Finally, Stoodt (1972, as cited in

Finally, Stoodt (1972, as cited in Innajih, 2007), found a significant relationship between reading comprehension and the comprehension of discourse markers. In discourse comprehension, the ESP students may be faced with the texts, which contain cohesive relationships, and their lack of knowledge about cohesive ties may hinder their interpretation and comprehension of the text. As we observed in literature, the emphasis in reading discussions was mostly on the linguistic side of the phenomena on the one hand, and mental process on the other.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในที่สุด Stoodt (1972 อ้างใน Innajih, 2007 เป็น), พบความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญระหว่างความเข้าใจในการอ่านและความเข้าใจของวาทกรรมหมาย ในความเข้าใจวาทกรรม ESP นักเรียนอาจต้องประสบกับข้อความ ซึ่งประกอบด้วยความสัมพันธ์ที่เหนียว และการขาดความรู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่เหนียวอาจเป็นอุปสรรคต่อการตีความและจับใจความของข้อความ ก็ในวรรณคดี เน้นในการสนทนาการอ่านเป็นส่วนใหญ่ด้านภาษาของปรากฏการณ์หนึ่ง และกระบวนการทางจิตใจอื่น ๆ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สุดท้าย Stoodt (1972 ตามที่อ้างถึงใน Innajih, 2007) พบว่ามีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญระหว่างเข้าใจในการอ่านและความเข้าใจของเครื่องหมายวาทกรรม ในความเข้าใจของวาทกรรมนักเรียน ESP อาจจะประสบกับตำราซึ่งมีความสัมพันธ์ที่เหนียวและพวกเขาขาดความรู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์เหนียวอาจขัดขวางการตีความและความเข้าใจของพวกเขาของข้อความ ในฐานะที่เราตั้งข้อสังเกตในวรรณคดีเน้นในการอภิปรายการอ่านเป็นส่วนใหญ่อยู่ทางด้านภาษาของปรากฏการณ์บนมือข้างหนึ่งและกระบวนการทางจิตในที่อื่น ๆ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในที่สุด stoodt ( 1972 , อ้างใน innajih , 2550 ) พบว่า ความสัมพันธ์ระหว่างความเข้าใจในการอ่าน และความเข้าใจของดัชนีปริจเฉท . ในวาทกรรมเพื่อความเข้าใจ , ESP นักเรียนอาจจะเผชิญกับข้อความ ซึ่งมีความสัมพันธ์ที่น่าสนใจ และการขาดความรู้เกี่ยวกับโครงสร้างความสัมพันธ์ที่อาจขัดขวางการตีความของพวกเขาและความเข้าใจของข้อความ ที่เราพบในวรรณคดี เน้นในการสนทนาการอ่านเป็นส่วนใหญ่ในด้านภาษาศาสตร์ของปรากฏการณ์บนมือข้างหนึ่งและกระบวนการทางจิตในอื่น ๆ