The growing incidence of obesity an

The growing incidence of obesity and type 2 diabetes mellitus globally is widely recognized as one of the most challenging contemporary threats to public health.1 Uncontrolled diabetes leads to macrovascular and microvascular complications, including myocardial infarction, stroke, blindness, neuropathy, and renal failure in many patients. The current goal of medical treatment is to halt disease progression by reducing hyperglycemia, hypertension, dyslipidemia, and other cardiovascular risk factors.2,3 Despite improvements in pharmacotherapy, fewer than 50% of patients with moderate-to-severe type 2 diabetes actually achieve and maintain therapeutic thresholds, particularly for glycemic control.4 Observational studies have suggested that bariatric or metabolic surgery can rapidly improve glycemic control and cardiovascular risk factors in severely obese patients with type 2 diabetes.5-9 Few randomized, controlled trials have compared bariatric surgery with intensive medical therapy, particularly in moderately obese patients (defined as those having a body-mass index [BMI, the weight in kilograms divided by the square of the height in meters] of 30 to 35) with type 2 diabetes.10 Accordingly, many unanswered questions remain regarding the relative efficacy of bariatric surgery in patients with uncontrolled diabetes.
This randomized, controlled, single-center study, called the Surgical Treatment and Medications Potentially Eradicate Diabetes Efficiently (STAMPEDE) trial, was designed to compare intensive medical therapy with surgical treatment (gastric bypass or sleeve gastrectomy) as a means of improving glycemic control in obese patients with type 2 diabetes.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อุบัติการณ์ของโรคอ้วนและเบาหวานชนิดที่ 2 เติบโตทั่วโลกเป็นที่ยอมรับเป็นหนึ่งในภัยคุกคามร่วมสมัยสุดท้าทายเป้าหมายไม่สามารถควบคุมโรคเบาหวาน health.1 สาธารณะ macrovascular และภาวะแทรกซ้อน microvascular รวมทั้งกล้ามเนื้อหัวใจตาย โรคหลอดเลือดสมอง ตาบอด เส้นประสาทส่วนปลาย และไตวายในผู้ป่วยจำนวนมาก ปัจจุบันเป้าหมายของการรักษาคือการ หยุดการดำเนินของโรค โดยการลดน้ำตาลในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง ไขมัน และอื่น ๆ factors.2,3 หัวใจและหลอดเลือดความเสี่ยงแม้ มีการปรับปรุงใน pharmacotherapy น้อยกว่า 50% ของผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดปานกลางถึงรุนแรง 2 จริงให้บรรลุ และรักษาเกณฑ์การรักษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับน้ำตาล ศึกษาเชิง control.4 ได้แนะนำว่า การผ่าตัดลด หรือเผาผลาญอย่างรวดเร็วสามารถเพิ่มควบคุมน้ำตาลและปัจจัยเสี่ยงหลอดเลือดหัวใจในผู้ป่วยโรคอ้วนรุนแรงกับชนิดที่ 2 ไม่กี่สุ่ม-9 diabetes.5 ทดลองควบคุมมีเมื่อเทียบกับการผ่าตัดลดพร้อมเร่งรัดบำบัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ป่วยโรคอ้วนปานกลาง (กำหนดเป็นผู้ที่มีดัชนีมวลกาย [BMI น้ำหนักกิโลกรัมหาร ด้วยกำลังสองของความสูงเมตร] 30 35) กับ diabetes.10 ชนิด 2 ตาม หลายยังไม่ได้ตอบคำถามยังคงอยู่เกี่ยวกับประสิทธิภาพสัมพัทธ์ของการผ่าตัดลดในผู้ป่วยเบาหวานไม่สามารถควบคุมสุ่ม ควบคุม เดี่ยว-ศูนย์การศึกษานี้ เรียกว่าการผ่าตัดรักษาและยาอาจขจัดโรคเบาหวานได้อย่างมีประสิทธิภาพ (หนี) ทดลองใช้ ถูกออกแบบมาเพื่อเปรียบเทียบการบำบัดแบบเข้มข้นกับการผ่าตัดรักษา (กระเพาะอาหารข้ามหรือแขน gastrectomy) เป็นการปรับปรุงการควบคุมน้ำตาลในผู้ป่วยโรคอ้วนโรคเบาหวานชนิดที่ 2

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อุบัติการณ์ที่เพิ่มขึ้นของโรคอ้วนและเบาหวานชนิดที่ 2 ทั่วโลกได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นหนึ่งในภัยคุกคามร่วมสมัยที่ท้าทายที่สุดในการ health.1 สาธารณะโรคเบาหวานที่ควบคุมไม่ได้นำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่หลอดเลือดใหญ่และ microvascular รวมทั้งกล้ามเนื้อหัวใจตาย, โรคหลอดเลือดสมอง, ตาบอด, โรคของระบบประสาทและความล้มเหลวในการทำงานของไต ผู้ป่วยจำนวนมาก เป้าหมายในปัจจุบันของการรักษาทางการแพทย์ที่จะหยุดความก้าวหน้าของโรคโดยการลดน้ำตาลในเลือดสูง, ความดันโลหิตสูงไขมันในเลือดและอื่น ๆ ที่ factors.2,3 ความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือดแม้จะมีการปรับปรุงในการใช้ยาน้อยกว่า 50% ของผู้ป่วยที่มีระดับปานกลางถึงรุนแรงโรคเบาหวานประเภท 2 จริงบรรลุ และรักษาเกณฑ์การรักษาระดับน้ำตาลในเลือดโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการศึกษาเชิง control.4 ได้ชี้ให้เห็นว่าการผ่าตัดลดความอ้วนหรือการเผาผลาญอย่างรวดเร็วสามารถปรับปรุงการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและปัจจัยเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจในผู้ป่วยโรคอ้วนอย่างรุนแรงชนิดที่ 2 ไม่กี่สุ่มทดลองการควบคุม diabetes.5-9 ได้เมื่อเทียบกับการผ่าตัด bariatric กับการรักษาทางการแพทย์อย่างเข้มข้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ป่วยที่เป็นโรคอ้วนปานกลาง (หมายถึงผู้ที่มีดัชนีมวลกาย [BMI น้ำหนักเป็นกิโลกรัมหารด้วยความสูงในเมตร] ของ 30-35) ชนิดที่ 2 diabetes.10 ดังนั้น คำถามที่ยังไม่หลายคนยังคงเกี่ยวกับการรับรู้ความสามารถของญาติของการผ่าตัด bariatric ในผู้ป่วยเบาหวานที่ควบคุมไม่ได้.
สุ่มควบคุมการศึกษาครั้งนี้ครั้งเดียวกลางที่เรียกว่าการผ่าตัดรักษาและยาที่อาจเกิดการกำจัดโรคเบาหวานอย่างมีประสิทธิภาพ (แตกตื่น) การพิจารณาคดีที่ถูกออกแบบมาเพื่อเปรียบเทียบการรักษาทางการแพทย์อย่างเข้มข้นด้วย การผ่าตัดรักษา (บายพาสกระเพาะอาหารหรือ gastrectomy แขน) เป็นวิธีการปรับปรุงการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดในผู้ป่วยที่เป็นโรคอ้วนเบาหวานชนิดที่ 2

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เพิ่มอุบัติการณ์ของโรคอ้วนและโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ทั่วโลก ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นหนึ่งในความท้าทายมากที่สุดในปัจจุบันภัยคุกคามต่อสุขภาพของประชาชน นำไปสู่ macrovascular 1 โรคเบาหวานที่ควบคุมด้วยภาวะแทรกซ้อน ได้แก่ โรคหัวใจขาดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง โรคตาบอด neuropathy และไตวายในผู้ป่วยหลายคน เป้าหมายปัจจุบันของการรักษาคือการหยุดโรค โดยการลดระดับน้ำตาลในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง ภาวะไขมันในเลือดสูง และปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ชนิด แม้จะมีการปรับปรุงในเภสัชบำบัด , น้อยกว่า 50% ของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ในระดับปานกลางถึงรุนแรงจริง ๆให้บรรลุ และรักษา ซึ่งการรักษาโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการควบคุมระดับน้ำตาล 4 ศึกษาจากการสังเกต พบว่า มี bariatric หรือ เกี่ยวกับการผ่าตัดอย่างรวดเร็วสามารถปรับปรุงการควบคุมระดับน้ำตาล และปัจจัยเสี่ยงในผู้ป่วยโรคอ้วนอย่างรุนแรง ชนิดที่ 2 diabetes.5-9 กี่แบบสุ่มทดลองควบคุมได้เมื่อเทียบกับการรักษาด้วยยา การผ่าตัด bariatric อย่างเข้มข้น โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่อ้วนปานกลาง ( หมายถึงผู้ที่มีดัชนีมวลกาย BMI [ TH และน้ำหนักในกิโลกรัมหารด้วยกำลังสองของความสูงเป็นเมตร ] 30 ถึง 35 ) มี 2 ชนิด diabetes.10 ตาม คำถามมากมายยังคงเกี่ยวกับเทียบประสิทธิภาพของการผ่าตัด bariatric ในผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ควบคุม .การศึกษานี้ ควบคุม ศึกษาศูนย์เดียว เรียกว่า โรคและการผ่าตัดรักษาอาจกำจัดโรคเบาหวานอย่างมีประสิทธิภาพ ( แตกตื่น ) ทดลอง มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบการรักษาด้วยการผ่าตัดรักษาแบบการแพทย์ ( บายพาสกระเพาะอาหาร หรือ หรือแขน ) เป็นวิธีการปรับปรุงการควบคุมระดับน้ำตาลในผู้ป่วยโรคอ้วนกับเบาหวานชนิดที่ 2