A middle-aged man, who was standing

A middle-aged man, who was standing to the side, glared at him and yelled. This middle-aged man was incomparably rough looking; it was clear that this person was the uncouth fellow, Da Dan.

Even though this disciple was glared at, there were other disciples that curiously asked:

“Uncle, what happened at that time? What happened that night?”

This uncle, questioned by the disciples, gave in; he contemplated for a moment, shook his head, and then he said:

“The Ghost Pavilion has ghosts, frightening ghosts; maybe not just one, but many many ghosts.”

A disciple curiously asked.

“Li Qi Ye going to meditate in the Ghost Pavilion; how long do you guys think he can last?

A disciple exclaimed.

“I’m willing to bet that he won’t make it through one night.”

Another disciple coldly scowled, and he said:

“A whole night, hmph! From my perspective, I’m afraid that once night falls, he would have peed in his pants. The Ghost Pavilion is not only notorious in name; there are definitely ghosts at that place!”

At the moment, many disciples in the sect were gossipping. All of them said that there were ghosts there, but what type of ghosts, no one knew.

In fact, regarding the Ghost Pavilion, even the protectors were afraid of it. First Elder went to the Ghost Pavilion once, and he tried to use his Emperor merit law to suppress the ominous aura of the Ghost Pavilion. No one could believe that on the second day, the first elder, wornout, came out of the pavilion. He couldn’t suppress the evil aura in the Ghost Pavilion.

Since then, no protectors or disciples dared to not know their own strengths and venture into the Ghost Pavilion. Originally, the world’s spirit energy of this peak was quite good, but because of the Ghost Pavilion rumours, no one was willing to come to this peak to cultivate.

Currently, this peak was the scene of declination. The surrounding ten miles were declining as well. Even the flowers and trees were sickly looking; it was as if they were affected by the ominous aura of the pavilion.

It was said that a few ten thousand years ago, the disciples of this peak formed their own branch. This peak used to be prosperous for generations. However, later on it became haunted; this place started to decline until no disciples were willing to step into the place again.

When Li Qi Ye was standing on top of the peak, basking in the view of the mountains and rivers in this area, he couldn’t help but become solemn. This fading scenery was not only because no disciples were willing to go there, but one could faintly feel uneasy; it was like there was something below, exerting evil energy.

In the last ten thousand years, all of the past disciples of the sect considered this place to be ominous; it seemed like this was not without reasons.

Also standing next to Li Qi Ye, Nan Huai Ren felt a cold chill behind his back, as if a ghost was staring at him. It gave him sudden goosebumps; if Li Qi Ye wasn’t with him, he would never be willing to go to this evil place.

Regaining his wits, Li Qi Ye observed the big pavilion on the peak; the building named ‘Ghost Pavilion’ had began to rot. Looking at the pavilion in front of his eyes, he couldn’t help but to gently sigh.

The Ghost Pavilion, in reality, was meticulously crafted with many interesting charms. It was built on top of a peak; it was as if it was part of nature, causing others to feel that it and the peak was integrated into one.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

คนวัยกลางคน ที่กำลังยืนอยู่ด้านข้าง glared ที่เขา และตะโกน วัยกลางคนคนนี้กำลังมองหยาบเหลือใจ เห็นได้ชัดว่า คนนี้เป็นคนซุ่มซ่าม แดนดาแม้ว่าศิษย์นี้ถูก glared ที่ มีสาวกอื่น ๆ ที่ถามซอกแซก:"ลุง ในเวลานั้นเกิดอะไรขึ้น คืนนั้นเกิดอะไรขึ้น"ลุงนี้ โดยสาวก ให้ เขาครุ่นคิดถึงครู่ รักหัวของเขา และจากนั้นเขากล่าวว่า:"ศาลาผีมีผี กลัวผี อาจจะไม่ใช่เพียงหนึ่ง แต่ผีหลายหลาย"ลูกศิษย์ถามซอกแซก"หลี่ฉีเย่ไปนั่งสมาธิในศาลาผี ระยะพวกอะไรเขาสามารถล่าสุดศิษย์ exclaimed"ผมยินดีที่เดิมพันว่า เขาจะไม่ทำให้มันผ่านคืนหนึ่ง"ศิษย์อื่นจ้างงาน scowled และเขากล่าวว่า:"ตลอดทั้งคืน hmph จากมุมมองของฉัน ฉันกลัวว่า เมื่อคืน falls เขาจะได้ด่วนในกางเกงของเขา ศาลาผีไม่ฉาวโฉ่ในชื่อ แน่นอนมีผีที่"ในขณะนี้ ลูกศิษย์มากมายในนิกายถูก gossipping เขาบอกว่า มีผีมี แต่ผี ชนิดใดที่ไม่มีใครรู้ในความเป็นจริง เกี่ยวกับศาลาผี แม้ป้องกันได้กลัวมัน แรกพี่ไปศาลาผีครั้ง และเขาพยายามที่จะใช้กฎหมายบุญพระจักรพรรดิเพื่อระงับกลิ่นอายเป็นลางไม่ดีศาลาผี ไม่มีใครจะเชื่อว่า ในวันสอง ผู้สูงอายุครั้งแรก wornout มาจากศาลา เขาไม่สามารถระงับกลิ่นอายความชั่วร้ายในศาลาผีตั้งแต่นั้น ป้องกันหรือสาวกไม่กล้าไม่รู้ว่าจุดแข็งของตนเอง และร่วมเข้าไปในศาลาผี เดิม พลังงานวิญญาณโลกของยอดนี้ค่อนข้างดี แต่เนื่องจากข่าวลือผีพาวิลเลี่ยน ไม่มีใครเต็มใจที่จะมาถึงนี้สูงสุดในการเพาะปลูกในปัจจุบัน จุดสูงสุดนี้คือ ฉากของปฏิเสธ รอบสิบไมล์ถูกปฏิเสธเช่นกัน แม้ดอกไม้และต้นไม้ได้ sickly มันก็เป็นถ้าพวกเขาได้รับผลจากกลิ่นอายของศาลาเป็นลางไม่ดีก็กล่าวว่า กี่พันปีก่อน สาวกของยอดนี้เกิดสาขาของตนเอง ช่วงนี้ใช้เฟื่องรุ่น อย่างไรก็ตาม ในภายหลังมันกลายเป็นบ้านผีสิง สถานที่แห่งนี้เริ่มลดลงจนกระทั่งไม่มีสาวกก็ยินดีที่จะก้าวเข้าไปสถานที่อีกครั้งเมื่อหลี่ฉีเย่กำลังยืนอยู่บนจุดสูงสุด ท่ามกลางธรรมชาติของภูเขาและแม่น้ำในบริเวณนี้ เขาไม่สามารถช่วย แต่กลายเป็นขรึม ฉากนี้สีซีดจางไม่เท่า เพราะไม่มีสาวกก็ยินดีที่จะไป แต่หนึ่งอาจหวานรู้สึกไม่สบายใจ มันก็เหมือนมีบางสิ่งบางอย่างที่ด้านล่าง พลังงานชั่วร้ายพยายามในหมื่นปี ทั้งหมดของลูกศิษย์มานิกายถือว่าสถานที่แห่งนี้จะเป็นลางไม่ดี ดูเหมือนว่าเสร็จ โดยไม่มีเหตุผลยัง ยืนอยู่ถัดจากหลี่ฉีเย่ Ren ห้วยน่านรู้สึกหนาวเย็นที่หลังของเขา เป็นถ้าผีถูกจ้องเขา ให้เขาขนลุกทันที ถ้าหลี่ฉีเย่ไม่ได้กับเขา เขาไม่เคยจะยินดีที่ไปสถานที่แห่งความชั่วร้ายนี้หลี่ฉีเย่ฟื้นปัญญาของเขา สังเกตศาลาใหญ่บนยอด อาคารที่ชื่อว่า 'ศาลาผี' ก็เริ่มเน่า มองที่ศาลาหน้าตาของเขา เขาไม่สามารถช่วยแต่การถอนหายใจเบา ๆศาลาผี ในความเป็นจริง ถูกล้ำสมัยกับเสน่ห์ที่น่าสนใจมากมาย สร้างขึ้นบนจุดสูงสุด ว่า มันเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ ทำให้ผู้อื่นรู้สึกว่า มันและยอดรวมเข้าได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มีชายวัยกลางคนที่ยืนไปด้านข้างจ้องที่เขาและตะโกน ชายวัยกลางคนนี้เป็นเหลือใจหยาบมอง; มันเป็นที่ชัดเจนว่าคนคนนี้เป็นเพื่อนแปลกดาแดน.

แม้ว่าสาวกนี้ที่จ้องที่มีสาวกอื่น ๆ ที่อยากรู้อยากเห็นถาม:

"ลุงสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้น? สิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนั้น "

ลุงนี้ถามสาวกให้ใน; เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งส่ายหัวและจากนั้นเขากล่าวว่า:

"ผีพาวิลเลี่ยนมีผีผีที่น่ากลัว; อาจจะไม่เพียง แต่หลายผีมาก ".

ศิษย์ถามซอกแซก.

" หลี่ฉีเจ้าจะไปนั่งสมาธิในพาวิลเลี่ยนผี; ? นานแค่ไหนที่พวกคุณคิดว่าเขาสามารถสุดท้าย

. ศิษย์อุทาน

". ฉันยินดีที่จะเดิมพันว่าเขาจะไม่ทำให้มันผ่านคืนหนึ่ง"

ศิษย์อีกอย่างเย็นชา scowled และเขากล่าวว่า:

"คืนทั้งฮึ่ม! จากมุมมองของฉันฉันกลัวว่าเมื่อคืนตรงเขาจะได้ปี๊ดในกางเกงของเขา ผีพาวิลเลี่ยนไม่ได้เป็นเพียงฉาวโฉ่ในชื่อ; มีแน่นอนผีในสถานที่นั้น! "

ในขณะที่สาวกจำนวนมากในนิกายถูก gossipping ทั้งหมดของพวกเขาบอกว่ามีผีมี แต่สิ่งที่ประเภทของผีไม่มีใครรู้.

ในความเป็นจริงเกี่ยวกับพาวิลเลี่ยนผีแม้ป้องกันได้กลัวของมัน พี่ที่แรกที่ไปพาวิลเลี่ยนผีครั้งและเขาพยายามที่จะใช้กฎหมายบุญจักรพรรดิในการปราบปรามกลิ่นอายเป็นลางไม่ดีของพาวิลเลี่ยนผี ไม่มีใครอยากจะเชื่อว่าในวันที่สองพี่แรก wornout ออกจากศาลามา เขาไม่สามารถปราบปรามกลิ่นอายความชั่วร้ายในพาวิลเลี่ยนผี.

ตั้งแต่นั้นมาไม่มีการป้องกันหรือสาวกกล้าที่จะไม่ทราบว่าจุดแข็งของตัวเองและร่วมเป็นพาวิลเลี่ยนผี แต่เดิมพลังงานจิตวิญญาณของโลกจากยอดเขานี้เป็นสิ่งที่ดีมาก แต่เพราะข่าวลือผีพาวิลเลี่ยนไม่มีใครก็เต็มใจที่จะมาถึงยอดเขานี้เพื่อปลูกฝัง.

ปัจจุบันยอดเขานี้เป็นฉากปฏิเสธ รอบสิบไมล์ถูกลดลงเช่นกัน แม้ดอกไม้และต้นไม้ถูกเผือดมอง; มันก็เหมือนกับว่าพวกเขาได้รับผลกระทบจากกลิ่นอายเป็นลางไม่ดีของศาลา.

มันก็บอกว่าไม่กี่หมื่นปีที่ผ่านมาสาวกของยอดเขานี้ที่เกิดขึ้นในสาขาของตัวเอง ยอดเขานี้เคยเป็นที่เจริญรุ่งเรืองสำหรับคนรุ่น แต่ต่อมามันก็กลายเป็นผีสิง; สถานที่แห่งนี้เริ่มลดลงจนสาวกไม่เต็มใจที่จะก้าวเข้ามาในสถานที่อีกครั้ง.

เมื่อหลี่ฉีเจ้าก็กำลังยืนอยู่ด้านบนของยอดอาบแดดในมุมมองของภูเขาและแม่น้ำในพื้นที่นี้เขาอาจจะไม่ได้ช่วย แต่กลายเป็นเคร่งขรึม . ทิวทัศน์สีซีดจางนี้ไม่ได้เป็นเพียงเพราะเหล่าสาวกไม่เต็มใจที่จะไปที่นั่น แต่แผ่วเบาจะรู้สึกไม่สบายใจ; มันเป็นเหมือนมีอะไรบางอย่างด้านล่างพยายามพลังงานความชั่วร้าย.

ในช่วงสิบพันปีทั้งหมดของสาวกที่ผ่านมาของนิกายถือว่าเป็นสถานที่แห่งนี้จะเป็นลางไม่ดี; ก็ลำบากเช่นนี้ไม่ได้โดยไม่มีเหตุผล.

นอกจากนี้ยังยืนอยู่ข้างหลี่ฉีเจ้าน่านห้วย Ren รู้สึกหนาวเย็นอยู่ข้างหลังเขาราวกับผีถูกจ้องมองมาที่เขา มันทำให้เขาขนลุกฉับพลัน; . ถ้าหลี่ฉีเจ้าไม่ได้อยู่กับเขาเขาจะไม่เต็มใจที่จะไปยังสถานที่ที่ความชั่วร้ายนี้

กลับคืนมาปัญญาของเขาหลี่ฉีเจ้าเห็นศาลาขนาดใหญ่บนยอดเขา; อาคารที่มีชื่อว่า 'ผีพาวิลเลี่ยน' ได้เริ่มที่จะเน่า มองไปที่ศาลาในสายตาของเขาไม่สามารถช่วย แต่ถอนหายใจเบา ๆ .

ผีพาวิลเลี่ยนในความเป็นจริงที่ถูกสร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันด้วยเสน่ห์ที่น่าสนใจมากมาย มันถูกสร้างขึ้นบนยอด; มันก็เหมือนกับว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติที่ก่อให้เกิดคนอื่น ๆ รู้สึกว่ามันและจุดสูงสุดที่ถูกรวมเข้าเป็นหนึ่งเดียว

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ชายวัยกลางคนที่ยืนอยู่ข้างๆไป ถลึงตามองเขา และตะโกน ชายวัยกลางคนนี้เหลือใจ คร่าวๆดู มันเป็นที่ชัดเจนว่าคนๆนี้เป็นคนที่แปลก ดา แดนแม้ว่าลูกศิษย์นี้ถูกจ้องมอง มีสาวกอื่น ๆ ที่ถามซอกแซก" ท่านลุง เกิดอะไรขึ้นในตอนนั้น คืนนั้นเกิดอะไรขึ้น "คุณลุงถามโดยสาวก ให้ ใน เขาครุ่นคิดสักครู่ ส่ายหัว แล้วบอกว่า" ผี ศาลา มีผี น่ากลัว ผี อาจจะไม่ใช่แค่คนเดียว แต่ผีหลายหลาย .สาวกซอกแซกถาม" หลี่ ฉี ท่านจะนั่งสมาธิในซุ้มผี นานเท่าไหร่พวกเธอคิดว่า พวก เขาสามารถ สุดท้ายศิษย์อุทาน" ฉันพนันได้ว่าเขาจะไม่ทำให้มันผ่านคืนหนึ่ง "อีกอย่าง สาวก หน้าบึ้ง และเขากล่าวว่า :" คืนทั้งหมด ฮึ่ม ! จากมุมมองของผม ผมกลัวว่า เมื่อตกกลางคืน เขาจะฉี่ในกางเกงของเขา ผีศาลาไม่ได้เป็นเพียงที่มีชื่อ มีแน่นอน ผี ในที่นั้น "ตอนนี้ สาวกหลายคนในพรรคก็ gossipping . พวกเขาทั้งหมดบอกว่ามีผีที่นั่น แต่ชนิดของผี ไม่มีใครรู้ในความเป็นจริง , เกี่ยวกับผี พาวิลเลี่ยน แม้ป้องกันกลัวมัน ก่อนเสด็จไปผีศาลาอีกครั้ง เขาพยายามที่จะใช้กฎหมายเพื่อปราบปรามของเขาจักรพรรดิบุญราศีลางร้ายของผี Pavilion ไม่มีใครเชื่อว่าในวันที่สอง เป็นผู้อาวุโส wornout ออกมาจากศาลา เขาไม่สามารถปราบปรามกลิ่นอายความชั่วร้ายในผี Pavilionเพราะงั้น ไม่ป้องกัน หรือสาวกล้าไม่รู้จุดแข็งของตนเอง และร่วมเป็นผี Pavilion เดิมของโลกพลังงานจิตวิญญาณของยอดเขานี้ได้ค่อนข้างดี แต่เพราะผี พาวิลเลี่ยน ข่าวลือ ไม่มีใครเต็มใจมาจุดสูงสุดนี้ปลูกปัจจุบัน ยอดนี้เป็นฉากของความเสื่อม รอบสิบไมล์ก็ลดลงเช่นกัน แม้แต่ดอกไม้และต้นไม้ที่ดู มันเป็นถ้าพวกเขาได้รับผลกระทบจากออร่าน่ากลัวของศาลามันบอกว่าไม่กี่หมื่นปี สาวกของยอดเขานี้ก่อตั้งสาขาของตนเอง ยอดเขานี้เคยเจริญมาหลายชั่วอายุคน อย่างไรก็ตาม ต่อมาเมื่อมันกลายเป็นผีสิง ; สถานที่นี้เริ่มลดลงจนไม่มีสาวกเต็มใจที่จะก้าวเข้าสู่สถานที่อีกครั้งเมื่อหลี่ฉี ท่านยืนอยู่บนยอดเขา basking ในมุมมองของภูเขาและแม่น้ำ ในพื้นที่นี้ เขาไม่สามารถช่วย แต่กลายเป็นเคร่งขรึม นี้จางหายไปวิวก็ไม่เพียงเพราะไม่มีสาวกเต็มใจที่จะไปที่นั่น แต่หนึ่งอาจแผ่วเบารู้สึกไม่สบายใจ มันเหมือนมีอะไรบางอย่างข้างล่างความร้ายแรงในช่วงสิบกว่าปี ทั้งหมดของเหล่าสาวกของอดีตพรรคถือว่า สถานที่แห่งนี้จะเกิดอาเพศ ดูเหมือนว่านี้ไม่ได้โดยไม่มีเหตุผลยังยืนอยู่ข้างๆ หลี่ ฉี เจ้าน่านห้วยเรนรู้สึกความหนาวเย็น ข้างหลังของเขา เช่น ถ้าผีจ้องมาที่เขา มันทำให้เขาขนลุกทันที ถ้าหลี่ฉีท่านไม่ได้กับเขา เขาไม่เคยเต็มใจที่จะไปที่ชั่วร้ายนี้ฟื้นสติ หลี่ฉีจงสังเกตศาลาขนาดใหญ่ บนยอดอาคารศาลา ; ชื่อ " ผี " ได้เริ่มที่จะเน่า มองไปที่ศาลาในสายตาของเขา เขาไม่สามารถช่วย แต่ให้ค่อยๆ ถอนหายใจผีศาลาในความเป็นจริงถูกตกแต่งอย่างพิถีพิถัน ด้วยเสน่ห์ที่น่าสนใจมากมาย มันถูกสร้างขึ้นที่ด้านบนของยอดเขา มันราวกับว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ ทำให้ผู้อื่นรู้สึกว่ามัน และ สูงสุดรวมเป็นหนึ่ง