ดร. ชาญชัย สิริเกษมเลิศ ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมเทคโนโลยี สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ
พูดถึงวิธีการเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ของไทย
ประการแรก ได้แก่ ความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่ง ณ วันนี้เป็นเรื่องที่ขายได้ ทำอย่างไรให้ผ้าเราเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไม่เลือกเส้นใยโพลีเอสเตอร์เพราะเป็นพลาสติก เราอาจเลือกเส้นใยธรรมชาติ ซึ่งเรามีไหม ฝ้าย นอกจากนี้ที่สถาบันพยายามผลักดันในเรื่องเส้นใยธรรมชาติอื่นๆ เรามีการวิจัยเรื่อง เส้นใยสัปปะรด เส้นใยกรรชง เส้นใยปาล์ม เส้นใยบัวหลวง เพราะเมืองไทยเป็นเมืองเกษตรกรรม เรามีเส้นใย ธรรมชาติอยู่เยอะ เราพยายามดึงมาใส่ลงไปในผ้า ซึ่งจะให้อัตลักษณ์ของความเป็นไทย ความเป็นธรรมชาติ ในเรื่องของเทคโนโลยีการผลิต ก็พยายามเลี่ยงสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ เช่น สารก่อมะเร็ง ยาฆ่าแมลงที่มากับฝ้าย หรือโลหะหนักที่มากับการย้อมต่างๆ เราต้องเลิกใช้ให้หมด แสดงให้เห็นว่าสินค้าที่มาจากไทยมีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมจริงๆ ทุกขั้นตอน
ประการที่สอง ได้แก่ ความสร้างสรรค์ที่สอดคล้องกับตลาดสากล สังคมไทยเป็นสังคมครีเอทีฟเรามีศิลปิน มีนักออกแบบมากมาย เพียงแต่นักครีเอทีฟของเราจะต้องเข้าใจด้วยว่า ความต้องการของตลาดเป็นอย่างไร ตลาดอยากได้ประมาณไหน การสร้างสรรค์จะต้องมีความพอดี ไม่ใช้ทำได้ชิ้นเดียว หรือทำได้ไม่กี่ชิ้น แล้วผลิตไม่ได้อีก ทำแล้วจะต้องสามารถทำได้เยอะ แล้วก็สามารถทำซ้ำ ใส่ความคิดสร้างสรรค์เข้าไปในการออกแบบ การเลือกใช้วัสดุ การให้สี เป็นต้น
ประการที่สามเป็นเรื่องของนวัตกรรม การใช้วัสดุใหม่ๆ การใช้เทคโนโลยีต่างๆ กระทรวงวิทยาศาสตร์มีการพัฒนาสิ่งใหม่ๆ ออกมาเรื่อย เช่น สารนาโน การย้อมโดยไม่ใช้น้ำ ทั้งสามอย่างนี้จะทำให้ผ้าไทยแตกต่างและหลากหลาย