whereN is the number of tokens in t

whereN is the number of tokens in the page.
This can be done simply by scanning the possible values for i and j and computing the objective function.
Note that this procedure will only work when the proportion of text tokens in the noncontent section is lower than the proportion of tags,
which is not the case for the web page in Figure 3.17.
Pinto et al. (2002) modified this approach to use a text window to search for low-slope sections of the document slope curve.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

whereN คือ จำนวนของโทเค็นในหน้า นี้สามารถทำได้ง่าย ๆ โดยการสแกนค่าของ i และ j เป็นไปได้ และในการคำนวณฟังก์ชันวัตถุประสงค์ หมายเหตุว่ากระบวนการนี้จะทำงานเมื่อสัดส่วนของโทเค็นของข้อความในส่วน noncontent ต่ำกว่าสัดส่วนของแท็ก ซึ่งไม่ใช่กรณีสำหรับเว็บเพจในรูปที่ 3.17 Pinto et al. (2002) ปรับเปลี่ยนวิธีการนี้ใช้หน้าต่างข้อความเพื่อค้นหาส่วนลาดต่ำของโค้งลาดชันเอกสาร

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

whereN เป็นจำนวนของสัญญาณในหน้า.
นี้สามารถทำได้ง่ายๆโดยการสแกนค่าเป็นไปได้สำหรับ i และ j และการคำนวณฟังก์ชันวัตถุประสงค์.
โปรดทราบว่าขั้นตอนนี้จะทำงานเฉพาะเมื่อสัดส่วนของสัญญาณข้อความในส่วน noncontent ที่ต่ำกว่า สัดส่วนของแท็ก
ซึ่งเป็นกรณีที่ไม่หน้าเว็บในรูปที่ 3.17.
ปินโต, et al (2002) การปรับเปลี่ยนวิธีการนี้จะใช้หน้าต่างข้อความเพื่อค้นหาส่วนต่ำลาดชันของเส้นโค้งลาดชันเอกสาร

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

wheren คือจำนวนของสัญญาณในหน้านี้สามารถทำได้โดยเพียงแค่การสแกนค่าที่เป็นไปได้สำหรับฉัน และ เจ และการคำนวณฟังก์ชันวัตถุประสงค์โปรดทราบว่าขั้นตอนนี้จะทำงานเมื่อสัดส่วนของข้อความสัญญาณในส่วน noncontent ต่ำกว่าสัดส่วนของแท็กซึ่งไม่ใช่กรณีสำหรับหน้าเว็บในรูป ) .ปิ่นโต et al . ( 2002 ) ปรับเปลี่ยนวิธีการนี้จะใช้หน้าต่างข้อความที่จะค้นหาส่วนลาดต่ำของเอกสารความลาดโค้ง