muddy suspension having dispersedfi

muddy suspension having dispersedfine particles with little
resistance to water flow, and to compaction of subsoil due to
machinery used for tillage, forming a plough pan with a high bulk
density (Singh, 2011). Soil puddlability as a measure of susceptibility
of soil to puddling was defined as the change in apparent specific
volume of soil per unit work extended in causing such change
(Bodman and Rubin,1948). Because it is difficult to define the work in
thefield, soil puddlability is often measured after puddling as the
amount of dispersed aggregates and particles (Sharma and Bhushan,
2003; Deng et al., 2014) and the sinkage resistance by using an
apparatus identical to a penetrometer that simulate the resistance
(Kirchhof et al., 2000). In general, soil puddlability depends on
moisture content, soil type, tillage implement, and cultural practices
(Singh, 2011).Sharma and Bhushan (2003)andDeng et al. (2014)
observed that the amount of dispersed aggregates decreased with
increasing intensity, but was offset by organic amendments, which

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ระงับโคลนที่มีอนุภาค dispersedfine น้อยด้วยต้านทาน การไหลของน้ำ และกระชับข้อมูลของ subsoil เนื่องเครื่องจักรที่ใช้สำหรับ tillage, pan ไถ มีจำนวนมากสูงขึ้นความหนาแน่น (สิงห์ 2011) ดิน puddlability เป็นวัดภูมิไวรับของดิน puddling ถูกกำหนดเป็นการเปลี่ยนแปลงเฉพาะที่ชัดเจนปริมาตรของดินต่อหน่วยงานที่ขยายในการทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว(Bodman และ Rubin, 1948) เนื่องจากเป็นการยากที่จะกำหนดได้thefield, puddlability ดินมักจะวัดจาก puddling เป็นการจำนวนรวมข้อมูลกระจัดกระจายและอนุภาค (Sharma และ Bhushan2003 เตง et al., 2014) และความต้านทาน sinkage โดยการเครื่องเหมือนกับ penetrometer ที่จำลองต่อต้าน(Kirchhof et al., 2000) ทั่วไป การ puddlability ดินขึ้นอยู่กับชื้น ชนิดดิน tillage ใช้ และแนวทางปฏิบัติทางวัฒนธรรม(สิงห์ 2011)Sharma และ Bhushan (2003) andDeng et al. (2014)สังเกตว่า จำนวนรวมข้อมูลกระจัดกระจายลดลงด้วยเพิ่มความเข้ม แต่ถูกออฟเซ็ต โดยแก้ไขอินทรีย์ ซึ่ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ระงับโคลนที่มีอนุภาค dispersedfine มีน้อย
ความต้านทานต่อการไหลของน้ำและการบดอัดของชั้นใต้ผิวดินเนื่องจาก
เครื่องจักรที่ใช้ในการเตรียมดินไว้กระทะไถกับกลุ่มสูง
ความหนาแน่น (ซิงห์, 2011) puddlability ดินเป็นตัวชี้วัดของความอ่อนแอ
ของดินแอ่งน้ำถูกกำหนดเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดโดยเฉพาะ
ปริมาณของดินต่อการทำงานของหน่วยขยายในการก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว
(Bodman และรูบิน, 1948) เพราะมันเป็นเรื่องยากที่จะกำหนดในการทำงานใน
thefield ดิน puddlability มักจะวัดหลังจาก puddling เป็น
ปริมาณของมวลกระจายและอนุภาค (Sharma และภูชัน
2003; เติ้งและคณะ, 2014.) และความต้านทาน sinkage โดยใช้
อุปกรณ์เหมือนกันกับ Penetrometer ที่จำลองต้านทาน
(Kirchhof et al., 2000) โดยทั่วไป puddlability ดินขึ้นอยู่กับ
ความชื้นของดินในพื้นที่เตรียมดินและการปฏิบัติทางวัฒนธรรม
(ซิงห์, 2011) .Sharma และภูชัน (2003) andDeng และคณะ (2014)
พบว่าปริมาณของมวลกระจายลดลงด้วย
การเพิ่มความเข้ม แต่ถูกชดเชยด้วยการแก้ไขอินทรีย์ซึ่ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เรื่องช่วงล่างมีอนุภาค dispersedfine มีความต้านทานน้อย
เพื่อการไหลของน้ำ และการบดอัดของดินเนื่องจาก
เครื่องจักรที่ใช้แปลงเป็นพานไถกับ
เป็นกลุ่มความหนาแน่นสูง ( Singh , 2011 ) ดิน puddlability เป็นการวัดความไว
ดิน หมายถึง เปลี่ยนอาวุธเป็นปริมาณที่เฉพาะเจาะจงของดินต่อการทำงาน
แจ้งหน่วยขยายในการก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว
( บ็อดเมิ่น กับ รูบิน พ.ศ. 2491 ) เพราะมันเป็นเรื่องยากที่จะกำหนดงานในสาขา puddlability
, ดินมักจะถูกวัดหลังจากหลอมเป็น
จํานวนกระจายมวลรวม และอนุภาค ( Sharma และ bhushan
, 2003 ; เติ้ง et al . , 2010 ) และความต้านทานการจมโดยการใช้วัสดุที่เป็นอุปกรณ์เหมือนกัน

( kirchhof และการจำลองความต้านทาน al . , 2000 ) โดยทั่วไปpuddlability ดินขึ้นอยู่กับ
เนื้อหาดินประเภทดินใช้ความชื้นและ
การปฏิบัติทางวัฒนธรรม ( Singh , 2011 ) . Sharma และ bhushan ( 2003 ) anddeng et al . ( 2014 )
สังเกตว่าปริมาณการกระจายมวลลดลง
เพิ่มเข้มแต่ก็ชดเชยโดยการแก้ไขอินทรีย์ซึ่ง