Another finding of this study is th

Another finding of this study is that the relationship between listening strategies and listening ability is linear. That is, the higher the students listening ability. the more they used listening strategies. This finding conflicts with other finding in which the relationship between these two variables is curvilinear (Philips. 1991). Phillips reports that students in the mid-proficiency group (TOEFL range: 481-506) used more language learning strategies than students in high (TOEFL range: 507-600) and low (TOEFL range: 397-480) proficiency groups, and argues that this might result from the lack of awareness of strategy use by the low proficiency group, and the lack of need for strategy use by the high proficiency group. This finding, however, is in accordance with another study in which the high proficiency group (TOEFL mean 474 TOEFL maximum: 60m used more language learning strategies than both mid-proficiency (TOEFL mean: 453) and low proficiency group (TOEFL mean 435: TOEFL minimum 350) (Park, 1997). The linear relationship between listening strategies and listening ability in this study demonstrates that even the advanced learners (TOEIC L/C mean: 301: TOEIC I/C maximum 430) need to use specific strategies to improve their listening and will stimulate further studies investigating the linear/curvilinear relationship between strategy use and 12 proficiency. A third finding of this study is that listening strategies are significantly related to only integrative motivation among the four variables: intergrative motivation. instrumental motivation, beliefs. and interest. The significant relationship between listening strategies and integrative motivation was found elsewhere by Oxford and Nyikos (1989) who reported students choice of language learning strategies was related to their motivation. It is interesting to note. however, that the relationships between listening strategies and instrumental motivation. and between listening strategies and beliefs were very low. The lower correlations between these variables may be because some strategies require social relationships with other people and affective demands. That is, an inde- pendent learner or a learner who believes in the importance of listening may resist the opportunity with a native speaker. preferring to listen to cassette tapes alone to improve his listening ability. In addition the relationship between listening abilities and interest was not significant but still moderate. Thus students of interest in learning English may employ specific behaviors and thought processes to improve their listening ability Finally this study reports that listening strategies together with otherpredictor variables integrative motivation, instrumental motivation, and interest-account for a significant portion of variance (.28) in the TOEIC LVc. Interestingly enough, however, only listening strategies among the predictor variables could uniquely predict the TOEIC L o, with a significant variance of .24 between listening strategies and the TOEIC L/C. The positive role of listening strategies in the ToEIC L/c has the implication that L2 acquisition can be explained by natural and uncon scious processes as well as by intentional and conscious strategies. These natural and unconscious processes may come from innate language-specific knowledge accessible to adult L2 learners, native language knowledge. and/or general knowledge of learning (Park. 1995). Even though the roles of integrative motivation, instrumental motivation, beliefs, and interest in L2 acquisition have been assumed or confirmed elsewhere (Park. 1995 Gardner & MacIntyre, 1991: Horwitz, 1987: Henning, 1983: Gardner & Lambert. 1972), these variables failed to uniquely contribute significant variance in the TOEIC L/C in this study. This finding, however, should not be interpreted as indicating the roles of these other variables is trivial in 12 acquisition. Rather. further research needs to be conducted focusing on how these variables influence listening strategy use and how this in turn may affect L2 proficiency

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ของการศึกษานี้พบว่าความสัมพันธ์ระหว่างกลยุทธ์การรับฟังและความสามารถในการฟังเชิงเส้นได้ นั่นคือ สูงกว่านักศึกษาฟังความสามารถ ยิ่งพวกเขาใช้กลยุทธ์ฟัง ค้นหานี้ขัดแย้งกันหาซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างสองตัวแปรเหล่านี้เป็นโค้ง (Philips. 1991) ฟิลลิปส์รายงานว่า นักเรียนในกลุ่มระดับกลาง (TOEFL ช่วง: 481-506) ใช้กลยุทธ์นักเรียนสูงกว่าการเรียนภาษาเพิ่มเติม (TOEFL ช่วง: 507-600) และต่ำ (ช่วงสอบ TOEFL: 397-480) ภาษากลุ่ม และแย้งว่า นี้อาจส่งผลจากการขาดความตระหนักในการใช้กลยุทธ์ตามกลุ่มระดับต่ำ และการขาดของความต้องการสำหรับการใช้กลยุทธ์ตามกลุ่มระดับสูง นี้หา อย่างไรก็ตามการศึกษาอื่นซึ่งกลุ่มระดับสูง (TOEFL หมายถึง 474 TOEFL สูง: 60 เมตรใช้กว่าระดับกลางทั้งสองกลยุทธ์การเรียนภาษาเพิ่มเติม (หมายถึงอะไรการสอบ TOEFL: 453) และกลุ่มระดับต่ำ (TOEFL หมายถึง 435: TOEFL ขั้นต่ำ 350) (สวน 1997) อธิบายความสัมพันธ์เชิงเส้นระหว่างกลยุทธ์ฟังและฟังความสามารถในการศึกษานี้ที่แม้ผู้เรียนขั้นสูง (TOEIC l/c หมายถึงอะไร: 301: TOEIC ผม / C สูงสุด 430) ต้องการใช้ เฉพาะกลยุทธ์เพื่อปรับปรุงพวกเขาฟังและจะกระตุ้นการศึกษาตรวจสอบความสัมพันธ์เชิงเส้นโค้งระหว่างใช้กลยุทธ์และการวัดระดับ 12 ที่สามที่พบของการศึกษานี้ ว่า กลยุทธ์การรับฟังเป็นอย่างมากเกี่ยวข้องกับแรงจูงใจผสมผสานเฉพาะระหว่างตัวแปรที่สี่: intergrative แรงจูงใจ แรงจูงใจเป็นเครื่องมือ ความเชื่อ และดอกเบี้ย พบความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญระหว่างรับฟังกลยุทธ์และแรงจูงใจบูรณาการ โดย Oxford อื่น ๆ และ Nyikos (1989) ที่รายงานเลือกนักเรียนกลยุทธ์การเรียนภาษาเกี่ยวข้องกับแรงจูงใจ มันน่าสนใจจะทราบ อย่างไรก็ตาม ที่ความสัมพันธ์ระหว่างการรับฟังกลยุทธ์และแรงจูงใจเป็นเครื่องมือ และระหว่างรับฟังกลยุทธ์และความเชื่อต่ำมาก ความสัมพันธ์ต่ำระหว่างตัวแปรเหล่านี้อาจเป็น เพราะกลยุทธ์บางอย่างจำเป็นต้องมีความสัมพันธ์ทางสังคมกับบุคคลและความต้องการอารมณ์อื่น ๆ นั่นคือ การเรียนจี้เงิน inde หรือผู้เรียนเป็นผู้ที่เชื่อในความสำคัญของการฟังอาจต่อต้านโอกาสกับเจ้าของภาษา เลือกที่จะฟังเทปบันทึกเสียงเพียงอย่างเดียวเพื่อปรับปรุงความสามารถของเขาฟัง นอกจากนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างความสามารถและสนใจฟังได้ไม่มีนัยสำคัญ แต่ยังคงปานกลาง ดังนั้นนักเรียนสนใจในการเรียนภาษาอังกฤษอาจจ้างเฉพาะพฤติกรรม และความคิดกระบวนการในการพัฒนาความสามารถในการฟังในที่สุดนี้ศึกษารายงานที่ฟังกลยุทธ์ร่วมกับ otherpredictor ตัวแปรผสมผสานแรงจูงใจ แรงจูงใจเป็นเครื่องมือ และ บัญชีดอกเบี้ยสำหรับเป็นส่วนสำคัญของความแปรปรวน (. 28) ใน LVc ของ TOEIC น่าสนใจพอ อย่างไรก็ตาม เท่านั้นฟังกลยุทธ์ระหว่างตัวแปร predictor อาจเฉพาะทำนาย TOEIC L o มีผลต่างที่สำคัญของ.24 ระหว่างรับฟังกลยุทธ์และ l/c TOEIC บทบาทเชิงบวกกลยุทธ์ฟังใน l/c ToEIC มีเต๋า L2 ที่ซื้อสามารถอธิบายได้ ด้วยกระบวนการธรรมชาติ และ uncon scious เช่นเดียว กับกลยุทธ์โดยจงใจ และสติ กระบวนการเหล่านี้ธรรมชาติ และหมดสติอาจมาจากธรรมชาติภาษาเฉพาะรู้ถึงผู้ใหญ่ L2 ความรู้ภาษา หรือความรู้ทั่วไปของการเรียนรู้ (สวน. 1995) แม้ว่าบทบาทของบูรณาการแรงจูงใจ แรงจูงใจเป็นเครื่องมือ ความเชื่อ และสนใจซื้อ L2 ได้สันนิษฐาน หรือยืนยันอื่น ๆ (MacIntyre, 1991 และการ์ดเนอร์พาร์ค. 1995: Horwitz, 1987: หมู่ 1983: การ์ดเนอร์และแลมเบิร์ท. 1972), ตัวแปรเหล่านี้ไม่มีส่วนร่วมโดยเฉพาะผลต่างอย่างมีนัยสำคัญใน l/c TOEIC ในการศึกษานี้ ค้นหานี้ อย่างไรก็ตาม ไม่ควรถูกแปลเป็นการแสดงบทบาทของตัวแปรเหล่านี้เป็นเรื่องขี้ปะติ๋วซื้อ 12 ค่อนข้าง การ วิจัยต้องดำเนินการเน้นวิธีตัวแปรเหล่านี้มีอิทธิพลต่อการฟังใช้กลยุทธ์และวิธีนี้ในการเปิดอาจมีผลต่อระดับ L2

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผลการศึกษานี้ก็คือว่าความสัมพันธ์ระหว่างฟังกลยุทธ์และความสามารถในการฟังเพลงเป็นเส้นตรง นั่นคือนักเรียนความสามารถในการฟังเพลงที่สูงกว่า กลยุทธ์มากขึ้นพวกเขาใช้ในการฟัง การค้นพบนี้ขัดแย้งกับผลการวิจัยอื่น ๆ ที่ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองตัวแปรที่เป็นโค้ง (ฟิลิปส์. 1991) ฟิลลิปรายงานว่านักเรียนในกลุ่มกลางความสามารถ (TOEFL ช่วง: 481-506) ที่ใช้กลยุทธ์การเรียนรู้ภาษาอื่น ๆ กว่านักเรียนในระดับสูง (TOEFL ช่วง: 507-600) และต่ำ (ช่วง TOEFL: 397-480) กลุ่มความสามารถและระบุ ที่ว่านี้อาจเป็นผลมาจากการขาดความตระหนักในการใช้กลยุทธ์ที่ใช้โดยกลุ่มความสามารถต่ำและการขาดความจำเป็นในการใช้กลยุทธ์การโดยกลุ่มความสามารถสูง การค้นพบนี้ แต่เป็นไปตามการศึกษาซึ่งในกลุ่มความสามารถสูง (TOEFL หมายถึง 474 คะแนน TOEFL สูงสุดอื่น: 60m ใช้กลยุทธ์การเรียนรู้ภาษามากกว่าทั้งกลางความสามารถ (TOEFL หมายถึง: 453) และกลุ่มความสามารถต่ำ (TOEFL หมายถึง 435: . TOEFL ขั้นต่ำ 350) (Park, 1997) ความสัมพันธ์เชิงเส้นตรงระหว่างฟังกลยุทธ์และการฟังความสามารถในการศึกษาครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าแม้ผู้เรียนขั้นสูง (TOEIC L / C หมายถึง: 301: TOEIC I / C สูงสุด 430) จำเป็นต้องใช้กลยุทธ์ที่เฉพาะเจาะจงเพื่อ พัฒนาทักษะการฟังของพวกเขาและจะช่วยกระตุ้นการศึกษาต่อการตรวจสอบเชิงเส้น / ความสัมพันธ์โค้งระหว่างการใช้กลยุทธ์และ 12 ความสามารถการค้นพบที่สามของการศึกษาครั้งนี้คือกลยุทธ์การฟังมีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญในการสร้างแรงจูงใจแบบบูรณาการเพียง แต่ในหมู่สี่ตัวแปร:.. แรงจูงใจ intergrative แรงจูงใจประโยชน์ความเชื่อ . และดอกเบี้ย. ความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญระหว่างกลยุทธ์การฟังและการสร้างแรงจูงใจแบบบูรณาการที่ถูกพบที่อื่นโดยฟอร์ดและ Nyikos (1989) ที่นักเรียนรายงานทางเลือกของกลยุทธ์การเรียนรู้ภาษาที่เกี่ยวข้องกับแรงจูงใจของพวกเขา เป็นที่น่าสนใจที่จะต้องทราบ แต่ที่ความสัมพันธ์ระหว่างกลวิธีการฟังและแรงจูงใจด้วยเครื่องมือ และระหว่างกลวิธีการฟังและความเชื่อที่อยู่ในระดับต่ำมาก ความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรที่ลดลงเหล่านี้อาจจะเป็นเพราะกลยุทธ์บางอย่างจำเป็นต้องมีความสัมพันธ์ทางสังคมกับคนอื่น ๆ และความต้องการทางอารมณ์ นั่นคือผู้เรียนจี้ inde- หรือผู้เรียนที่เชื่อในความสำคัญของการฟังอาจต้านทานโอกาสกับเจ้าของภาษา เลือกที่จะฟังเทปคาสเซ็ทคนเดียวที่จะปรับปรุงความสามารถในการฟังเพลงของเขา นอกจากนี้ความสัมพันธ์ระหว่างความสามารถในการฟังและดอกเบี้ยที่ไม่มีนัยสำคัญ แต่ยังคงปานกลาง ดังนั้นนักเรียนที่สนใจในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษอาจใช้พฤติกรรมและกระบวนการคิดที่เฉพาะเจาะจงในการปรับปรุงความสามารถในการฟังของพวกเขาในที่สุดการศึกษานี้รายงานว่าการฟังกลยุทธ์ร่วมกับ otherpredictor ตัวแปรแรงจูงใจแบบบูรณาการการจูงใจประโยชน์และดอกเบี้ยบัญชีสำหรับเป็นส่วนสำคัญของความแปรปรวน (0.28) ในการสอบ TOEIC LVC ที่น่าสนใจพอ แต่เพียงกลยุทธ์ฟังระหว่างตัวแปรทำนายจะไม่ซ้ำกันทำนาย L o TOEIC ที่มีความแปรปรวนอย่างมีนัยสำคัญระหว่าง 0.24 กลวิธีการฟังและ L TOEIC / C บทบาทในเชิงบวกของการฟังกลยุทธ์ในการสอบ TOEIC L / C ที่มีความหมายว่าการซื้อกิจการ L2 สามารถอธิบายได้ด้วยกระบวนการทางธรรมชาติและ scious uncon เช่นเดียวกับกลยุทธ์โดยเจตนาและมีสติ กระบวนการเหล่านี้เป็นธรรมชาติและหมดสติอาจจะมาจากความรู้เฉพาะภาษาโดยธรรมชาติที่สามารถเข้าถึงผู้เรียน L2 ผู้ใหญ่ความรู้ภาษาพื้นเมือง และ / หรือความรู้ทั่วไปของการเรียนรู้ (พาร์ค. 1995) แม้ว่าบทบาทของแรงจูงใจแบบบูรณาการการจูงใจประโยชน์ความเชื่อและความสนใจในการเข้าซื้อกิจการ L2 ได้รับการสันนิษฐานหรือยืนยันที่อื่น ๆ (. park 1995 การ์ดเนอร์และ MacIntyre, 1991: Horwitz 1987: เฮนนิ่ง, 1983:. การ์ดเนอร์และแลมเบิร์ 1972) เหล่านี้ ตัวแปรล้มเหลวที่จะไม่ซ้ำกันมีส่วนร่วมในความแปรปรวนที่สำคัญในการสอบ TOEIC L / C ในการศึกษานี้ การค้นพบนี้ แต่ไม่ควรตีความว่าเป็นแสดงให้เห็นบทบาทของตัวแปรอื่น ๆ เหล่านี้เป็นสิ่งที่น่ารำคาญในการเข้าซื้อกิจการ 12 ค่อนข้าง การวิจัยต่อไปจะต้องมีการดำเนินการมุ่งเน้นไปที่วิธีการที่ตัวแปรเหล่านี้มีอิทธิพลต่อการฟังการใช้กลยุทธ์และวิธีการในทางกลับกันอาจส่งผลกระทบต่อความสามารถ L2

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อีก การหาของการศึกษาครั้งนี้ คือ ความสัมพันธ์ระหว่างกลวิธีในการฟังและความสามารถในการฟังเป็นเชิงเส้น นั่นคือ ความสามารถในการฟังสูงกว่านักเรียน . ยิ่งใช้กลวิธีในการฟัง . การค้นหานี้ขัดแย้งกับการหาข้อมูลอื่น ๆที่ความสัมพันธ์ระหว่างสองตัวแปรนี้เป็นเส้นโค้ง ( Philips 1991 ) ฟิลลิปส์รายงานว่า กลุ่มถิ่นกลาง ( ช่วง : TOEFL 481-506 ) ใช้กลยุทธ์การเรียนภาษาอังกฤษสูงกว่านักเรียนในระดับสูง ( ช่วง : TOEFL 507-600 ) และต่ำ ( ช่วง : TOEFL 397-480 ) กลุ่มถิ่น และโต้แย้งว่าอาจเป็นผลมาจากการขาดการรับรู้ของกลยุทธ์ที่ใช้โดยกลุ่มทักษะต่ำ และขาด ความต้องการของกลยุทธ์ที่ใช้โดยกลุ่มถิ่นสูง การค้นหานี้ อย่างไรก็ตาม ตามการศึกษาอื่นที่กลุ่มความสามารถสูง ( TOEFL TOEFL สูงสุด : 60 หมายถึงเมื่อใช้กลวิธีการเรียนรู้ภาษามากกว่าทั้งกลางภาษาอังกฤษ ( TOEFL หมายถึง : 453 ) และกลุ่มความสามารถต่ำ ( TOEFL หมายความว่า 435 : TOEFL ขั้นต่ำ 350 ) ( Park , 1997 ) มีความสัมพันธ์เชิงเส้นระหว่างกลวิธีในการฟังและความสามารถในการฟังในการศึกษานี้แสดงให้เห็นว่า แม้ผู้เรียนขั้นสูง ( TOEIC L / C หมายถึง : 301 : TOEIC I / C สูงสุด 430 ) ต้องใช้กลยุทธ์เฉพาะเพื่อปรับปรุงการฟังของตนเอง และจะช่วยกระตุ้นการศึกษาตรวจสอบความสัมพันธ์เชิงเส้น / กันระหว่างการใช้กลยุทธ์และ 12 ถิ่น มิติที่สามของการศึกษาครั้งนี้ คือ กลวิธีในการฟัง มีความสัมพันธ์กับแรงจูงใจเพียงบูรณาการทั้ง 4 ตัวแปร ได้แก่ แรงจูงใจ intergrative . เป็นแรงจูงใจ , ความเชื่อ และความสนใจ ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างกลวิธีในการฟังและแรงจูงใจ การพบที่อื่นโดย Oxford และ nyikos ( 1989 ) ที่รายงานทางเลือกของกลยุทธ์การเรียนรู้ภาษา นักเรียนมีความสัมพันธ์กับแรงจูงใจของพวกเขา เป็นที่น่าสนใจที่จะทราบ อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ระหว่างกลวิธีในการฟังและแรงจูงใจ เครื่องมือ และระหว่างกลวิธีในการฟังและความเชื่อกันน้อยมาก ลดความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรเหล่านี้อาจเป็นเพราะกลยุทธ์บางอย่างต้องใช้ความสัมพันธ์ทางสังคมกับคนอื่น ๆและอารมณ์ความต้องการ ที่เป็นประเทศอินเดีย - จี้เรียนหรือผู้เรียนที่เชื่อในความสำคัญของการฟังอาจต้านทานโอกาสกับเจ้าของภาษา เลือกที่จะฟังเทปไว้เพื่อปรับปรุงความสามารถในการฟังของเขา . นอกจากนี้ความสัมพันธ์ระหว่างความสามารถในการฟัง และความสนใจอย่างมีนัยสำคัญ แต่ยังพอใช้ ทำให้นักเรียนสนใจในการเรียนภาษาอังกฤษอาจใช้พฤติกรรมที่เฉพาะเจาะจงและกระบวนการคิดเพื่อปรับปรุงความสามารถในการฟังและการศึกษานี้รายงานว่า กลวิธีในการฟัง ด้วยกันกับตัวแปร otherpredictor บูรณาการ แรงจูงใจ แรงจูงใจเป็นเครื่องมือ และดอกเบี้ยสำหรับบัญชีส่วนสําคัญของความแปรปรวน ( 28 ) ใน lvc ติว TOEIC ที่น่าสนใจพอ , อย่างไรก็ตาม , เพียง กลวิธีในการฟังระหว่างร่วมอธิบายความแปรปรวน อาจมีทำนาย TOEIC L O กับความแปรปรวนของ 24 ระหว่างกลวิธีในการฟังและ TOEIC L / C บวกบทบาทของกลยุทธ์ในการฟัง TOEIC L / C มีความหมายโดยนัยว่าซื้อ L2 สามารถอธิบายได้ด้วยกระบวนการธรรมชาติ และ uncon scious เป็น ทั้งโดยตั้งใจและใส่ใจในกลยุทธ์ กระบวนการทางธรรมชาติและหมดสติเหล่านี้อาจมาจากแหล่งความรู้ภาษาเฉพาะ ที่สามารถเข้าได้กับผู้ใหญ่ที่มีความรู้ภาษาดั้งเดิม และ / หรือ ความรู้ทั่วไปของการเรียนรู้ ( ปาร์ค 1995 ) แม้ว่าบทบาทของแรงจูงใจ แรงจูงใจแบบบรรเลง ความเชื่อและความสนใจในการซื้อ L2 มีการสันนิษฐาน หรือยืนยันที่อื่น ( ปาร์ค 1995 Gardner & แมคอินไทร์ , 1991 : Horwitz , 1987 : Henning , 1983 : การ์ดเนอร์ & แลมเบิร์ท 1972 ) ตัวแปรเหล่านี้ล้มเหลวในการมีส่วนร่วมความสําคัญในการสอบ TOEIC โดยเฉพาะ L / C ในการศึกษานี้ การค้นหานี้ อย่างไรก็ตาม ไม่ควรถูกตีความว่าเป็น แสดงถึงบทบาทของตัวแปรอื่น ๆเหล่านี้เป็นเล็กน้อยใน 12 เข้า มากกว่า การวิจัยเพิ่มเติมจะต้องดำเนินการเน้นว่าตัวแปรเหล่านี้มีอิทธิพลต่อการฟังใช้กลยุทธ์และวิธีการนี้ในการเปิดอาจมีผลต่อความสามารถใน L2