On December 15, investors started a

On December 15, investors started a massive sell-off of Russia's currency, the ruble. This accelerated depreciation of the ruble, which had been ongoing for several months. In order to stem its further depreciation, the Bank of Russia (Russia's central bank) announced its biggest interest rate hike since 1998, raising a key interest rate from 10.5% to 17%, at an emergency meeting on December 16. Despite this measure, the ruble sharply depreciated throughout the day, falling from 58 rubles per dollar to 80, before rising again to 70. The central bank is currently intervening in foreign exchange markets (meaning it is selling foreign currencies and purchasing rubles) to support the value of the ruble.

The proximate cause of the sell-off was likely a deal announced between Russia's central bank and Rosneft, a major state-controlled oil company, to help cover the company's debts. Many investors viewed the nearly $11 billion deal as potentially inflationary and, given the favorable terms of the deal and the close ties between Rosneft and the Kremlin, a signal that the central bank may not be immune to political pressures.

Depreciation of the ruble will likely exacerbate inflation in Russia. Consumers in Russia are rushing to purchase durable goods, like cars, which are now viewed as more reliable stores of value than the ruble. A weakening of the ruble also raises the value of foreign-currency debt in terms of rubles. The Russian government has relatively little debt, but some Russian corporations are more indebted. High interest rates will likely have severe adverse consequences for Russia's growth prospects.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บน 15 ธันวาคม นักลงทุนเริ่มต้นขนาดใหญ่ขายเศษของสกุลเงินรัสเซีย เบิลเบลารุส ค่าเสื่อมราคานี้เร่งของเบิลเบลารุส ที่ได้รับอย่างต่อเนื่องหลายเดือน เพื่อให้เกิดความเสื่อมต่อไป การธนาคารของรัสเซีย (ธนาคารกลางรัสเซีย) ประกาศยกขึ้นของอัตราดอกเบี้ยที่ใหญ่ที่สุดตั้งแต่ปี 1998 เพิ่มอัตราดอกเบี้ยคีย์จาก 10.5% เป็น 17% ในการประชุมฉุกเฉินในวันที่ 16 ธันวาคม แม้วัดนี้ เบิลเบลารุสอย่างรวดเร็วคิดค่าเสื่อมราคาตลอดทั้งวัน ลงจาก 58 rubles ต่อดอลลาร์ 80 ก่อนไรซิ่งอีกครั้งเพื่อ 70 ธนาคารกลางมีอยู่ในขณะนี้อยู่ระหว่างกลางในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตรา (หมายความว่า มันจะขายสกุลเงินต่างประเทศ และซื้อ rubles) สนับสนุนค่าเบิลเบลารุสการจัดการอาจมีประกาศสาเหตุเคียงของขายปิดระหว่างธนาคารกลางรัสเซียและ Rosneft บริษัทน้ำมันที่รัฐควบคุมหลัก การช่วยเหลือครอบคลุมหนี้สินของบริษัท นักลงทุนจำนวนมากดูเกือบ $11 ล้านข้อตกลงที่ เป็นเงินเฟ้ออาจ และ ข้อดีของการจัดการและความสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่าง Rosneft และเครมลิน สัญญาณว่า ธนาคารกลางอาจไม่สร้างแรงกดดันทางการเมืองค่าเสื่อมราคาของเบิลเบลารุสจะมีแนวโน้มทำให้รุนแรงอัตราเงินเฟ้อในรัสเซีย ผู้บริโภคในรัสเซียกำลังวิ่งไปซื้อสินค้าคงทน เช่นรถยนต์ ที่ตอนนี้ดูเป็นร้านค้าที่เชื่อถือได้มากค่ากว่าเบิลเบลารุส ยังเป็นการลดลงของเบิลเบลารุสเพิ่มมูลค่าของหนี้สกุลเงินต่างประเทศใน rubles รัฐบาลรัสเซียมีค่อนข้างน้อยหนี้ แต่บางบริษัทรัสเซียมีมากกว่าใคร อัตราดอกเบี้ยสูงจะมีผลร้ายอย่างรุนแรงสำหรับแนวโน้มการเติบโตของรัสเซีย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ที่ 15 ธันวาคมนักลงทุนเริ่มต้นขนาดใหญ่ขายออกของสกุลเงินของรัสเซียรูเบิล นี้ค่าเสื่อมราคาเร่งของเงินรูเบิลซึ่งได้รับอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายเดือน เพื่อที่จะออกมาต้นทุนค่าเสื่อมราคาของธนาคารแห่งรัสเซีย (ธนาคารกลางของรัสเซีย) ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของที่ใหญ่ที่สุดตั้งแต่ปี 1998 การเพิ่มอัตราดอกเบี้ยที่สำคัญจาก 10.5% เป็น 17% ในการประชุมฉุกเฉินในวันที่ 16 ธันวาคมแม้จะมีการวัดนี้ เงินรูเบิลอ่อนค่าลงอย่างรวดเร็วตลอดทั้งวันลดลงจาก 58 รูเบิลต่อดอลลาร์ถึง 80 ก่อนที่จะปรับตัวสูงขึ้นอีกครั้งเพื่อ 70. ธนาคารกลางในปัจจุบันคือการแทรกแซงในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (หมายถึงมันจะขายเงินตราต่างประเทศและการจัดซื้อรูเบิล) เพื่อสนับสนุนค่าของ เงินรูเบิล. สาเหตุใกล้เคียงของขายออกก็น่าจะเป็นข้อตกลงที่ประกาศระหว่างธนาคารกลางของรัสเซียและ Rosneft ซึ่งเป็น บริษัท น้ำมันของรัฐที่มีการควบคุมที่สำคัญที่จะช่วยให้ครอบคลุมหนี้ของ บริษัท ฯ นักลงทุนจำนวนมากเข้าชมเกือบ $ 11000000000 ข้อตกลงอาจเป็นเงินเฟ้อและให้เงื่อนไขที่ดีของการจัดการและความสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่าง Rosneft และเครมลินสัญญาณว่าธนาคารกลางอาจจะไม่เป็นภูมิคุ้มกันต่อแรงกดดันทางการเมือง. ค่าเสื่อมราคาของเงินรูเบิลมีแนวโน้มที่จะ อัตราเงินเฟ้อรุนแรงในรัสเซีย ผู้บริโภคในรัสเซียกำลังวิ่งที่จะซื้อสินค้าคงทนเช่นรถยนต์ซึ่งถูกมองในขณะนี้เป็นร้านค้าที่น่าเชื่อถือมากขึ้นของค่าเงินรูเบิลกว่า การลดลงของเงินรูเบิลยังเพิ่มมูลค่าของหนี้ต่างประเทศสกุลเงินในแง่ของรูเบิล รัฐบาลรัสเซียมีหนี้ค่อนข้างน้อย แต่บาง บริษัท ที่รัสเซียเป็นหนี้มากขึ้น อัตราดอกเบี้ยสูงมีแนวโน้มที่จะมีผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์อย่างรุนแรงสำหรับรัสเซียแนวโน้มการเติบโต

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในวันที่ 15 ธันวาคม นักลงทุนเริ่มขายออกขนาดใหญ่ของสกุลเงินรูเบิลของรัสเซีย . นี้เร่งค่าเสื่อมราคาของเงินรูเบิล ซึ่งได้รับอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายเดือน เพื่อก้านเสื่อมของมันต่อไป ธนาคารของรัสเซีย ( ธนาคารกลางรัสเซียประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ใหญ่ที่สุดตั้งแต่ปี 1998 การเพิ่มอัตราดอกเบี้ยที่สำคัญจาก 10.5% ถึง 17 % ในการประชุมฉุกเฉินเมื่อวันที่ 16 ธันวาคมแม้มาตรการนี้ เงินรูเบิลอย่างรวดเร็วขึ้นตลอดทั้งวัน ตกจาก 58 รูเบิล / ดอลลาร์ ถึง 80 ก่อนที่จะเพิ่มขึ้นอีก 70 ธนาคารกลางกำลังแทรกแซงตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ( ความหมายมันคือการขายเงินตราต่างประเทศและจัดซื้อรูเบิล ) เพื่อสนับสนุนค่าของเงินรูเบิล .

สาเหตุใกล้ชิดของ off น่าจะจัดการประกาศระหว่างรัสเซียและธนาคารกลาง Rosneft , บริษัท น้ำมัน รัฐใหญ่ ที่จะช่วยให้ครอบคลุมหนี้สินของบริษัท นักลงทุนหลายคนมองว่าเกือบ $ 11 พันล้านจัดการอาจเฟ้อและได้รับมงคล เงื่อนไข ข้อตกลง และความสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่าง Rosneft และเครมลินเป็นสัญญาณว่า ธนาคารกลางอาจจะไม่ได้เป็นภูมิคุ้มกันต่อแรงกดดันทางการเมือง

ค่าเสื่อมราคาของเงินรูเบิลอาจจะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อในประเทศรัสเซีย ผู้บริโภคในรัสเซียจะรีบซื้อสินค้าคงทน เช่น รถยนต์ ซึ่งขณะนี้ดูน่าเชื่อถือมากขึ้น ร้านค้าของมูลค่ามากกว่าเงินรูเบิล การลดลงของเงินรูเบิลยังเพิ่มมูลค่าของหนี้สกุลเงินต่างประเทศในแง่ของรูเบิลรัฐบาลรัสเซียมีหนี้ค่อนข้างน้อย แต่บาง บริษัท รัสเซียจะเป็นหนี้มากขึ้น อัตราดอกเบี้ยสูงอาจจะมีผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์ที่รุนแรงของรัสเซีย การเติบโตในอนาคต .