The year 1986 brought even more tro

The year 1986 brought even more troubling developments. BSE – or Bovine Spongiform Encephalopathy – was first diagnosed in cattle in the UK. Before the end of the 80s, there would be over 10 000 BSE cases in the UK, while Ireland would become the second Member State to
report the disease. In 1989, the EU placed restrictions on exports of live cattle and
beef from the UK to other Member States. As more became known about this new disease, and as it began to be reported in other Member States, the EU introduced a whole body of legislation to tackle BSE and protect consumers (see p.34). The 1980s was by no means all bad news,
however. EU consumers were enjoying greater choice and variety in food than ever before. A large contributor to this was the boom in bilateral and regional trade agreements from the mid-1980s, which facilitated more imports of foodstuffs which often could not be produced in any great quantity in the EU. The EU was also developing strong trading relations with developing countries, and is now the largest importer of food products from the developing world. In the previous decade, the landmark Lomé Convention had been signed with the African, Caribbean and
Pacific (ACP) countries. This gave these countries preferential access to the EU market for a whole range of products including many foodstuffs. Items such as tropical fruits, spices and new types of grains were pouring into Europe and becoming a more regular part of the EU citizen’s diet.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ปี 1986 นำการพัฒนาหนักใจมากยิ่งขึ้น BSE - หรือ Bovine Spongiform Encephalopathy - ได้รับการวินิจฉัยครั้งแรกในวัวในสหราชอาณาจักร ก่อนที่จะสิ้นสุดของยุค 80 จะมีกว่า 10 000 กรณี BSE ในสหราชอาณาจักรในขณะที่ไอร์แลนด์จะกลายเป็นสองรัฐสมาชิกที่จะ
รายงานโรค ในปี 1989 สหภาพยุโรปวางข้อ จำกัด ในการส่งออกของโคสดและ
เนื้อจากสหราชอาณาจักรไปยังประเทศสมาชิกอื่น ๆ ในฐานะที่กลายเป็นที่รู้จักมากขึ้นเกี่ยวกับโรคใหม่นี้และในขณะที่มันเริ่มที่จะมีการรายงานในประเทศสมาชิกอื่น ๆ ในสหภาพยุโรปที่นำมาใช้ร่างกายของกฎหมายที่จะแก้ไขปัญหา BSE และคุ้มครองผู้บริโภค (ดูหน้า 34) 1980 โดยไม่ได้หมายความว่าทุกข่าวร้าย
อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคในสหภาพยุโรปมีความสุขทางเลือกมากขึ้นและความหลากหลายในอาหารกว่าที่เคย ส่วนใหญ่จะเป็นบูมในข้อตกลงการค้าทวิภาคีและระดับภูมิภาคจากกลางปี ​​1980 ซึ่งอำนวยความสะดวกในการนำเข้ามากขึ้นของอาหารซึ่งมักจะไม่สามารถผลิตในปริมาณมาก ๆ ในสหภาพยุโรป สหภาพยุโรปยังได้รับการพัฒนาความสัมพันธ์การค้าที่ดีกับประเทศกำลังพัฒนาและเป็นผู้นำเข้ารายใหญ่ที่สุดของผลิตภัณฑ์อาหารจากประเทศกำลังพัฒนา ในทศวรรษที่ผ่านมาสถานโลเมประชุมได้รับการเซ็นสัญญากับแอฟริกันแคริบเบียนและ
แปซิฟิก (ACP) ประเทศ เรื่องนี้ทำให้ประเทศเหล่านี้เข้าถึงสิทธิพิเศษไปยังตลาดสหภาพยุโรปทั้งช่วงของผลิตภัณฑ์รวมถึงอาหารจำนวนมาก รายการเช่นผลไม้เมืองร้อนเครื่องเทศและชนิดใหม่ของเมล็ดถูกเทลงในยุโรปและกลายเป็นส่วนหนึ่งของอาหารที่เป็นพลเมืองของสหภาพยุโรป

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผู้สนับสนุนขนาดใหญ่นี้บูมในทวิภาคีและข้อตกลงการค้าระดับภูมิภาค จากช่วงกลางทศวรรษที่ 1980 ซึ่งสนับสนุนการนำเข้ามากขึ้นของอาหารซึ่งมักจะไม่สามารถผลิตในปริมาณมาก ๆ ในสหภาพยุโรป สหภาพยุโรปยังได้พัฒนาความสัมพันธ์ทางการค้าที่แข็งแกร่งกับการพัฒนาประเทศ และตอนนี้ก็ดึงที่ใหญ่ที่สุดของผลิตภัณฑ์อาหารจากโลกที่พัฒนา ในทศวรรษที่ผ่านมาเป็นมากขึ้นกลายเป็นที่รู้จักเกี่ยวกับโรคนี้ และก็เริ่มมีการรายงานในรัฐสมาชิกอื่น ๆของสหภาพยุโรปนำร่างกายของกฎหมายเล่นงานตนเองและปกป้องผู้บริโภค ( ดู p.34 ) 1980 โดยไม่หมายความว่าข่าวร้าย
อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคในสหภาพยุโรปมีเพลิดเพลินทางเลือกมากขึ้นและความหลากหลายในอาหารมากกว่าเดิมปี 1986 ทำให้ยิ่งทำให้การพัฒนา BSE ) หรือโรควัวบ้าได้ และได้รับการวินิจฉัยครั้งแรกว่าโคใน UK ก่อนที่จะสิ้นสุดของ 80s , จะมีมากกว่า 10 000 BSE กรณีใน UK ในขณะที่ไอร์แลนด์จะกลายเป็นรัฐสมาชิกวินาทีในการรายงานโรค ใน 1989 , EU อยู่จำกัดในการส่งออกโคเนื้อสดและ
จาก UK ไปยังประเทศสมาชิกอื่น ๆแลนด์มาร์คโลโบอนุสัญญาได้รับการลงนามกับแอฟริกัน แคริบเบียน และแปซิฟิก ( ACP )
ประเทศ ทำให้ประเทศเหล่านี้สามารถเข้าถึงตลาดอียูให้สิทธิพิเศษสำหรับทั้งช่วงของผลิตภัณฑ์รวมถึงหลายอาหาร รายการ เช่น ผลไม้ เครื่องเทศ และรูปแบบใหม่ของธัญพืชถูกเทลงในยุโรป และเป็นส่วนหนึ่งที่ปกติของสหภาพยุโรปพลเมืองของอาหารผู้สนับสนุนขนาดใหญ่นี้บูมในทวิภาคีและข้อตกลงการค้าระดับภูมิภาค จากช่วงกลางทศวรรษที่ 1980 ซึ่งสนับสนุนการนำเข้ามากขึ้นของอาหารซึ่งมักจะไม่สามารถผลิตในปริมาณมาก ๆ ในสหภาพยุโรป สหภาพยุโรปยังได้พัฒนาความสัมพันธ์ทางการค้าที่แข็งแกร่งกับการพัฒนาประเทศ และตอนนี้ก็ดึงที่ใหญ่ที่สุดของผลิตภัณฑ์อาหารจากโลกที่พัฒนา ในทศวรรษที่ผ่านมา