IntroductionThe scattering of light

Introduction
The scattering of light may be thought of as the redirection of light that takes place when
an electromagnetic (EM) wave (i.e. an incident light ray) encounters an obstacle or nonhomogeneity,
in our case the scattering particle. As the EM wave interacts with the discrete
particle, the electron orbits within the particle’s constituent molecules are perturbed periodically
with the same frequency (o) as the electric field of the incident wave. The oscillation or
perturbation of the electron cloud results in a periodic separation of charge within the molecule,
which is called an induced dipole moment. The oscillating induced dipole moment is manifest as
a source of EM radiation, thereby resulting in scattered light. The majority of light scattered by
the particle is emitted at the identical frequency (o) of the incident light, a process referred to as
elastic scattering. In summary, the above comments describe the process of light scattering as a
complex interaction between the incident EM wave and the molecular/atomic structure of the
scattering object; hence light scattering is not simply a matter of incident photons or EM waves
“bouncing” off the surface of an encountered object.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แนะนำScattering ของแสงอาจจะคิดว่า เป็นการเปลี่ยนเส้นทางของแสงที่ จะเกิดขึ้นเมื่อเป็นคลื่น (EM) แม่เหล็กไฟฟ้า (เช่นการแก้ไขปัญหาแสง) พบอุปสรรคการ nonhomogeneityในกรณีอนุภาค scattering การ เป็นคลื่น EM ที่โต้ตอบกับการแยกกันอนุภาค วงโคจรของอิเล็กตรอนในโมเลกุลของอนุภาคธาตุ perturbed เป็นระยะ ๆมีที่เดียวกันความถี่ (o) สนามไฟฟ้าของคลื่นเหตุการณ์ สั่น หรือผล perturbation ของเมฆอิเล็กตรอนแยกประจำงวดค่าใช้จ่ายภายในโมเลกุลซึ่งเรียกว่าการเหนี่ยวนำให้ dipole ขณะ ขณะนี้ dipole อาจสั่นได้มีรายการเป็นแหล่งที่มาของรังสี EM จึงเกิดขึ้นในการกระจายแสง ส่วนใหญ่ของแสงที่กระจัดกระจายอยู่ตามอนุภาคออกมาที่ความถี่เหมือนกัน (o) ของแสงปัญหา กระบวนการที่เรียกว่าscattering ยืดหยุ่น ในสรุป ข้อคิดเห็นข้างต้นอธิบายแสงโปรยเป็นกระบวนการปฏิสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างคลื่นเหตุการณ์ EM และโครงสร้างระดับโมเลกุล/อะตอมของscattering วัตถุ ดังนั้น แสง scattering ไม่เพียงเป็นเรื่องของเหตุการณ์ photons หรือคลื่น EM"ตีกลับ" ปิดพื้นผิวของวัตถุที่พบ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทนำ
การกระเจิงของแสงอาจจะคิดว่าเป็นการเปลี่ยนเส้นทางของแสงที่จะเกิดขึ้นเมื่อ
แม่เหล็กไฟฟ้า (EM) คลื่น (เช่นรังสีแสงที่ตกกระทบ) พบอุปสรรคหรือ nonhomogeneity,
ในกรณีของเราอนุภาคกระเจิง ในฐานะที่เป็นคลื่นลูก EM โต้ตอบกับเนื่อง
อนุภาควงโคจรของอิเล็กตรอนภายในโมเลกุลที่เป็นส่วนประกอบของอนุภาคจะตกอกตกใจเป็นระยะ
ที่มีความถี่เดียวกัน (o) เป็นสนามไฟฟ้าของคลื่นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น การสั่นหรือ
การก่อกวนของผลเมฆอิเล็กตรอนในการแยกธาตุค่าใช้จ่ายภายในโมเลกุล
ที่เรียกว่าเป็นช่วงเวลาที่ขั้วเหนี่ยวนำให้เกิด ขณะขั้วสั่นเหนี่ยวนำให้เป็นที่ประจักษ์เป็น
แหล่งที่มาของรังสี EM จึงเกิดในที่มีแสงกระจาย ส่วนใหญ่ของแสงที่กระจายอยู่โดย
อนุภาคถูกปล่อยออกมาที่ความถี่เหมือนกัน (o) ของแสงที่ตกกระทบกระบวนการที่เรียกว่า
การกระเจิงยืดหยุ่น ในการสรุปความเห็นข้างต้นอธิบายกระบวนการของการกระเจิงแสงเป็น
ปฏิสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคลื่น EM และโมเลกุล / โครงสร้างอะตอมของ
วัตถุกระเจิง; จึงกระเจิงแสงไม่ได้เป็นเพียงแค่เรื่องของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโฟตอนหรือคลื่น EM
"ใหญ่" ออกจากพื้นผิวของวัตถุที่พบ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บทนำ
การกระเจิงของแสงอาจจะคิดว่าเป็น การเปลี่ยนเส้นทางของแสงที่เกิดขึ้นเมื่อ
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ( EM ) คลื่น ( เช่นเรื่องแสงเรย์ ) พบอุปสรรคหรือ nonhomogeneity
ในกรณีของเรา , การกระเจิงอนุภาค เป็นคลื่นที่อนุภาคแบบไม่ต่อเนื่อง พวกเขาจะโต้ตอบกับ
อิเล็กตรอนวงโคจรภายในของอนุภาค ( โมเลกุล ถูกรบกวนเป็นระยะ
กับความถี่เดียวกัน (  O ) เป็นสนามไฟฟ้าของเหตุการณ์คลื่น ความผันผวนหรือ
ความยุ่งเหยิงของอิเล็กตรอนเมฆผลลัพธ์ในการแยกธาตุของประจุในโมเลกุล ซึ่งเรียกว่าเป็นขั้ว
) ค่ะ ที่สั่นจากไดโพลโมเมนต์จะปรากฏเป็นแหล่งที่มาของรังสี
มันจึงส่งผลให้กระจายแสง ส่วนใหญ่ของแสงกระจัดกระจายโดย
เป็นอนุภาคที่ปล่อยออกมาในความถี่เหมือนกัน (  O ) ของแสงเกิดขึ้น กระบวนการที่เรียกว่า
ยืดหยุ่นการกระเจิง . ในการสรุป , ความคิดเห็นข้างต้นอธิบายกระบวนการของการกระจายแสงเป็นปฏิสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างเหตุการณ์
เอ็มคลื่นและโครงสร้างอะตอมโมเลกุล /
การกระเจิงแสงกระจายวัตถุ ดังนั้นจึงไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของโฟตอนหรือเอ็มคลื่น
เหตุการณ์" แสง " ออกจากพื้นผิวของการพบวัตถุ .