C. caryae is vulnerable to attack b

C. caryae is vulnerable to attack by entomopathogens when entering the soil as a 4th stage larva and when the insect emerges from its cell as an adult (Lacey and Shapiro-Ilan, 2008). However, based on our research, once inside the pupal cell the insect’s vulnerability to infection by at least one common pathogen, B. bassiana, may be reduced due to antimicrobial properties. These findings expand our knowledge on host–pathogen relationships between insects and entomopathogens in the soil ecosystem; conceivably soil cells formed by other insects possess antimicrobial properties. In addition to B. bassiana, C. caryae can be infected by a number of other entomopathogens in the soil, e.g., entomopathogenic nematodes, Serratia marcescens, and other fungi such as Metarhizium species. Additional research is needed to determine the extent that these other pathogens are susceptible to antimicrobial properties of the pupal cell. Furthermore, research is required to determine the biological or chemical mechanisms that are the basis for antimicrobial activity in the pupal cell.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

C. caryae เป็นง่ายต่อการโจมตี โดย entomopathogens เมื่อใส่ดินเป็น 4 ระยะตัวอ่อนและเมื่อแมลงโผล่ออกมาจากเซลล์ที่เป็นผู้ใหญ่ (สมัครและ Shapiro Ilan, 2008) อย่างไรก็ตาม จากการวิจัยของเรา เมื่อภายในของ pupal เซลล์ช่องโหว่ของแมลงการติดเชื้อ โดยเชื้อโรคทั่วไปอย่างน้อยหนึ่ง B. bassiana อาจจะลดลงเนื่องจากคุณสมบัติต้านจุลชีพ ค้นพบเหล่านี้ขยายความรู้ของเราบนโฮสต์ – เชื้อโรคความสัมพันธ์ระหว่างแมลงและ entomopathogens ระบบนิเวศดิน กลัวดินเซลล์ที่เกิดขึ้น โดยอื่น ๆ แมลงมีคุณสมบัติต้านจุลชีพ นอกจาก B. bassiana, C. caryae สามารถติดเชื้อจำนวนหนึ่ง entomopathogens อื่น ๆ ในดิน เช่น ไส้เดือนฝอย entomopathogenic, Serratia marcescens และเชื้อราอื่น ๆ เช่นพันธุ์ Metarhizium จำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อกำหนดขอบเขตว่า เอดส์อื่น ๆ ที่เป็นคุณสมบัติการต้านจุลชีพของเซลล์ pupal นอกจากนี้ การวิจัยจะต้องกำหนดกลไกทางชีวภาพ หรือสารเคมีที่เป็นพื้นฐานสำหรับกิจกรรมต้านจุลชีพในเซลล์ pupal

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ซี caryae เป็นความเสี่ยงที่จะถูกโจมตีจาก entomopathogens เมื่อเข้าสู่ดินเป็นตัวอ่อนขั้นตอนที่ 4 และเมื่อแมลงโผล่ออกมาจากเซลล์ในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ (ลาเซย์และชาปิโร-Ilan 2008) อย่างไรก็ตามจากการวิจัยของเราครั้งภายในเซลล์ดักแด้แมลงช่องโหว่ของการติดเชื้อจากเชื้อโรคที่พบบ่อยอย่างน้อยหนึ่ง B. bassiana อาจจะลดลงเนื่องจากคุณสมบัติของยาต้านจุลชีพ การค้นพบนี้ขยายความรู้ของเราเกี่ยวกับความสัมพันธ์โฮสต์เชื้อโรคระหว่างแมลงและ entomopathogens ในระบบนิเวศดิน; กลัวเซลล์ดินที่เกิดขึ้นจากแมลงอื่น ๆ มีคุณสมบัติต้านจุลชีพ นอกจากไป B. bassiana ซี caryae สามารถติดเชื้อโดยจำนวนของ entomopathogens อื่น ๆ ในดินเช่นไส้เดือนฝอยกำจัดแมลง, Serratia marcescens และเชื้อราอื่น ๆ เช่นสายพันธุ์ Metarhizium การวิจัยเพิ่มเติมเป็นสิ่งจำเป็นในการกำหนดขอบเขตที่เชื้อโรคอื่น ๆ เหล่านี้มีความไวต่อยาต้านจุลชีพคุณสมบัติของเซลล์ดักแด้ นอกจากนี้การวิจัยจะต้องมีการตรวจสอบกลไกทางชีววิทยาหรือสารเคมีที่เป็นพื้นฐานสำหรับฤทธิ์ต้านจุลชีพในเซลล์ดักแด้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

C . caryae จะเสี่ยงต่อการถูกโจมตีด้วยโรคแมลงเมื่อใส่ดินเป็นเวทีที่ 4 ตัวอ่อน และเมื่อแมลงโผล่ออกมาจากเซลล์ที่เป็นผู้ใหญ่ ( เลซี่ และ ชาพิโร Ilan , 2008 ) อย่างไรก็ตาม จากการวิจัยของเรา เมื่อเข้าดักแด้ของแมลงระบบเซลล์เชื้อ โดยอย่างน้อยหนึ่งที่พบเชื้อ บี bassiana อาจจะลดลงเนื่องจากคุณสมบัติต้านจุลชีพ . การค้นพบเหล่านี้ขยายความรู้ของเราเกี่ยวกับโฮสต์–โรคความสัมพันธ์ระหว่างแมลงและโรคแมลงในระบบนิเวศดิน ดินเข้ามาเซลล์รูปแบบโดยแมลงอื่น ๆที่มีคุณสมบัติต้านจุลชีพ . นอกจาก bassiana B , C . caryae สามารถติดเชื้อโดยจำนวนของโรคแมลงอื่น ๆในดิน เช่น ไส้เดือนฝอย แมลงที่ตาย , marcescens เซอร์ราเทีย และเชื้อราอื่นๆ เช่น เชื้อรา Metarhizium ชนิด การวิจัยเพิ่มเติมเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อกำหนดขอบเขตว่า เชื้อโรคอื่น ๆ เหล่านี้มีความไวต่อยาต้านจุลชีพของเซลล์คุณสมบัติคุณลักษณะ . นอกจากนี้ การวิจัยเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อตรวจสอบทางชีวภาพหรือกลไกทางเคมีที่เป็นพื้นฐานสำหรับฤทธิ์ต้านจุลชีพในเซลล์ดักแด้ .