have led the National Research Coun

have led the National Research Council (NRC) to recommend consuming five or more servings of fruits and vegetables a day. Apples are a very significant part of the diet. From a Dutch Food Consumption Survey and previously analyzed flavonoid contents of fruits, vegetables, and beverages, Hertog et al. (7) determined that apples are the third largest contributors of flavonoids in the Dutch diet behind tea and onions. In Finland, along with onions, apples are the top contributors (8). Twenty- two percent of the fruit phenolics consumed in the United States are from apples, making them the largest source (9). Consump- tion of apples has been linked to the prevention of chronic disease. Apple intake has been negatively associated with lung cancer incidence in two separate studies (8, 10). It has also been
related to reduced cardiovascular disease; coronary and total mortality (11), symptoms of chronic obstructive pulmonary disease (12), and risk of thrombotic stroke (13) have all been inversely associated with apple consumption.
Apples are a good source of phenolic compounds (14). The total extractable phenolic

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มีไฟ led ชาติวิจัยสภา (NRC) แนะนำการใช้อย่าง น้อยห้ากระปุกผลไม้และผักตลอด แอปเปิ้ลเป็นส่วนสำคัญมากของอาหาร จากการสำรวจการบริโภคอาหารดัตช์และ flavonoid ก่อนหน้านี้วิเคราะห์เนื้อหาของผลไม้ ผัก และเครื่อง ดื่ม Hertog et al (7) กำหนดว่า แอปเปิ้ลจะร่วมสมทบมากที่สุดสามของ flavonoids ในอาหารดัตช์หลังชาและหัวหอม ในประเทศฟินแลนด์ พร้อมกับหัวหอม แอปเปิ้ลได้ร่วมสมทบสูงสุด (8) ร้อยละยี่สิบสอง phenolics ผลไม้ที่ใช้ในสหรัฐอเมริกาได้จากแอปเปิ้ล ทำแหล่งใหญ่ที่สุด (9) Consump สเตรชันของแอปเปิ้ลมีการเชื่อมโยงเพื่อการป้องกันโรคเรื้อรัง บริโภคแอปเปิ้ลได้ส่งสัมพันธ์กับอุบัติการณ์มะเร็งปอดในการศึกษาแยกสอง (8, 10) นอกจากนี้ยังมี
ที่เกี่ยวข้องกับโรคหัวใจและหลอดเลือดลดลง หัวใจ และรวมการตาย (11), อาการของโรคระบบทางเดินหายใจเรื้อรังอุปสรรค (12), และความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมอง thrombotic (13) ทั้งหมดมี inversely ที่เกี่ยวข้องกับการใช้แอปเปิ้ล
แอปเปิ้ลเป็นแหล่งดีของสารฟีนอ (14) การรวม extractable ฟีนอ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ได้นำคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (NRC) ที่จะแนะนำการบริโภคห้าหรือมากกว่าเสิร์ฟของผลไม้และผักวัน แอปเปิ้ลเป็นส่วนสำคัญมากของอาหาร จากการบริโภคอาหารดัตช์การสำรวจและวิเคราะห์ก่อนหน้านี้เนื้อหา flavonoid ของผักผลไม้และเครื่องดื่ม Hertog และคณะ (7) ระบุว่าแอปเปิ้ลเป็นผู้ให้ใหญ่เป็นอันดับสามของ flavonoids ในอาหารดัตช์หลังชาและหัวหอม ในฟินแลนด์พร้อมกับหัวหอม, แอปเปิ้ลมีส่วนด้านบน (8) ยี่สิบสองเปอร์เซ็นต์ของฟีนอลผลไม้ที่บริโภคในประเทศสหรัฐอเมริกามาจากแอปเปิ้ลทำให้พวกเขาแหล่งที่ใหญ่ที่สุด (9) การบริโภคของแอปเปิ้ลได้รับการเชื่อมโยงกับการป้องกันโรคเรื้อรัง การรับประทานแอปเปิ้ลได้รับการเชื่อมโยงในทางลบกับอัตราการเกิดโรคมะเร็งปอดในสองการศึกษาแยกต่างหาก (8, 10) นอกจากนี้ยังได้รับการ
ที่เกี่ยวข้องกับโรคหัวใจและหลอดเลือดลดลง; หัวใจและการเสียชีวิตทั้งหมด (11), อาการของโรคปอดอุดกั้น (12) และความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมองตีบ (13) ทั้งหมดได้รับการที่เกี่ยวข้องผกผันกับการบริโภคแอปเปิ้ล
แอปเปิ้ลเป็นแหล่งที่ดีของสารประกอบฟีนอล (14) ฟีนอลที่สกัดได้ทั้งหมด

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ได้นำสภาวิจัยแห่งชาติ ( NRC ) แนะนำให้บริโภคหรือมากกว่าห้าเสิร์ฟของผักและผลไม้ทุกวัน แอปเปิ้ลเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญมากของอาหาร จากการสำรวจการบริโภคอาหารดัตช์ และก่อนหน้านี้ วิเคราะห์เนื้อหา ฟลาโวนอยด์ ในผัก ผลไม้ และเครื่องดื่ม hertog et al .( 7 ) ระบุว่า แอปเปิ้ลเป็นที่สามที่ใหญ่ที่สุดผู้ของ flavonoids ในดัตช์อาหารหลังชาหอม ในฟินแลนด์พร้อมกับหัวหอม , แอปเปิ้ลเป็นผู้สนับสนุนด้านบน ( 8 ) ยี่สิบ - สองเปอร์เซ็นต์ของผล ผลไม้ที่บริโภคในประเทศสหรัฐอเมริกาจากแอปเปิ้ล ทำให้พวกเขาแหล่งใหญ่ที่สุด ( 9 ) consump - tion ของแอปเปิ้ลที่ได้รับการเชื่อมโยงกับการป้องกันโรคเรื้อรังแอปเปิ้ลไอดีมีความสัมพันธ์ทางลบกับการเกิดมะเร็งปอดในการศึกษา 2 แยก 8 , 10 ) มันยังเกี่ยวข้องกับการลดโรคหัวใจและหลอดเลือด
; โรคทั้งหมดตาย ( 11 ) , อาการของโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง ( 12 ) , และความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมอง ( ลึก 13 ) ได้ตรงกันข้ามที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคแอปเปิ้ล .
แอปเปิ้ลเป็นแหล่งที่ดีของสารประกอบฟีนอล ( 14 ) ปริมาณฟีนอลิกทั้งหมด