้ยินการรู้จักคำและจำจังหวะของเสียงในประโยค2. ความหมาย (ความหมาย) ได้แก่ความหมายของคำนั้นๆ ซึ่งหากจะกล่าวโดยละเอียดแล้วคำศัพท์หนึ่งๆ จะมีความหมายแฝงอยู่ถึง 4 นัยด้วยกันคือ2.1 ความหมายตามพจนานุกรม (เกี่ยวกับคำศัพท์ความหมาย) ได้แก่ ความหมายตามพจนานุกรม สำหรับภาษาอังกฤษคำหนึ่ง ๆ มีความหมายหลายอย่าง บางคำอาจใช้ในความหมายแตกต่างกันทำให้บางคนเข้าใจว่าความหมายที่แตกต่างออกไป หรือความหมายที่ตนไม่ค่อยรู้จักนั้นเป็น “สำนวน” ของภาษา เช่นHe went to his home. (บ้านเป็นที่อยู่อาศัย)The President lives in the White House. (บ้านประจำตำแหน่งประธานาธิบดี)The House of Representative is meeting today. (สภา)2.2 ความหมายทางไวยากรณ์ (Morphological Meaning) คำศัพท์ประเภทนี้เมื่ออยู่ตามลำพังโดด ๆ จะเดาความหมายได้ยาก เช่น “s” เมื่อไปต่อท้ายคำนาม hats, pens จะแสดงความหมายเป็นพหูพจน์ หรือเมื่อนำไปต่อท้ายคำกริยา เช่น walks ในประโยค She walks home. ก็จะหมายความว่า การกระทำนั้นทำอยู่เป็นประจำ เป็นต้น2.3 ความหมายจากการเรียงคำ (Syntactic Meaning) ได้แก่ ความหมายที่เปลี่ยนแปลงไปตามการเรียงลำดับคำ เช่น boathouse หมายถึง อู่เรือ แตกต่างจาก house boat หมายถึงเรือที่ทำเป็นบ้าน2.4 ความหมายตามเสียงขึ้นลง (Intonational Meaning) ได้แก่ ความหมายของคำที่เปลี่ยนไปตามเสียงขึ้นลงที่ผู้พูดเปล่งออกมา ไม่ว่าจะเป็นเสียงที่มีพยางค์เดียวหรือมากกว่า เช่น Fire กับ Fire คำแรกเป็นการบอกเล่าที่อาจทำให้ผู้ฟังตกใจมากหรือน้อย แล้วแต่น้ำหนักของเสียงที่เปล่งออกส่วนคำหลังเป็นคำถาม เป็นเชิงไม่แน่ใจจากผู้ฟัง3. ขอบเขตของการใช้คำ (Distribution) จำแนกออกเป็น3.1 ขอบเขตทางด้านไวยากรณ์ เช่น ในภาษาอังกฤษการเรียงลำดับคำ (Word Order) หรือตำแหน่งของคำที่อยู่ในประโยคที่แตกต่างกัน ทำให้คำนั้นมีความหมายแตกต่างกันออกไปด้วย ดังประโยคต่อไปนี้The man is brave. (คำนาม) แปลว่า คนผู้ชายThey man the ship (คำกริยา) แปลว่า บังคับWe need more man-power. (คำคุณศัพท์) แปลว่า กำลังคน3.2 ขอบเขตของภาษาพูดและภาษาเขียน คำบางคำใช้ในภาษาพูดเท่านั้น แต่คำบางคำก็ใช้ภาษาเขียนโดยเฉพาะ3.3 ขอบเขตของภาษาในแต่ละท้องถิ่น การใช้คำศัพท์บางคำมีความหมายแตกต่างไปแต่ละท้องถิ่น และแม้แต่ภายในประเทศเดียวกันก็ยังมีภาษาท้องถิ่นที่แตกต่างกันไปสรุปได้ว่า องค์ประกอบของคำศัพท์ภาษาอังกฤษมี 3 ประการ คือ รูปคำความหมายและขอบเขตของการใช้คำ ในด้านของความหมาย นอกจากจะมีความหมายตามพจนานุกรมแล้ว ยังมีความหมายทางไวยากรณ์ ความหมายของการเรียงคำ และความหมายจากการออกเสียงขึ้นลงของคำ
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
บทที่ 2
เอกสาร ความหมายของคำศัพท์1.2 ความสำคัญของคำศัพท์1.3 องค์ประกอบของคำศัพท์ภาษาอังกฤษ1.4 ประเภทของคำศัพท์ภาษาอังกฤษ1.5 วิธีการสอนคำศัพท์ภาษาอังกฤษ2 ความหมายของเกม2.2 การใช้เกมประกอบการสอน2.4 ชนิดของเกมประกอบการสอน2.5 งานวิจัยต่างประเทศ3.2 งานวิจัยในประเทศ1 (2542) หมายถึงกลุ่มเสียงเสียงเสียงพูด หมายถึงกลุ่มเสียงกลุ่มหนึ่งซึ่งมีความหมายให้รู้ว่าเป็นคนสิ่งของอาการหรือลักษณะอาการอย่างใดอย่างหนึ่ง (ศิธรแสงธนูและคิดพงศทัต 2521: 35-41) คำศัพท์ภาษาอังกฤษหมายถึง "คำ" ทั้งใน ภาษาพูดและภาษาเขียน ได้แก่ คำนามคำกิริยาคำคุณศัพท์และคำกริยาวิเศษณ์ซึ่งมีความหมายแน่นอนในตัวเอง (ธนสิทธิ์ศรีรัตน์ 2543: 10) สรุปได้ว่าคำศัพท์หมายถึงกลุ่มเสียงเสียงพูดทั้งในภาษาพูดและภาษาเขียน ได้แก่ คำนามคำกริยาคำคุณศัพท์และคำกริยาวิเศษณ์ซึ่งมีความหมายในตัวเอง1.2 ฟรีส (สมใจหอมสุวรรณา 2544: 39): อ้างอิงจาก Fries: 1984) โครงสร้างไวยากรณ์และคำศัพท์องค์ประกอบทั้ง 3 อย่างนี้ คือสามารถใช้สื่อสารความหมายได้ สตีวิค (Stewick 1972:. 2) ได้เรียนรู้ในระบบเสียงคือ ๆ ได้3 (Ghadessy 1979:. 24) ให้ความเห็นว่า เช่นวลีประโยค วรรณพรศิลาขาว (2538: 18) ที่ให้ความเห็นว่าคำศัพท์เป็นหน่วยพื้นฐานทางภาษา พูดอ่านและเขียนภาษาสรุปได้ว่าได้คำศัพท์เป็นหน่วยพื้นฐานทางภาษา ทักษะฟังพูดอ่านและเขียนภาษา ๆ ว่าประกอบด้วยอะไรบ้าง (ธนสิทธิ์ศรีรัตน์ 2543: 11; อ้างอิงจากอุทัยภิรมย์รื่นและเพ็ญศรีรังติกุล 2526:.. 58) รูปคำ (แบบ) ได้แก่ ตัวอักษร (ตัวใหญ่หรือตัวเล็ก) การได้ยินการรู้จักคำและจำจังหวะของเสียงในประโยค2 ความหมาย (ความหมาย) ได้แก่ ความหมายของคำนั้น ๆ ซึ่งหากจะกล่าวโดยละเอียดแล้วคำศัพท์หนึ่ง ๆ จะมีความหมายแฝงอยู่ถึง 4 นัยด้วยกันคือ2.1 ความหมายตามพจนานุกรม (ความหมายของคำศัพท์) ได้แก่ ความหมายตามพจนานุกรมสำหรับ ภาษาอังกฤษคำหนึ่ง ๆ มีความหมายหลายอย่าง "สำนวน" ของภาษาเช่นเขาเดินไปที่บ้านของเขา (บ้านเป็นที่อยู่อาศัย) กรรมการผู้จัดการใหญ่อาศัยอยู่ในทำเนียบขาว (บ้านประจำตำแหน่งประธานาธิบดี) สภาผู้แทนราษฎรคือการประชุมในวันนี้ (สภา) 2.2 ความหมายทางไวยากรณ์ (ทางสัณฐานวิทยา ๆ จะเดาความหมายได้ยากเช่น "s" เมื่อไปต่อท้ายคำนามหมวก, ปากกาจะแสดงความหมายเป็นพหูพจน์หรือเมื่อนำไปต่อท้ายคำกริยาเช่นเดินในประโยคเธอเดินกลับบ้าน. ก็จะหมายความว่าการกระทำนั้นทำ อยู่เป็นประจำเป็นต้น2.3 ความหมายจากการเรียงคำ (วากยสัมพันธ์ความหมาย) ได้แก่ เช่นเรือหมายถึงอู่เรือแตกต่างจากเรือบ้านหมายถึงเรือที่ทำเป็นบ้าน2.4 ความหมายตามเสียงขึ้นลง (Intonational ความหมาย) ได้แก่ เช่นไฟกับไฟ เป็นเชิงไม่แน่ใจจากผู้ฟัง3. ขอบเขตของการใช้คำ (กระจาย) จำแนกออกเป็น3.1 ขอบเขตทางด้านไวยากรณ์เช่นภาษาอังกฤษในการเรียงลำดับคำ (คำสั่ง) ดังประโยคต่อไปนี้คนที่กล้าหาญ. (คำนาม) แปลว่าคนผู้ชายคนเรือพวกเขา (คำกริยา) แปลว่าบังคับเราจำเป็นที่มนุษย์มีพลังอำนาจมาก. (คำคุณศัพท์) แปลว่ากำลังคน3.2 แต่คำบางคำก็ใช้ภาษาเขียนโดยเฉพาะ3.3 องค์ประกอบของคำศัพท์ภาษาอังกฤษมี 3 ประการคือรูปคำความหมายและขอบเขตของการใช้คำในด้านของความหมาย ยังมีความหมายทางไวยากรณ์ความหมายของการเรียงคำ






































































การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
บทที่ 2
เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง

ในการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ผู้วิจัยศึกษาค้นคว้าเอกสารงานวิจัยและทฤษฎีที่เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้
1 1.1 ความหมายของคำศัพท์เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการสอนคำศัพท์

12 ความสำคัญของคำศัพท์องค์ประกอบของคำศัพท์ภาษาอังกฤษ

1.3 1.4 1.5 1.6 วิธีการสอนคำศัพท์ภาษาอังกฤษหลักการเลือกคำศัพท์ภาษาอังกฤษเพื่อนำมาสอนประเภทของคำศัพท์ภาษาอังกฤษ



2
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: