Fig. 1 shows the variation of the r

Fig. 1 shows the variation of the relative intensity I2, and the lifetime τ2 with the ionic radii of the substituted ions for Li-ferrite. It is noticed that I2 mostly increases with the ionic radii of the substitution ions, and then decreases for Sm Li-ferrite sample. This defect is the sum of nanoscale grain boundaries thickness and intergranular pores. ( Table 1) indicates the increase of the average grain size with increasing the ionic radii of substituted ions. Similar result was reported for Mn–Zn ferrite [19].

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Fig. 1 แสดงรูปแบบของความเข้มสัมพัทธ์ I2 และ τ2 อายุการใช้งาน ด้วยรัศมี ionic ของประจุเทียบเท่าสำหรับ Li ferrite จะพบว่า I2 ส่วนใหญ่เพิ่มขึ้นกับรัศมี ionic ของประจุแทน และลดแล้ว สำหรับเอสเอ็ม Li-ferrite อย่าง ความบกพร่องนี้เป็นผลรวม ของ nanoscale ข้าวขอบหนา และ intergranular pores (ตาราง 1) ระบุว่า เพิ่มขนาดเมล็ดเฉลี่ยกับเพิ่มรัศมี ionic ของเทียบเท่ากัน รายงานผลที่คล้ายกันสำหรับ Mn – Zn ferrite [19]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มะเดื่อ 1 แสดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของ I2 เข้มญาติและτ2อายุการใช้งานที่มีรัศมีอิออนของไอออนแทนสำหรับ Li-เฟอร์ไรต์ มันเป็นที่สังเกตเห็นว่า I2 ส่วนใหญ่เพิ่มขึ้นกับรัศมีอิออนของไอออนทดแทนและจากนั้นลดลงตัวอย่าง Sm Li-เฟอร์ไรต์ ข้อบกพร่องนี้เป็นผลรวมของข้าวเขตแดนนาโนหนาและรูขุมขนขอบเกรน (ตารางที่ 1) แสดงให้เห็นการเพิ่มขึ้นของขนาดเม็ดเฉลี่ยเพิ่มขึ้นรัศมีอิออนของไอออนแทน ผลที่คล้ายกันได้รับการรายงานสำหรับเฟอร์ไรต์ Mn-Zn [19]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

รูปที่ 1 แสดงการเปลี่ยนแปลงของความเข้มสัมพัทธ์ I2 และอายุการใช้งานτ 2 กับรัศมีของไอออนไอออนแทนหลี่เฟอร์ไรต์ จะสังเกตเห็นว่า I2 ส่วนใหญ่เพิ่มขึ้นรัศมีไอออนของการแทนที่ไอออนและจากนั้นลดลงสำหรับเอสเอ็มอีสารตัวอย่าง ข้อบกพร่องนี้คือผลรวมของความหนาของเมล็ด ( nanoscale และรูขุมขน .( ตารางที่ 1 ) แสดงการเพิ่มขึ้นของขนาดเกรนเฉลี่ยเพิ่มรัศมีของไอออนและไอออน ผลที่คล้ายกันได้รับรายงานสำหรับแมงกานีสสังกะสี Ferrite ) [ 19 ]