As the steel is heated above the cr

As the steel is heated above the critical temperature, about 1335°F (724°C), it undergoes a phase change, re-crystallizing as austenite. Continued heating to the hardening temperature, 1450°F - 1500°F (788°C - 816°C) ensures complete conversion to austenite. At this point the steel is no longer magnetic, and its color is cherry-red, normalizing has a slower rate of cool than annealing and this accounts for the springs having a greater strength than the annealed spring, and also accounts for it being harder and less ductile than the annealed springs

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เป็นเหล็กเป็นอุ่นเหนืออุณหภูมิสำคัญ ประมาณ 1335° F (724° C), มันผ่านการเปลี่ยนแปลง ระยะ crystallizing ใหม่เป็น austenite ความร้อนอุณหภูมิแข็ง 1450° F - 1500° F (788° C - 816° C) อย่างต่อเนื่องมั่นใจสมบูรณ์แปลง austenite จุดนี้ เหล็กไม่มีแม่เหล็ก และสีแดงเชอร์รี่ normalizing มีอัตราช้าลงเย็นกว่าการอบเหนียว และนี้บัญชีสำหรับสปริงที่มีความแข็งแรงมากขึ้นกว่าฤดูใบไม้ผลิ annealed และยัง บัญชีสำหรับมันยาก และน้อย ductile กว่าสปริง annealed

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในฐานะที่เป็นเหล็กที่มีความร้อนสูงกว่าอุณหภูมิวิกฤตประมาณ 1,335 ° F (724 ° C) มันผ่านขั้นตอนการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งตกผลึกเป็น austenite ความร้อนยังคงแข็งอุณหภูมิที่ 1450 ° F - 1500 ° F (788 ° C - 816 ° C) เพื่อให้แน่ใจว่าการแปลงที่สมบูรณ์เพื่อ austenite ณ จุดนี้เหล็กไม่แม่เหล็กอีกต่อไปและสีของมันเป็นเชอร์รี่สีแดง normalizing มีอัตราที่ช้าลงของเย็นได้ดีกว่าการอบและบัญชีนี้สปริงมีความแข็งแรงมากขึ้นกว่าในฤดูใบไม้ผลิอบและยังคิดว่ามันจะยากขึ้นและ เหนียวน้อยกว่าสปริงอบ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เป็นเหล็กมีอุณหภูมิสูงกว่าอุณหภูมิวิกฤตประมาณ 355 องศา F ( ° C ถึง ) ก็ผ่านการเปลี่ยนแปลงเฟส จะตกผลึกเป็น austenite . ยังคงความร้อนขึ้นอุณหภูมิ 1450 ° F - 1500 ° F ( 788 / C - 816 ° C ) เพื่อให้แน่ใจว่าการแปลงเสร็จสมบูรณ์เพื่อ austenite . ณจุดนี้ เหล็กที่ไม่มีแม่เหล็ก และสีของมันเป็นเชอร์รี่สีแดงปกติมีอัตราที่ช้าลงของเย็นกว่าการอบและบัญชีนี้ให้สปริงมีความแข็งแรงมากกว่าอบสปริง และยังบัญชีสำหรับการยาก และ เหนียวน้อยกว่าอบสปริง