The OHS knowledge, attitude and beh

The OHS knowledge, attitude and behavior scores of the
informal sector workers were increased because the workers
were exposed to the capacity building component of the
participatory process. The capacity building process enabled
the workers to recognize risks associated with their occupation
and therefore implement safety measures by using PPE and
by learning about safety improvement concepts. During the
participatory learning activities that were presented in this
study, the informal-sector workers engaged in the group
discussions and identified the OHS problems in their own
sector. They subsequently attempted and accurately
understood work related safety issues, and collectively
proposed and implemented safety measures. .
Our findings suggest that positive attitudes toward
promoting safe working conditions and practices can be
fostered among the informal-sector workers by raising their
knowledge and skills regarding issues related to OHS through
a capacity building process-the first step of the participatory
process. Behavior-based safety (BBS) theory claims that
positive approaches toward safe behaviors can be
encouraged by offering advice, inspiration, and guidelines on
how to eliminate at-risk behaviors through safety
awareness.P
15P This leads to a safety culture in an organizationwhich
is a key factor for success in safety management.
Studies by Chavalitnitkul and the National Statistics Office
show that informal-sector workers lack opportunities to
receive work related training and have limited knowledge
when it comes to self assessment information on work related
safety.P
5,16P The participatory learning techniques used in our
participatory approach included using pictures and signs to
facilitate the workers’ understanding of the job safety. By
participating in group discussions, the workers increased their
ability to improve their work condition. Additionally, the
informal sector workers in our study participated in the
development of the participatory process and understood the
purposes of the study; therefore the workers were highly
motivated to participate in the study.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

OHS ความรู้ ทัศนคติ และพฤติกรรมคะแนนของการภาคเป็นผู้ปฏิบัติงานได้เพิ่มขึ้นเนื่องจากผู้ปฏิบัติงานได้สัมผัสกับส่วนประกอบสร้างกำลังการผลิตของการกระบวนการมีส่วนร่วม กำลังการผลิตที่สร้างกระบวนการการเปิดใช้งานผู้ปฏิบัติงานการรับรู้ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับอาชีพของตนและดังนั้น สามารถใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยโดยบริษัทพีพีอี และโดยเรียนรู้เกี่ยวกับแนวคิดการปรับปรุงความปลอดภัย ในระหว่างกิจกรรมการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมที่ถูกนำเสนอในที่นี้ศึกษา ภาคเป็นผู้ปฏิบัติงานในกลุ่มสนทนาและปัญหา OHS ในตนเองภาค พวกเขาพยายามในเวลาต่อมา และถูกต้องเข้าใจการทำงานที่เกี่ยวข้องกับประเด็นความปลอดภัย และโดยรวมมาตรการความปลอดภัยเสนอ และดำเนินการ .ผลการวิจัยของเราแนะนำบวกที่เจตคติส่งเสริมสภาพการทำงานที่ปลอดภัยและปฏิบัติได้เด็ก ๆ ในหมู่ผู้ปฏิบัติงานที่เป็นภาค โดยเพิ่มความความรู้และทักษะเกี่ยวกับปัญหาที่เกี่ยวข้องกับ OHS ผ่านกำลังสร้างกระบวนการขั้นตอนแรกของการมีส่วนร่วมกระบวนการ อ้างตามพฤติกรรมความปลอดภัย (BBS) ทฤษฎีที่แนวทางบวกต่อพฤติกรรมที่ปลอดภัยได้รับการสนับสนุน โดยเสนอคำแนะนำ แรงบันดาลใจ และแนวทางในวิธีการกำจัดพฤติกรรมมีความเสี่ยงทางด้านความปลอดภัยรับรู้ PP 15 นี้นำไปสู่วัฒนธรรมความปลอดภัยในการ organizationwhichเป็นปัจจัยสำคัญของความสำเร็จในการจัดการความปลอดภัยการศึกษา โดย Chavalitnitkul และสำนักงานสถิติแห่งชาติแสดงว่า เป็นภาคแรงงานขาดโอกาสที่จะรับทำงานฝึกอบรมที่เกี่ยวข้อง และได้รับการจำกัดความรู้เมื่อมันมาถึงข้อมูลการประเมินตนเองในการทำงานที่เกี่ยวข้องความปลอดภัย P5, P 16 ที่ใช้เทคนิคการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมของเราวิธีการมีส่วนร่วมรวมใช้ภาพ และสัญญาณการช่วยผู้ปฏิบัติงานเข้าใจในงานความปลอดภัย โดยมีส่วนร่วมในการสนทนากลุ่ม ผู้ปฏิบัติงานที่เพิ่มขึ้นของพวกเขาความสามารถในการปรับปรุงสภาพการทำงานของพวกเขา นอกจากนี้ การภาคเป็นผู้ปฏิบัติงานในการศึกษาของเราเข้าร่วมในการการพัฒนาแบบมีส่วนร่วมประมวลผล และเข้าใจการวัตถุประสงค์ของการศึกษา ดังนั้น ผู้ปฏิบัติงานได้สูงแรงจูงใจการมีส่วนร่วมในการศึกษา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความรู้ทัศนคติ OHS
และคะแนนการทำงานของแรงงานนอกระบบเพิ่มขึ้นเพราะคนงานได้สัมผัสกับองค์ประกอบสร้างขีดความสามารถของกระบวนการมีส่วนร่วม กระบวนการสร้างความสามารถในการเปิดใช้งานคนงานที่จะยอมรับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการประกอบอาชีพของพวกเขาและดังนั้นจึงใช้มาตรการด้านความปลอดภัยโดยการใช้การป้องกันส่วนบุคคลและโดยการเรียนรู้เกี่ยวกับแนวคิดการปรับปรุงความปลอดภัย ในช่วงกิจกรรมการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมที่ถูกนำเสนอในครั้งนี้การศึกษาที่แรงงานนอกระบบภาคส่วนร่วมในกลุ่มการอภิปรายและการระบุปัญหาOHS ในตัวเองภาค พวกเขาพยายามที่ต่อมาได้อย่างถูกต้องและเข้าใจปัญหาความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับการทำงานและการรวมที่เสนอและดำเนินมาตรการด้านความปลอดภัย . ผลการวิจัยของเราแสดงให้เห็นว่าทัศนคติที่ดีต่อการส่งเสริมสภาพการทำงานที่ปลอดภัยและการปฏิบัติที่สามารถส่งเสริมในหมู่แรงงานนอกระบบภาคของพวกเขาโดยการเพิ่มความรู้และทักษะเกี่ยวกับประเด็นที่เกี่ยวข้องกับOHS ผ่านขั้นตอนการสร้างขีดความสามารถกระบวนการแรกของการมีส่วนร่วมในกระบวนการ ความปลอดภัยพฤติกรรมตาม (BBS) ทฤษฎีอ้างว่าวิธีการที่ดีต่อพฤติกรรมความปลอดภัยสามารถสนับสนุนโดยนำเสนอคำแนะนำแรงบันดาลใจและแนวทางวิธีการกำจัดที่มีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยผ่านพฤติกรรมawareness.P 15P นี้นำไปสู่วัฒนธรรมความปลอดภัยในที่ organizationwhich คือ เป็นปัจจัยสำคัญสำหรับความสำเร็จในการจัดการความปลอดภัย. การศึกษาโดย Chavalitnitkul และสำนักงานสถิติแห่งชาติแสดงให้เห็นว่าแรงงานนอกระบบภาคขาดโอกาสที่จะได้รับการฝึกอบรมที่เกี่ยวข้องกับการทำงานและมีความรู้จำกัดเมื่อมันมาถึงข้อมูลการประเมินตนเองในการทำงานที่เกี่ยวข้องกับsafety.P 5,16P เทคนิคการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมของเราใช้ในวิธีการแบบมีส่วนร่วมรวมถึงการใช้ภาพและสัญญาณที่จะอำนวยความสะดวกในการทำความเข้าใจของความปลอดภัยงานของคนงาน โดยมีส่วนร่วมในการอภิปรายกลุ่มคนงานของพวกเขาเพิ่มขึ้นความสามารถในการปรับปรุงสภาพการทำงานของตน นอกจากนี้แรงงานนอกระบบในการศึกษาของเรามีส่วนร่วมในการพัฒนาของกระบวนการมีส่วนร่วมและเข้าใจวัตถุประสงค์ของการศึกษา; จึงถูกคนงานสูงแรงจูงใจที่จะมีส่วนร่วมในการศึกษา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ความรู้ OHS ทัศนคติ และพฤติกรรมของคะแนน
แรงงานนอกระบบเพิ่มขึ้น เพราะคนงาน
ได้รับความจุอาคารส่วนประกอบของ
กระบวนการแบบมีส่วนร่วม ความสามารถในการสร้างกระบวนการเปิดใช้งาน
คนรู้จักความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการประกอบอาชีพและใช้มาตรการความปลอดภัย
ดังนั้นโดยการใช้ PPE และ
โดยการเรียนรู้เกี่ยวกับแนวคิดการปรับปรุงความปลอดภัยกิจกรรมการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมระหว่าง
ที่นำเสนอในงานวิจัยนี้
, แรงงานนอกระบบ ร่วมในกลุ่ม
การอภิปรายและระบุปัญหาในโรงพยาบาลภาคของตัวเอง

พวกเขาและพยายามเข้าใจงานด้านความปลอดภัยและถูกต้อง

เสนอปัญหาและเรียก และมาตรการความปลอดภัย .
ค้นพบว่าทัศนคติ
การส่งเสริมสภาพการทำงานที่ปลอดภัยและการปฏิบัติสามารถ
( ระหว่างแรงงานนอกระบบ โดยการเพิ่มความรู้และทักษะเกี่ยวกับปัญหาที่เกี่ยวข้องกับ

ความจุอาคารโรงพยาบาล ผ่านกระบวนการ ขั้นตอนแรกของกระบวนการมีส่วนร่วม

พฤติกรรมความปลอดภัย ( BBS ) ตามทฤษฎีอ้างว่า
บวกวิธีการต่อพฤติกรรมที่ปลอดภัยสามารถ
สนับสนุนโดยนำเสนอคำแนะนำ , แรงบันดาลใจ ,และแนวทาง
วิธีการกำจัดพฤติกรรมเสี่ยงผ่านความปลอดภัย
P
15p นี้นำไปสู่วัฒนธรรมความปลอดภัยในองค์กร
เป็นปัจจัยสำคัญสำหรับความสำเร็จในการจัดการความปลอดภัย การศึกษา โดย chavalitnitkul

และ สํานักงานสถิติแห่งชาติแสดงให้เห็นว่า แรงงานนอกระบบขาดโอกาสที่จะได้รับการฝึกอบรมและมีการทำงานที่เกี่ยวข้อง

ความรู้ จำกัดเมื่อมันมาถึงข้อมูลการประเมินตนเองในการทำงานที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย
P
5,16p ใช้เทคนิคการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมโดยการมีส่วนร่วมของประชาชน ได้แก่ การใช้ภาพและป้ายของเรา


ช่วยคนงานที่เข้าใจในงานด้านความปลอดภัย โดย
มีส่วนร่วมในการสนทนากลุ่มแรงงานเพิ่มขึ้น
ความสามารถในการปรับปรุงสภาพการปฏิบัติงาน นอกจากนี้
แรงงานนอกระบบในภาคการศึกษาของเรามีส่วนร่วมในการพัฒนาของกระบวนการมีส่วนร่วมและเข้าใจ
วัตถุประสงค์ของการศึกษา ดังนั้น แรงงานมีสูง
แรงจูงใจที่จะเข้าร่วมในการศึกษา