Europeans introduced a large number

Europeans introduced a large number of other foods, the most important of which were meats from domesticated animals (beef, pork, chicken, goat, and sheep), dairy products (especially cheese), and various herbs and spices.
While the Spanish initially tried to impose their own diet on the country, this was not possible and eventually the foods and cookingtechniques began to be mixed, especially in colonial era convents. African and Asian influences were also introduced into the mixture during this era as a result of African slavery in New Spain and the Manila-Acapulco Galleons.[1]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ชาวยุโรปนำมาใช้เป็นจำนวนมากของอาหารอื่น ๆ สำคัญสุดซึ่งเนื้อจากสัตว์เลี้ยง (วัว หมู ไก่ แพะ และแกะ), ผลิตภัณฑ์จากนม (โดยเฉพาะชี), สมุนไพรต่าง ๆ และเครื่องเทศในขณะที่สเปนในตอนแรกพยายามกำหนดอาหารของพวกเขาเองในประเทศ ไป และในที่สุดอาหารและ cookingtechniques เริ่มผสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคอาณานิคม convents อิทธิพลของเอเชียและแอฟริกาได้แนะนำเป็นส่วนผสมในระหว่างยุคนี้เป็นผลมาจากทาสแอฟริกันในสเปนใหม่และ Galleons จึง [1]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ยุโรปนำมาใช้เป็นจำนวนมากของอาหารอื่น ๆ ที่สำคัญซึ่งส่วนใหญ่เป็นเนื้อจากสัตว์ (เนื้อวัว, เนื้อหมู, ไก่แพะและแกะ), ผลิตภัณฑ์นม (โดยเฉพาะชีส) และสมุนไพรต่างๆและเครื่องเทศ.
ในขณะที่สเปนพยายามครั้งแรก ที่จะกำหนดอาหารของตัวเองในประเทศนี้เป็นไปไม่ได้และในที่สุดอาหารและ cookingtechniques เริ่มที่จะนำมาผสมโดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคอาณานิคมคอนแวนต์ อิทธิพลของแอฟริกาและเอเชียนอกจากนี้ยังได้นำเข้าสู่การผสมในยุคนี้เป็นผลมาจากการเป็นทาสแอฟริกันใหม่ในสเปนและมะนิลา-Acapulco เกลเลียน. [1]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ยุโรปเปิดตัวจำนวนมากของอาหารอื่น ๆที่สำคัญที่สุดซึ่งเป็นเนื้อจากสัตว์ ( เนื้อ , หมู , ไก่ , แพะ , แกะ ) , ผลิตภัณฑ์นม ( โดยเฉพาะชีสและสมุนไพรและเครื่องเทศขณะที่ สเปน เริ่มพยายามที่จะกําหนดอาหารของตัวเองในประเทศนี้ไม่ได้ และในที่สุด อาหารและ cookingtechniques เริ่มผสมอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคอนแวนต์ในยุคอาณานิคม อิทธิพลในแอฟริกาและเอเชีย ยังใช้เป็นส่วนผสมในยุคสมัยนี้เป็นผลของแอฟริกาทาสในประเทศสเปนและมะนิลา [ 1 ] ที่เกลเลียน