In an early study of dairy, grain,

In an early study of dairy, grain, and farm supply firms in the Midwestern U.S.,
Schrader, et al. (1985) found cooperatives had lower ROE but also lower leverage than
IOFs and no difference in asset turnover using data from 1979 to 1983. Chen, Babb, and
Schrader (1985) confirmed the theoretically expected lower ROE and higher leverage for
dairy cooperatives than for IOFs using data from 1983. Corroborative results also were
found for Greek dairy and wine industries (Notta and Vlachvei, 2007; Venieris, 1989).
Lerman and Parliament (1990) determined that in both U.S. dairy and fruit and
vegetable processing sectors cooperatives and IOFs were similar in terms of ROE and
leverage using data from 1976 through 1987. Parliament, et al. (1990) found U.S.
cooperatives outperformed IOFs in terms of leverage, liquidity, and asset efficiency and
where no different with respect to ROE. By similar measures, Hind (1994) found that
cooperatives do not perform differently than non-cooperatives in the United Kingdom.
Gentzoglanis (1997) examined financial performance of six cooperatives and six IOFs in
the dairy industry in Canada, and found no significant difference in terms of ROE and
leverage. Ling and Liebrand (1998) introduced the extra value index (EVI) to account for
opportunity costs of member equity in a profitability ratio, and found that the top 15 IOFs
did not outperform the top 25 cooperatives in the U.S. dairy industry in terms of value
created (EVI) or profitability (ROE).
Hardesty and Salgia (2004) found U.S. cooperatives and IOFs in the fruit and
vegetable sector and those dealing in farm supplies were no different in terms of ROE
and ROA, while grain cooperatives outperformed comparable IOFs, and dairy
cooperatives gained on IOFs in terms of ROE from 1991 through 2002. Their results
indicated that cooperatives in all four sectors were less leveraged than IOFs. Kalogeras,
Pennings, Benos (2013) applied a variant of factor analysis (i.e., principle components) to
several financial ratios to reduce the dimensionality of large numbers of interrelated
financial performance measures for Dutch agribusiness cooperatives from 1999 through
2010. Their results were inconsistent with new cooperative models used to attract extra
members’ investments and/or outside equity performing better than the more traditional
models. Burress, et al. (2011) and Burress, et al. (2012) quantify the effects of
cooperative governance (e.g., number of patron members and outsides on the board of
directors) on alternative accounting and survey measures of profitability and other
aspects of performance but do not rigorously investigate the relations between these
measures or consider a combined measure.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในการศึกษาต้นของนม ธัญพืช และฟาร์มซัพพลายบริษัทในสหรัฐอเมริการัฐSchrader, et al. (1985) พบว่า สหกรณ์มี ROE ต่ำกว่า แต่ยัง ช่วยลดเลเวอเรจกว่าIOFs และไม่มีความแตกต่างในอัตราการหมุนสินทรัพย์โดยใช้ข้อมูลจากปี 1979 ถึงปี 1983 เฉิน Babb และSchrader (1985) ยืนยัน ROE ต่ำกว่าที่คาดในทางทฤษฎีและเลเวอเรจที่สูงขึ้นสำหรับสหกรณ์โคนมกว่าสำหรับ IOFs โดยใช้ข้อมูลจากปี 1983 ผล corroborative ยังได้พบกรีนมและอุตสาหกรรมไวน์ (Notta และ Vlachvei, 2007 Venieris, 1989)เลอร์แมนและรัฐสภา (1990) ระบุที่ในสหรัฐอเมริกาผลิตภัณฑ์นมและผลไม้ และการประมวลผลผักภาคสหกรณ์ และ IOFs มีความคล้ายกันในแง่ของ ROE และเลเวอเรจที่ใช้ข้อมูลจาก 1976 ถึง 1987 รัฐสภา et al. (1990) พบสหรัฐอเมริกาสหกรณ์กรรมการ IOFs ในแง่ของเลเวอเรจ สภาพคล่อง และสินทรัพย์อย่างมีประสิทธิภาพ และซึ่งไม่ต่างกับไข่ โดยมาตรการที่คล้ายกัน ไฮนด์ (1994) พบว่าสหกรณ์ไม่ดำเนินแตกต่างไม่ใช่สหกรณ์ในประเทศไทยGentzoglanis (1997) ตรวจสอบผลการดำเนินงานของสหกรณ์หก IOFs หกในอุตสาหกรรมนมในประเทศแคนาดา และพบว่าไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญในแง่ของ ROE และใช้ประโยชน์ หลิงและ Liebrand (1998) นำดัชนีมูลค่า (EVI) สำหรับต้นทุนโอกาสของสมาชิกผู้ถือหุ้นในอัตราส่วนผลกำไร และพบว่า IOFs แรกได้ดีกว่าสหกรณ์ 25 ยอดนิยมในสหรัฐฯ อุตสาหกรรมนมในแง่ของมูลค่าสร้าง (EVI) หรือผลกำไร (ROE)Hardesty และ Salgia (2004) พบสหกรณ์สหรัฐอเมริกาและ IOFs ในผลไม้ และผักภาคและผู้จัดการในฟาร์มซัพพลายได้ไม่แตกต่างกันในแง่ของ ROEและ ROA ในขณะที่กรรมการสหกรณ์เม็ดเทียบเท่ากับ IOFs และนมสหกรณ์ได้รับ IOFs ในแง่ของ ROE 1991 ถึง 2002 ผลของพวกเขาระบุว่า สหกรณ์ในทุกภาคส่วนที่สี่มีเลเวอเรจน้อยกว่า IOFs KalogerasPennings, Benos (2013) กับตัวแปรของการวิเคราะห์ปัจจัย (เช่น องค์ประกอบหลัก)อัตราส่วนทางการเงินหลายลดมิติความสัมพันธ์กันสหกรณ์เกษตรดัตช์จาก 1999 ผ่านมาตรการประสิทธิภาพทางการเงิน2010 ผลลัพธ์ไม่สอดคล้องกับรูปแบบใหม่ที่ใช้เพื่อดึงดูดเสริมสหกรณ์เงินลงทุนและ/หรือภายนอกส่วนประสิทธิภาพดีกว่าแบบดั้งเดิมมากขึ้นของสมาชิกรุ่น Burress, et al. (2011) และ Burress, et al. (2012) ผลกระทบของปริมาณการกำกับดูแลสหกรณ์ (เช่น จำนวนสมาชิกอุปถัมภ์และ outsides ในคณะกรรมการ) เกี่ยวกับมาตรการบัญชีและสำรวจทางเลือกของผลกำไรและอื่น ๆด้านประสิทธิภาพการทำงาน แต่อย่างเข้มงวดตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างเหล่านี้วัด หรือพิจารณาตัวชี้วัดรวมกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในการศึกษาครั้งแรกของนมข้าวและ บริษัท จัดหาฟาร์มในมิดเวสต์ของสหรัฐ
Schrader, et al (1985)
IOFs
Schrader (1985)
สหกรณ์โคนมกว่า
พบกรีกนมและไวน์อุตสาหกรรม
Lerman
ผักภาคการประมวลผลและสหกรณ์
ใช้ประโยชน์จากการใช้ข้อมูลจาก (1990)
สหกรณ์เฮง
ที่ไม่แตกต่างกันเกี่ยวกับการ โดยมาตรการที่คล้ายกันหลัง
สหกรณ์ไม่ได้ดำเนินการที่แตกต่างกว่าที่ไม่ใช่สหกรณ์ในสหราชอาณาจักร
Gentzoglanis (1997)
อุตสาหกรรมนมในประเทศแคนาดาและพบว่าไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ แง่ของ
การใช้ประโยชน์ หลิงและ
ค่าใช้จ่ายในโอกาสของผู้ถือหุ้นของสมาชิกในอัตราส่วนการทำกำไรและพบว่าด้านบน
ไม่ได้ดีกว่าด้านบน
สร้าง
Hardesty
ภาคผักและผู้ที่จัดการในฟาร์มซัพพลายก็ไม่แตกต่างกันในแง่ของ
และ
สหกรณ์ได้รับใน
แสดงให้เห็นว่าสหกรณ์ในทั้งสี่ภาคได้ Kalogeras,
Pennings, Benos (2013)
อัตราส่วนทางการเงินหลายอย่างเพื่อลดมิติของจำนวนมากของความสัมพันธ์
มาตรการประสิทธิภาพทางการเงินสำหรับธุรกิจการเกษตรสหกรณ์ดัตช์จาก
2010 ผลของพวกเขาก็ไม่สอดคล้องกับรูปแบบความร่วมมือใหม่ที่ใช้ในการดึงดูดพิเศษ
สมาชิก' การลงทุนและ
รุ่น Burress, et al (2011) (2012)
การกำกับดูแลสหกรณ์
กรรมการ
ด้านของประสิทธิภาพการทำงาน แต่ไม่เคร่งครัดในการตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างเหล่านี้
มาตรการหรือพิจารณา วัดรวม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในการศึกษาแรกของผลิตภัณฑ์นม ธัญพืชและฟาร์มจัดหาบริษัทในตะวันตกสหรัฐอเมริกาชราด้า , et al . ( 1985 ) พบว่า สหกรณ์มีไข่ปลาล่าง แต่ยังลดประโยชน์กว่าiofs และไม่มีความแตกต่างในการหมุนเวียนการใช้ข้อมูลจากปี 1983 เฉิน แบ็บ , และชราด้า ( 1985 ) ยืนยันทฤษฎีที่คาดว่า ROE ต่ำและยกระดับที่สูงขึ้นสำหรับสหกรณ์โคนมกว่า iofs โดยใช้ข้อมูลจาก 1983 ผล corroborative ยังที่พบในผลิตภัณฑ์นม กรีก และไวน์ ( นอตต้าอุตสาหกรรม และ vlachvei , 2007 ; venieris , 1989 )เลอมานและรัฐสภา ( 1990 ) ระบุว่า นมและผลไม้ทั้งในสหรัฐอเมริกาและผักแปรรูปภาคสหกรณ์และ iofs มีความคล้ายคลึงกันในแง่ของโรและบริษัทที่ใช้ข้อมูลจาก 2519 ถึง 2530 รัฐสภา , et al . ( 1990 ) พบว่าในสหรัฐอเมริกาสหกรณ์ใน iofs นอกจากนี้ บริษัทยังมีสภาพคล่องและสินทรัพย์อย่างมีประสิทธิภาพและที่ไม่แตกต่างกัน ส่วนโร โดยมาตรการที่คล้ายกัน ด้านหลัง ( 1994 ) พบว่าสหกรณ์ไม่แตกต่างกันเกินไม่ใช่สหกรณ์ในสหราชอาณาจักรgentzoglanis ( 1997 ) ตรวจสอบผลการดำเนินงานทางการเงินของสหกรณ์ และ iofs ในหกหกอุตสาหกรรมนมในแคนาดา และพบว่าไม่มีความแตกต่างกันในแง่ของโรและการใช้ประโยชน์ หลิง และ liebrand ( 1998 ) แนะนำดัชนีค่าพิเศษ ( เอวี่ ) ไปยังบัญชีสำหรับค่าเสียโอกาสของทุนในอัตราสมาชิก อัตราส่วน และ พบว่า อันดับ 15 iofsไม่ได้ลงในด้านบน 25 สหกรณ์โคนมในแง่ของมูลค่าอุตสาหกรรมสหรัฐฯสร้าง ( เอวี่ ) หรือกำไร ( ไข่ปลา )ฮาร์เดิสตี้ และ salgia ( 2004 ) พบว่า สหรัฐ สหกรณ์และ iofs ในผลไม้ภาคผักและการจัดการอุปกรณ์ฟาร์มไม่แตกต่างกันในแง่ของโรที่ลงทุนในสหกรณ์และในขณะที่เม็ดเทียบเท่า iofs และนมสหกรณ์ได้รับ iofs ในแง่ของไข่ปลาจาก 2534 ถึง 2545 ผลของพวกเขาพบว่า สหกรณ์ในทั้งหมดสี่ภาค leveraged น้อยกว่า iofs . kalogeras ,เพนนิ่งส์ benos , ( 2013 ) แตกต่างจากการวิเคราะห์ปัจจัยที่ใช้ ( เช่น หลักการองค์ประกอบ )หลายอัตราส่วนลดของตัวเลขขนาดใหญ่ของคาบ dimensionalityตัวชี้วัดทางการเงินสหกรณ์เกษตรจาก 2542 ผ่านดัตช์2010 ผลของพวกเขาสอดคล้องกับรูปแบบความร่วมมือใหม่ที่ใช้ดึงดูดความสนใจพิเศษสมาชิกของการลงทุนและ / หรือภายนอกส่วนการแสดงที่ดีกว่าแบบดั้งเดิมมากขึ้นรุ่น เบอเริส et al . ( 2011 ) และเบอเริส et al . ( 2012 ) ที่มีผลของการบริหารร่วมกัน ( เช่น หมายเลขสมาชิกอุปถัมภ์และนอกในคณะกรรมการของผู้อำนวยการ ) ในการสำรวจทางเลือกและมาตรการของธนาคารและบัญชีด้านของประสิทธิภาพ แต่ไม่ด้ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างเหล่านี้มาตรการหรือพิจารณามาตรการรวมกัน