Four categories of the cost informa

Four categories of the cost information including material costs,
system cost (labor, depreciation etc.), energy cost and waste
treatment cost can be compiled as the quantity data based on
material flow. The MFCA results allocate product costs into 2 types:
“positive product cost” and “negative product cost”. “Positive
product costs” are the costs put into process products (positive
products) released to the next process. “Negative product costs” or
“loss costs” are costs put into wasted or recycled items (negative
products). Material loss cost can be simply calculated by multiplying
individual quantities (kg) of waste by their material purchased
unit price, or by using raw material cost multiplies by
percent of material loss by weight. Energy or system loss cost can
be calculated by using mass allocation method: cost of energy input
multiplied by percent of material loss by weight in each subprocess
(out of material input in each sub-process) (METI, 2007).
MFCA considers the main material flows in all processes as well
as sub materials, except auxiliary, materials. Main materials, sub
materials and auxiliary materials are defined as follows

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สี่ประเภทของข้อมูลต้นทุนรวมต้นทุนวัตถุดิบพลังงานระบบต้นทุน (แรงงาน ค่าเสื่อมราคาฯลฯ), ต้นทุน และเสียต้นทุนการรักษาสามารถรวบรวมเป็นข้อมูลปริมาณตามกระแสของวัสดุ ผล MFCA การปันส่วนต้นทุนสินค้าเป็น 2 ประเภท:"ค่าบวกต้นทุนของสินค้า" และ "ลบต้นทุนผลิตภัณฑ์" "ค่าบวกต้นทุนผลิตภัณฑ์"คือ ต้นทุนที่ใส่เข้าไปในผลิตภัณฑ์กระบวนการ (ค่าบวกผลิตภัณฑ์) ออกไปยังกระบวนการถัดไป "ลบต้นทุนผลิตภัณฑ์" หรือ"ต้นทุนสูญเสีย" เป็นต้นทุนที่วางเป็นสินค้าสิ้นเปลือง หรือรีไซเคิล (ลบผลิตภัณฑ์) ต้นทุนสูญเสียวัสดุสามารถเพียงคำนวณ โดยการคูณแต่ละปริมาณ (กิโลกรัม) ของเสียโดยการซื้อวัสดุราคาต่อหน่วย หรือ โดยใช้วัตถุดิบ ต้นทุนคูณด้วยเปอร์เซ็นต์การสูญเสียวัตถุดิบโดยน้ำหนัก ต้นทุนการสูญเสียพลังงานหรือระบบสามารถคำนวณ โดยใช้วิธีการปันส่วนโดยรวม: ต้นทุนค่านำเข้าพลังงานคูณ ด้วยน้ำหนักแต่ละ subprocess เปอร์เซ็นต์การสูญเสียวัสดุ(ออกมาป้อนวัสดุในแต่ละกระบวนการย่อย) (METI, 2007)MFCA พิจารณาขั้นตอนวัตถุดิบหลักในกระบวนการทั้งหมดเช่นเป็นวัสดุย่อย ยกเว้นวัสดุเสริม วัสดุหลัก ย่อยวัสดุและวัสดุเสริมไว้ดังนี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สี่ประเภทของข้อมูลค่าใช้จ่ายรวมทั้งต้นทุนวัตถุดิบ,
ค่าใช้จ่ายในระบบ (แรงงานค่าเสื่อมราคา ฯลฯ ), ค่าใช้จ่ายด้านพลังงานและเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาที่สามารถรวบรวมเป็นข้อมูลปริมาณขึ้นอยู่กับการไหลของวัสดุ ผลการจัดสรรค่าใช้จ่าย MFCA สินค้าเป็น 2 ประเภทคือ"ต้นทุนการผลิตบวก" และ "ต้นทุนการผลิตเชิงลบ" "บวกค่าใช้จ่ายสินค้า" เป็นค่าใช้จ่ายที่ใส่ลงไปในผลิตภัณฑ์กระบวนการ (บวกสินค้า) ปล่อยให้กระบวนการต่อไป "ค่าใช้จ่ายในสินค้า Negative" หรือ"การสูญเสียค่าใช้จ่าย" ค่าใช้จ่ายใส่ลงไปในรายการที่สูญเสียไปหรือกลับมาใช้ใหม่ (ลบสินค้า) ค่าใช้จ่ายในการสูญเสียวัสดุสามารถคำนวณได้โดยเพียงแค่คูณปริมาณของแต่ละบุคคล (กิโลกรัม) ของเสียจากซื้อวัสดุของพวกเขาราคาต่อหน่วยหรือโดยการใช้คูณต้นทุนวัตถุดิบโดยร้อยละของการสูญเสียวัสดุน้ำหนัก พลังงานหรือระบบค่าใช้จ่ายในการสูญเสียสามารถนำมาคำนวณโดยใช้วิธีการจัดสรรมวล: ค่าใช้จ่ายของพลังงานคูณด้วยร้อยละของการสูญเสียวัสดุโดยน้ำหนักในแต่ละกระบวนการย่อย(จากการป้อนข้อมูลที่สำคัญในแต่ละขั้นตอนย่อย) (METI 2007). MFCA พิจารณาหลัก กระแสวัสดุในกระบวนการทั้งหมดรวมทั้งเป็นวัสดุย่อยยกเว้นเสริมวัสดุ วัสดุหลักย่อยวัสดุและวัสดุเสริมที่กำหนดไว้ดังต่อไปนี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สี่ประเภทของค่าใช้จ่ายข้อมูลรวมถึงต้นทุนวัตถุดิบ , ต้นทุน
ระบบ ( แรงงาน ค่าเสื่อมราคา ฯลฯ ) , ค่าใช้จ่ายพลังงานและของเสีย
ค่าใช้จ่ายการรักษาสามารถรวบรวมเป็นปริมาณข้อมูลตาม
การไหลของวัสดุ ผลการ mfca จัดสรรต้นทุนของผลิตภัณฑ์ออกเป็น 2 ประเภท :
" ต้นทุนสินค้าบวก " และ " ลบสินค้าต้นทุน " " ต้นทุนสินค้าบวก
" มีต้นทุนที่ใส่เข้าไปในกระบวนการผลิต ( บวก
ผลิตภัณฑ์ ) ออกสู่กระบวนการต่อไป ลบ " ต้นทุนสินค้า " หรือ " ลดต้นทุน " คือค่าใช้จ่าย
ใส่เข้าไปทำลายหรือรีไซเคิลสินค้า ( ผลิตภัณฑ์ลบ
) ต้นทุนการสูญเสียวัสดุก็คำนวณโดยคูณ
ปริมาณบุคคล ( กก. ) ของเสีย โดยวัสดุของพวกเขาซื้อ
ราคาต่อหน่วย หรือ โดยใช้ต้นทุนวัตถุดิบคูณ
เปอร์เซ็นต์ของวัสดุการสูญเสียน้ำหนัก การสูญเสียพลังงานหรือระบบต้นทุนสามารถ
ถูกคำนวณโดยใช้วิธีจัดสรรมวล : ค่าใช้จ่ายพลังงานใส่
คูณด้วยร้อยละของการสูญเสียวัสดุโดยน้ำหนักในแต่ละ subprocess
( ออกจากวัสดุที่ใส่ในแต่ละกระบวนการย่อย ( ญี่ปุ่น ) , 2550 ) .
mfca พิจารณาวัตถุดิบหลักไหลในกระบวนการทั้งหมดเช่นกัน
เป็นวัสดุย่อย ยกเว้นสอื่น ๆวัสดุ วัสดุอุปกรณ์หลัก วัสดุและวัสดุเสริมย่อย

ไว้ดังนี้