Cheese is valued for its portabilit

Cheese is valued for its portability, long life, and high content of fat, protein, calcium, and phosphorus. Cheese is more compact and has a longer shelf life than milk, although how long a cheese will keep depends on the type of cheese; labels on packets of cheese often claim that a cheese should be consumed within three to five days of opening. Generally speaking, hard cheeses, such as parmesan last longer than soft cheeses, such as Brie or goat's milk cheese. The long storage life of some cheeses, especially when encased in a protective rind, allows selling when markets are favorable.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ชีจะให้พกพา ยาวนาน และเนื้อหาที่สูงของไขมัน โปรตีน แคลเซียม และฟอสฟอรัส ชีสขนาดกะทัดรัดมากขึ้น และมีอายุอีกต่อไปกว่านม แม้นานชีจะให้ขึ้นอยู่กับชนิดของชี นอกจากนี้ป้ายชื่อบนแพ็คเก็ตของชีมักจะอ้างว่า ชีควรจะบริโภคภายใน 3-5 วันของเปิด โดยทั่วไป ชียาก เช่นอาหารและเครื่องดื่มล่าสุดนานกว่านุ่มชี เช่นเบอบรีชีสนมแพะ อายุการเก็บยาวของสบาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออัดแน่นอยู่ในเปลือกป้องกัน ให้ขายเมื่อตลาดดี

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ชีสมีมูลค่าสำหรับการพกพาของชีวิตที่ยาวนานและเนื้อหาสูงของไขมันโปรตีนแคลเซียมและฟอสฟอรัส ชีสมีขนาดเล็กมากขึ้นและมีชีวิตชั้นนานกว่านมแม้จะนานแค่ไหนชีสจะให้ขึ้นอยู่กับชนิดของชีส; ป้ายชื่อบนแพ็คเก็ตของชีสมักจะอ้างว่าชีสควรบริโภคภายใน 3-5 วันนับจากวันเปิดตัว โดยทั่วไปชีสแข็งเช่น Parmesan นานกว่าชีสนุ่มเช่น Brie หรือแพะชีสนม ชีวิตการเก็บรักษานานชีสโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อห่อหุ้มด้วยเปลือกป้องกันอนุญาตให้ขายเมื่อตลาดเป็นอย่างดี

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ชีส คือ มูลค่าของการพกพาชีวิตยาวและสูงเนื้อหาของไขมัน โปรตีน แคลเซียม และฟอสฟอรัส ชีสจะกระชับมากขึ้น และมีการยืดอายุการเก็บรักษาชีวิตมากกว่านม แม้ว่านานแค่ไหน ชีสจะขึ้นอยู่กับชนิดของชีส ; ฉลากห่อชีสมักจะอ้างว่าเป็นชีส ควรบริโภคภายในสามถึงห้าวันเปิด โดยทั่วไปแล้ว หนักชีส เช่น Parmesan นานกว่าชีสนุ่มเช่น Brie หรือชีสนมแพะ . ความยาวกระเป๋าชีวิตของเนยแข็ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ encased ในเปลือกป้องกัน ช่วยให้ขายเมื่อตลาดเป็นอย่างดี