Known as the temple of the bodhi tr

Known as the temple of the bodhi tree, Wat Si Chum was built in circa 13th Buddhist century. The highlight is the graceful Buddha sculpture enshrined inside the remaining structure of the square mandala building. Located 1,500 meters from the north of the WatMahathat, Wat Si Chum is surrounded with the long moat acting like a boundary. Parts of the temple were ruined through the test of time but the remaining structures, including the ordination hall and pagodas, can be archaeological evidences that portray the heydays of Sukhothai when it was a great kingdom.


Wat Si Chum, located north of the old city walls not far from Wat Phra Phai Luang, might well be the most enigmatic of Sukhothai's temples. The "temple of the bodhi tree" was built in the late 13th century, and while it doesn't seem to get that many visitors, it must be one of the most photographed.
The most striking feature of the temple is the large solid building (mondop) at the rear of what remains of the main prayer hall. A single narrow slit, almost the full height of the mondop, is all that pierces the structure. Through this narrow entrance, you glimpse the serene face of a single large seated Buddha image that almost completely fills the space enclosed by the building. The mondop once had a roof, but it is now gone, so the interior space is open to the sky. The walls of the mondop are much thicker than they need to be. This is because there is a narrow, cramped passageway between the outer and inner walls. The corridor was lined with depictions of the life of Buddha (the Jataka), and allowed devotees to climb up and around the image. Small openings in the inner wall allowed people to get a small glimpse of just one part of the image. The Ramkamhaeng National Museum is attempting to replicate this experience in the museum.
The Buddha image is itself quite striking, and not just for its setting. The image is known as Phra Acana, which means 'one who is not frightened' or 'unperturbed'. The fingers of his right hand, which is extended down to summon the Earth Goddess, are long and delicate. They have been, of course, covered in bits of gold leaf by contemporary Thais. According to legend, a Burmese army invading Sukhothai fled at the sight of this image.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เรียกว่าวัดโพธิ วัดศรีชุมสร้างในเซอร์กาพุทธศตวรรษที่ 13 จุดเด่นคือ ประติมากรรมพระสง่าประดิษฐานอยู่ภายในโครงสร้างที่เหลือของอาคารระดับตาราง วัดศรีชุม 1500 เมตรเหนือของ WatMahathat ที่อยู่ ถูกล้อมรอบ ด้วยคูยาวทำหน้าที่เป็นขอบเขต ส่วนของวัดได้เจ๊งผ่านการทดสอบของเวลา แต่โครงสร้างเหลือ รวมทั้งอุโบสถและเจดีย์ มีหลักฐานทางโบราณคดีที่วาดภาพ heydays ของสุโขทัยเมื่อราชอาณาจักรดีวัดศรีชุม จังหวัดเมืองผนังไม่ไกลจากวัดพระพายหลวง อาจดีสุดลึกลับของสุโขทัยวัดได้ "วัดโพธิ" ถูกสร้างขึ้นในปลายศตวรรษที่ 13 และในขณะนั้นดูเหมือนจะไม่รับนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่ ต้องเป็นหนึ่งในการถ่ายภาพมากที่สุดคุณลักษณะโดดเด่นที่สุดของวัดมีขนาดใหญ่แข็งอาคาร (mondop) ที่ด้านหลังของส่วนศาลาละหมาดหลัก ร่องแคบตัวเดียว เกือบเต็มความสูงของ mondop เป็นที่ช่องโครงสร้าง ผ่านทางแคบ คุณ glimpse หน้าอันเงียบสงบของเดียวใหญ่นั่งปางที่เกือบทั้งพื้นที่ที่ล้อมรอบ ด้วยอาคาร Mondop ที่มีหลังคาครั้ง แต่เป็นไปแล้ว จึงเปิดท้องฟ้าภายใน ผนังของ mondop จะหนาขึ้นมากเกินกว่าที่พวกเขาจำเป็นต้อง ทั้งนี้เนื่องจากมีระเบียงแคบ แคบระหว่างผนังภายนอก และภายใน ทางเดินเต็มไป ด้วยการแสดงของพระพุทธเจ้า (ชาดก), และได้เลือกสรรค์ไต่ขึ้น และ รอบรูป ช่องเล็ก ๆ ที่ผนังภายในคนเพื่อลอบเล็ก ๆ ส่วนหนึ่งของภาพได้ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติรามคำแหงพยายามจำลองประสบการณ์นี้ในพิพิธภัณฑ์พระพุทธรูปเป็นตัวเองค่อนข้างโดด เด่น และไม่เพียงแต่ สำหรับการตั้งค่า รูปเรียกว่าพระ Acana ซึ่งหมายความว่า "ใครไม่กลัว' หรือ 'หมายทันที' นิ้วมือของมือขวา ซึ่งจะขยายลงไปเรียกเจ้าแผ่นดิน จะยาว และละเอียดอ่อน พวกเขาได้รับ แน่นอน ครอบคลุมในบิตของทองคำเปลวคนไทยร่วมสมัย ตำนาน หนีทหารพม่าที่บุกรุกสุโขทัยที่เห็นภาพนี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ที่รู้จักกันเป็นวัดของต้นโพธิ์, วัดศรีชุมถูกสร้างขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ 13 จุดเด่นอยู่ที่รูปปั้นพระพุทธรูปที่สง่างามประดิษฐานอยู่ภายในโครงสร้างที่เหลือของอาคารจักรวาลตาราง ตั้งอยู่ 1,500 เมตรจากทางตอนเหนือของ WatMahathat, วัดศรีชุมถูกล้อมรอบด้วยคูน้ำยาวทำตัวเหมือนเขตแดน อะไหล่ของวัดถูกทำลายผ่านการทดสอบของเวลา แต่โครงสร้างที่เหลือรวมทั้งอุโบสถและเจดีย์สามารถหลักฐานทางโบราณคดีที่แสดงให้เห็น heydays สุโขทัยเมื่อมันเป็นอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่. วัดศรีชุมตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองเก่า ผนังไม่ไกลจากวัดพระพายหลวงดีอาจจะลึกลับมากที่สุดของวัดสุโขทัย "วัดของต้นโพธิ์" ที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 13 และในขณะที่มันไม่ได้ดูเหมือนจะได้รับที่ผู้เข้าชมจำนวนมากก็ต้องเป็นหนึ่งในถ่ายภาพมากที่สุด. คุณลักษณะที่โดดเด่นที่สุดของวัดเป็นอาคารขนาดใหญ่ที่เป็นของแข็ง (มณฑป) ที่ด้านหลังของสิ่งที่เหลืออยู่ของห้องโถงละหมาดหลัก ร่องแคบเดียวเกือบเต็มความสูงของมณฑป, เป็นสิ่งที่แทงทะลุโครงสร้าง ผ่านทางเข้าแคบ ๆ นี้คุณเหลือบใบหน้าอันเงียบสงบของพระพุทธรูปขนาดใหญ่นั่งเดียวที่เกือบสมบูรณ์เติมพื้นที่ล้อมรอบด้วยอาคาร มณฑปเคยมีหลังคา แต่มันก็หายไปในขณะนี้ดังนั้นภายในพื้นที่จะเปิดให้ท้องฟ้า ผนังของมณฑปที่มีมากหนากว่าพวกเขาจะต้อง นี้เป็นเพราะมีแคบ ๆ ทางเดินแคบระหว่างผนังด้านนอกและด้านใน ทางเดินที่ถูกเรียงรายไปด้วยวิถีชีวิตของพระพุทธเจ้า (ชาดก) และได้รับอนุญาตที่ชื่นชอบที่จะปีนขึ้นไปและรอบ ๆ ภาพ ช่องเปิดขนาดเล็กในผนังด้านในได้รับอนุญาตให้คนที่จะได้รับเหลือบเล็ก ๆ ของเพียงส่วนหนึ่งของภาพ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติรามคำแหงเป็นความพยายามที่จะทำซ้ำประสบการณ์ในพิพิธภัณฑ์นี้. พระพุทธรูปเป็นตัวเองที่โดดเด่นมากและไม่เพียง แต่สำหรับการตั้งค่า ภาพเป็นที่รู้จักกันเป็นพระ Acana ซึ่งหมายถึง 'คนที่ไม่กลัว' หรือ 'ใจเย็น ๆ ' นิ้วมือข้างขวาของเขาซึ่งจะขยายลงไปเรียกเทพธิดาโลกมีความยาวและละเอียดอ่อน พวกเขาได้รับของหลักสูตรครอบคลุมในบิตของทองโดยคนไทยร่วมสมัย ตามตำนานกองทัพพม่าบุกเข้าสุโขทัยหนีที่เห็นภาพนี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เรียกว่า วัดต้นโพธิ์ วัดศรีชุม สร้างขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ 13 . จุดเด่น คือ พระพุทธรูปที่ประดิษฐานอยู่ภายในสง่างามเหลือโครงสร้างของอาคารภายนอกตาราง อยู่ 1 , 500 เมตร จากทิศเหนือของ watmahathat วัดศรีชุม ล้อมรอบด้วยคูน้ำยาวเหมือนขอบเขตส่วนของพระวิหารถูกทำลาย ผ่าน การทดสอบของเวลา แต่โครงสร้างที่เหลือ ได้แก่ พระอุโบสถวัดพระแก้ว และเจดีย์ ได้หลักฐานทางโบราณคดีที่แสดงให้เห็น heydays สุโขทัยเมื่อมันเป็นอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่


วัดศรีชุม ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของกำแพงเมืองเก่า ห่างจากวัดพระพายหลวง อาจดี เป็นปริศนามากที่สุดของสุโขทัยเป็นวัด" วัดโพธิของต้นไม้ " ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13 สาย และในขณะที่มันไม่ได้ดูเหมือนจะได้รับผู้เข้าชมมาก มันต้องเป็นคนถ่ายภาพมากที่สุด .
คุณสมบัติที่โดดเด่นที่สุดของวิหารเป็นอาคารขนาดใหญ่ที่เป็นของแข็ง ( มณฑป ) ที่ด้านหลังของสิ่งที่ยังคงอยู่ของห้องโถงสวดมนต์หลัก . เดียวกรีดแคบๆ เกือบเต็มความสูงของมณฑป คือทั้งหมดที่เจาะโครงสร้างผ่านทางเข้าแคบ เธอเหลือบมองใบหน้าที่เงียบสงบของเดี่ยวขนาดใหญ่พระพุทธรูปที่เกือบสมบูรณ์เต็มพื้นที่ล้อมรอบด้วยอาคาร ที่มณฑปมีหลังคา แต่มันตายไปแล้ว ดังนั้น พื้นที่ภายในจะเปิดให้ท้องฟ้า ผนังของมณฑปมีมากหนากว่าพวกเขาต้องการ นี้เป็นเพราะมีพื้นที่แคบทางผ่านที่แคบระหว่างภายนอกและผนังภายใน ทางเดินที่เรียงรายด้วยวิถีพุทธ ( ชาดก ) , และอนุญาตให้ผู้ที่จะปีนรอบภาพ ช่องว่างเล็ก ๆในผนังด้านในให้คนได้รับเหลือบเล็ก ๆของเพียงส่วนหนึ่งของภาพ ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติรามคําแหง พยายามที่จะทำซ้ำประสบการณ์นี้ในพิพิธภัณฑ์
พระพุทธรูป เป็น ตัว โดดเด่นมาก และไม่เพียงสำหรับการตั้งค่า ภาพที่เป็นที่รู้จักกันเป็นพระ acana ซึ่งหมายถึง ' คนที่ไม่กลัว ' หรือ ' เพื่อสะดวก ' นิ้วของมือข้างขวาของเขา ซึ่งจะขยายลงเรียกเทพธิดาโลก ยาวนาน และละเอียดอ่อน พวกเขาได้รับ แน่นอน เต็มไปด้วยเศษทองคำเปลว โดยคนไทยร่วมสมัย ตามตำนานกองทัพพม่าบุกสุโขทัยหนีเมื่อเห็นภาพนี้