In a remote village in northern Lao

In a remote village in northern Lao, Keupkku settles down to watch the evening news on his new color television. On the other side of the room, two of his daughters turn on the lights to continue their studies.

Just a month ago this would have been impossible. But a newly installed 7.5 kilowatt hydropower turbine now supplies electricity to Keupkku and his ethnic Hmong community of 290 people.
Highlights

Lao PDR has the highest per capita water supply in Asia, with a total surface water area of more than 55,000 cubic metres squared.
Economic activity linked to natural resources in Lao PDR threatens the local environment, causing deforestation and soil erosion.

“Thanks to the electricity from the hydropower plant my daughters can now enjoy studying late at night,” says Keupkku.

Construction of the hydropower plant was funded by the Global Environment Facility Small Grants Programme (GEF SGP), which is implemented by the United Nations Development Programme (UNDP).

The hydropower plant initiative was launched by the Lao government in September 2009 and has a total budget of US$1.29m.

GEF SGP is aimed at supporting Millennium Development Goal 7: to ensure environmental sustainability through directly supporting community-level initiatives for environmental protection and sustainable rural development. Since its inception, it has awarded at least 17 grants – of US$20,000 on average – to community and not-for-profit organisations.

Yet, according to Bruno Cammaert, head of the UNDP Environment Programme in Lao PDR, the success of the hydropower plant initiative in Houay Ngou village would have been impossible without the dedicated work of local community members who helped, “to organize and complete the project”. It was they who first proposed the construction of a micro hydropower system to Sayaboury province authorities and then secured funding for the project from the GEF SGP.

Community members also volunteered to construct a small water-catchment area, install pipes and transport building materials.

Since its completion, the hydropower system has had a profound impact on the lives of the villagers, who have limited options for making a living.

Most residents are farmers, cultivating rice, animals and non-timber forest materials for food and medicine. However, the continued degradation of forest and agricultural lands is threatening the natural environment upon which their livelihoods rely.

Furthermore, the village’s remote location makes it difficult for these villagers to secure financial and political support.

But with access to power 24 hours a day, villagers like Keupkku are now able to save both time and money.

“Before, we used to tap resin from trees in the forest or, when this was not available, buy expensive oil from the distant market to light a candle at night,” says Keupkku. “But the hydropower has changed our lives; we no longer need to do this.”

Keupkku’s wife, like many women in the village, can now use her evenings to produce more handicrafts.

Along with these direct benefits, the hydropower project has also helped to protect the environment. Fewer trees are being cut down since villagers can now use electric-powered, instead of wood-burning, stoves, and the forest has been designated a protected area, since it holds the water needed to produce the hydropower.

The preservation of trees also allows rains from the wet season to be stored in the forest all year round.

These multiple benefits of the hydropwer plant impact the entire Houay Ngou community, which is fully engaged in ensuring the project’s sustainability. Village head, Somvang Lee, is proud of what the villagers have achieved and believes their training – in project management and building technical capacity – has significantly contributed to the hydropower system’s success.

Each household also pays 6,000 Lao Kip (about US$0.75) per month to maintain the hydropower turbine and protect the forest.

“Everyone is responsible for refraining from cutting down or burning the trees, so that we generate enough electricity for everyone and for generations to come” said Lee.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในหมู่บ้านไกลในลาวเหนือ Keupkku ชำระลงดูข่าวตอนเย็นบนโทรทัศน์ของเขาใหม่ อีกด้านหนึ่งของห้องพัก สองลูกสาวเปิดไฟเมื่อนักศึกษาเพียงเดือนที่ผ่านมานี้จะได้รับเป็นไปไม่ได้ แต่เป็นกังหันพลังงานน้ำ 7.5 กิโลวัตต์ติดตั้งใหม่ตอนนี้อุปกรณ์ไฟฟ้า Keupkku และชุมชนม้งชาวเขา 290 คนไฮไลท์ลาวสูงสุดต่อหัวน้ำประปาในเอเชีย มีพื้นที่ผิวน้ำรวมกว่า 55000 ลูกบาศก์เมตรที่ลอการิทึมได้กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เชื่อมโยงกับทรัพยากรธรรมชาติในประเทศลาวคุกสภาพแวดล้อมท้องถิ่น ก่อให้เกิดการพังทลายของดินและตัดไม้ทำลายป่า"ด้วยระบบไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้า ลูกสาวของฉันตอนนี้เพลินเรียนดึก กล่าวว่า Keupkkuก่อสร้างโรงไฟฟ้าได้รับการสนับสนุน โดยส่วนกลางโครงการสิ่งแวดล้อมสิ่งอำนวยความสะดวกขนาดเล็กมอบ (GEF SGP), ซึ่งจะดำเนินการโดยโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP)โครงการโรงไฟฟ้าเปิด โดยรัฐบาลลาวในเดือน 2009 กันยายน และได้รับงบประมาณรวมของสหรัฐอเมริกา $1.29 เมตรGEF SGP มุ่งสนับสนุน 7 เป้าหมายการพัฒนามิลเลนเนียม: ให้ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมผ่านการสนับสนุนโครงการระดับชุมชนสำหรับป้องกันสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาชนบทโดยตรง ตั้งแต่ มันได้รางวัลทุนน้อย 17 – ของสหรัฐอเมริกา $20000 โดยเฉลี่ย – ให้องค์กรชุมชนและไม่ใช่สำหรับกำไรยัง ตาม Bruno Cammaert หัวหน้าโครงการสิ่งแวดล้อม UNDP ในประเทศลาว ความสำเร็จของโครงการโรงไฟฟ้าในหมู่บ้าน Houay Ngou จะได้ไม่ โดยเฉพาะงานของสมาชิกภายในชุมชนที่ช่วยเหลือ, "การจัดระเบียบ และดำเนินการโครงการ" มันเป็นพวกเขาที่แรก เสนอราคาการก่อสร้างระบบไฟฟ้าขนาดเล็กไปไชยบุรีจังหวัดหน่วยงาน และความปลอดภัยการจัดหาเงินทุนสำหรับโครงการจาก GEF SGPสมาชิกในชุมชนยัง volunteered เพื่อสร้างพื้นที่น้ำลุ่มน้ำขนาดเล็ก ติดตั้งท่อและการขนส่งวัสดุก่อสร้างตั้งแต่เสร็จ ระบบไฟฟ้ามีผลกระทบอย่างลึกซึ้งในชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้าน ที่มีตัวเลือกสำหรับการทำมาหากินคนส่วนใหญ่เป็นเกษตรกร เพาะปลูกข้าว สัตว์ และวัสดุไม่ใช่ไม้ป่าสำหรับอาหารและยา อย่างไรก็ตาม ย่อยสลายต่อป่าและพื้นที่เกษตรกรรมถูกคุกคามสภาพแวดล้อมธรรมชาติที่ซึ่งวิถีชีวิตของพวกเขาอาศัยนอกจากนี้ เดอะวิลเลจไกลยากสำหรับชาวบ้านเหล่านี้เพื่อสนับสนุนทางการเงิน และการเมืองแต่ถึงพลังงานตลอด 24 ชั่วโมง ชาวบ้านเช่น Keupkku ก็สามารถประหยัดเงินและเวลา"ก่อน เราใช้เคาะยางจากต้นไม้ในป่า หรือ เมื่อนี้ไม่มี ซื้อน้ำมันราคาแพงจากตลาดห่างไกลกับแสงหิ่งห้อยในยามค่ำคืน กล่าวว่า Keupkku "แต่พลังงานน้ำมีการเปลี่ยนแปลงชีวิตของเรา เราไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้"ภรรยาของ Keupkku เช่นผู้หญิงในหมู่บ้าน สามารถนำเย็นของเธอในการผลิตหัตถกรรมเพิ่มเติมพร้อมสิทธิประโยชน์เหล่านี้โดยตรง โครงการพลังงานน้ำได้ช่วยให้การปกป้องสิ่งแวดล้อมยัง ต้นไม้น้อยจะถูกตัดทอนเนื่องจากชาวบ้านสามารถใช้ไฟฟ้าขับเคลื่อน แทนไม้เขียน ปิ้ง และป่ากำหนดตั้งป้องกันได้ เนื่องจากจะเก็บน้ำจำเป็นสำหรับการผลิตไฟฟ้า อนุรักษ์ต้นไม้ยังช่วยให้ฝนจากฤดูฝนไปเก็บในป่าตลอดทั้งปีคุณประโยชน์เหล่านี้หลายโรงงาน hydropwer ส่งผลกระทบต่อชุมชน Houay Ngou ทั้งหมด ซึ่งมีหมั้นทั้งหมดในความยั่งยืนของโครงการ หัวหน้าหมู่บ้าน ลี Somvang สิ่งที่ชาวบ้านมีความภูมิใจ และเชื่อการอบรมบริหารโครงการและอาคารผลิตเทคนิค – มีส่วนมากไปสู่ความสำเร็จของระบบไฟฟ้าแต่ละครัวเรือนจ่าย 6000 ลาวกีบ (เกี่ยวกับสหรัฐอเมริกา $0.75) ต่อเดือนเพื่อรักษากังหันพลังงานน้ำ และปกป้องป่า"ทุกคนรับผิดชอบละเว้นตัดลง หรือเผาต้นไม้ เพื่อว่าเราสร้างกระแสไฟฟ้าเพียงพอ สำหรับทุกคน และ สำหรับรุ่นมา" กล่าวว่า ลี

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในหมู่บ้านที่ห่างไกลในภาคเหนือของลาว Keupkku settles ลงไปดูข่าวภาคค่ำทางโทรทัศน์สีใหม่ของเขา ในอีกด้านหนึ่งของห้องที่สองของลูกสาวของเขาเปิดไฟเพื่อดำเนินการต่อการศึกษาของพวกเขา. เพียงเดือนที่ผ่านมานี้จะได้รับเป็นไปไม่ได้ แต่ที่ติดตั้งใหม่กังหันพลังน้ำ 7.5 กิโลวัตต์ขณะนี้วัสดุกระแสไฟฟ้าให้กับ Keupkku และชุมชนม้งชาติพันธุ์ของเขา 290 คน. ไฮไลท์สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวมีความสูงที่สุดต่อน้ำประปาหัวในเอเชียที่มีพื้นผิวรวมพื้นที่น้ำกว่า 55,000 ลูกบาศก์เมตรยกกำลังสอง. เศรษฐกิจ กิจกรรมที่เชื่อมโยงกับทรัพยากรทางธรรมชาติในประเทศลาวขู่ว่าสภาพแวดล้อมในท้องถิ่นที่ก่อให้เกิดการทำลายป่าและการพังทลายของดิน. "ขอบคุณที่การผลิตไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำที่ลูกสาวของฉันตอนนี้สามารถเพลิดเพลินไปกับการศึกษาในช่วงดึก" Keupkku. กล่าวว่าการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำได้รับการสนับสนุนโดยแกรนต์ขนาดเล็กสิ่งแวดล้อมโลกโครงการ (GEF SGP) ซึ่งดำเนินการโดยโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP). ความคิดริเริ่มโรงไฟฟ้าพลังน้ำได้รับการเปิดตัวโดยรัฐบาลลาวในเดือนกันยายน 2009 และมีงบประมาณทั้งสิ้น US $ 1.29m. GEF SGP มีวัตถุประสงค์ที่จะสนับสนุนการพัฒนาแห่งสหัสวรรษเป้าหมายที่ 7: ให้มีความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมผ่านโดยตรงสนับสนุนโครงการระดับชุมชนเพื่อการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาชนบทอย่างยั่งยืน นับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นจะได้รับรางวัลอย่างน้อย 17 ทุน - US $ 20,000 เฉลี่ย - ให้กับชุมชนและองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร. แต่ตามที่บรูโน่ Cammaert หัวของ UNDP โครงการสิ่งแวดล้อมในประเทศลาว, ความสำเร็จของการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำที่ ความคิดริเริ่มของพืชในหมู่บ้านห้วย Ngou จะเป็นไปไม่ได้โดยไม่ต้องทำงานที่ทุ่มเทของสมาชิกในชุมชนท้องถิ่นที่ช่วยให้ "การจัดระเบียบและดำเนินการโครงการ" มันเป็นพวกเขาเป็นคนแรกที่นำเสนอการก่อสร้างระบบผลิตไฟฟ้าพลังน้ำขนาดเล็กเพื่อ Sayaboury เจ้าหน้าที่จังหวัดและเงินทุนที่มีความปลอดภัยแล้วสำหรับโครงการจาก SGP GEF. สมาชิกของชุมชนยังอาสาที่จะสร้างพื้นที่น้ำที่กักเก็บน้ำขนาดเล็กติดตั้งท่อและวัสดุก่อสร้างการขนส่ง. ตั้งแต่ เสร็จระบบไฟฟ้าพลังน้ำมีผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านที่มีตัวเลือกที่ จำกัด สำหรับการทำมาหากิน. ที่อาศัยอยู่ส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรปลูกข้าวสัตว์และไม่ใช่วัสดุไม้ป่าอาหารและยา อย่างไรก็ตามการย่อยสลายอย่างต่อเนื่องของดินแดนป่าไม้และการเกษตรเป็นอันตรายสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติซึ่งวิถีชีวิตของพวกเขาพึ่งพา. นอกจากนี้สถานที่ห่างไกลของหมู่บ้านทำให้ยากสำหรับชาวบ้านเหล่านี้เพื่อรักษาความปลอดภัยการสนับสนุนทางการเงินและการเมือง. แต่มีการเข้าถึงพลังงาน 24 ชั่วโมงต่อวัน ชาวบ้านเช่น Keupkku ขณะนี้สามารถประหยัดทั้งเวลาและเงิน. "ก่อนที่เราใช้ในการแตะยางจากต้นไม้ในป่าหรือเมื่อสิ่งนี้ก็ไม่สามารถใช้ได้, ซื้อน้ำมันราคาแพงจากตลาดที่ห่างไกลที่จะจุดเทียนในเวลากลางคืน" กล่าวว่า Keupkku "แต่พลังน้ำที่มีการเปลี่ยนแปลงชีวิตของเรา; เราไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้. "ภรรยาของKeupkku เช่นผู้หญิงหลายคนในหมู่บ้านสามารถใช้ช่วงเย็นของเธอในการผลิตงานหัตถกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย. พร้อมกับผลประโยชน์โดยตรงเหล่านี้โครงการไฟฟ้าพลังน้ำยังมีส่วนช่วยในการรักษาสิ่งแวดล้อม ต้นไม้น้อยลงจะถูกตัดลงตั้งแต่ชาวบ้านสามารถใช้ไฟฟ้าขับเคลื่อนแทนไม้เผาเตาและป่าไม้ที่ได้รับการกำหนดให้เป็นพื้นที่คุ้มครองเพราะมันถือน้ำที่จำเป็นในการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำ. การเก็บรักษาของต้นไม้ยังช่วยให้ ฝนจากฤดูฝนที่จะเก็บไว้ในป่าตลอดทั้งปี. เหล่านี้ได้รับประโยชน์หลายโรงงาน hydropwer ส่งผลกระทบต่อทั้งชุมชนห้วย Ngou ซึ่งมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ในการสร้างความมั่นใจการพัฒนาอย่างยั่งยืนของโครงการ หัวหน้าหมู่บ้าน Somvang ลีมีความภาคภูมิใจในสิ่งที่ชาวบ้านได้ประสบความสำเร็จและเชื่อว่าการฝึกอบรมของพวกเขา - ในการบริหารโครงการและการสร้างความสามารถทางเทคนิค -. ได้มีส่วนร่วมอย่างมีนัยสำคัญต่อความสำเร็จของระบบไฟฟ้าพลังน้ำของแต่ละครัวเรือนยังจ่าย6,000 กีบลาว (ประมาณ US $ 0.75) ต่อเดือน เพื่อรักษากังหันผลิตไฟฟ้าพลังน้ำและปกป้องป่า. "ทุกคนมีหน้าที่ในการอดจากการตัดหรือการเผาไหม้ต้นไม้เพื่อให้เราผลิตกระแสไฟฟ้าเพียงพอสำหรับทุกคนและสำหรับรุ่นมา" ลีกล่าวว่า

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในหมู่บ้านที่ห่างไกลในภาคเหนือของลาว keupkku settles ลงเพื่อดูข่าวภาคค่ำทางโทรทัศน์สีของเขาใหม่ ในด้านอื่น ๆของห้อง สองของลูกสาวเขาเปิดไฟเพื่อเรียนต่อ

แค่เดือนเดียวนี้คงเป็นไปไม่ได้ แต่ที่ติดตั้งใหม่ 7.5 กิโลวัตต์ โรงไฟฟ้ากังหันตอนนี้วัสดุไฟฟ้า keupkku และชุมชนชาติพันธุ์ม้ง 290 คนของเขา .
ไฮไลท์

ลาวได้สูงสุดต่อหัวน้ำประปาในเอเชีย ที่มีทั้งหมดของน้ำผิวดิน พื้นที่กว่า 55 , 000 ลูกบาศก์เมตรยกกำลังสอง .
กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรธรรมชาติในลาวคุกคามสิ่งแวดล้อมท้องถิ่น ก่อให้เกิดการทำลายป่า และการพังทลายของดิน

" ขอบคุณสำหรับการผลิตไฟฟ้าจากพลังน้ำพืชลูกสาวของฉันสามารถ ตอนนี้สนุกกับเรียนดึก กล่าวว่า keupkku .

การก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำได้รับการสนับสนุนโดยศูนย์สิ่งแวดล้อมโลก ( GEF SGP ) มอบโครงการขนาดเล็ก ซึ่งดำเนินการโดยโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ ( UNDP ) .

ไฟฟ้าความคิดริเริ่มที่ถูกเปิดตัวโดยรัฐบาลลาว ในเดือนกันยายน 2009 และมีงบประมาณรวมของสหรัฐอเมริกา $ 1.29m

GEF SGP มีวัตถุประสงค์ ที่สนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาสหัสวรรษที่ 7 :เพื่อให้สิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนผ่านโดยตรงสนับสนุนระดับชุมชนริเริ่มเพื่อการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม และการพัฒนาชนบทอย่างยั่งยืน นับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้น , มันได้รับรางวัลอย่างน้อย 17 ทุน– US $ 20 , 000 ในชุมชนและองค์กรที่ไม่หวังผลกำไรโดยเฉลี่ย

ยัง ตาม บรูโน่ cammaert หัวหน้าโครงการสิ่งแวดล้อมของสหประชาชาติในลาวความสำเร็จของไฟฟ้าอัตราการงัวหมู่บ้านจะได้รับเป็นไปไม่ได้โดยไม่ต้องทุ่มเททำงานของสมาชิกในชุมชนท้องถิ่นที่ช่วย " เพื่อจัดระเบียบและเสร็จสมบูรณ์ในโครงการ " มันเป็นพวกเขาที่แรกเสนอการก่อสร้างระบบพลังงานน้ำขนาดเล็กให้หน่วยงานจังหวัด sayaboury แล้วปลอดภัย ทุนสนับสนุนโครงการจาก GEF SGP .

สมาชิกในชุมชนก็อาสาที่จะสร้างพื้นที่น้ำลุ่มน้ำขนาดเล็ก ติดตั้งท่อและวัสดุก่อสร้างขนส่ง

ตั้งแต่สำเร็จ ระบบโรงไฟฟ้ามีผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อชีวิตของชาวบ้านซึ่งมีตัวเลือกจำกัดทำมาหากิน

ชาวบ้านเกษตรกร ปลูกข้าว สัตว์ ป่าไม้และวัสดุ ที่ไม่ใช่อาหารและยา อย่างไรก็ตามต่อการย่อยสลายของป่าไม้และพื้นที่เกษตรกรรมที่คุกคามสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่วิถีชีวิตของพวกเขาอาศัย

นอกจากนี้ ระยะไกลของหมู่บ้านทำให้ยากสำหรับชาวบ้านเหล่านี้เพื่อรักษาความปลอดภัยการสนับสนุนทางการเงินและการเมือง

แต่เข้าถึงพลังงานตลอด 24 ชั่วโมง ชาวบ้านชอบ keupkku ขณะนี้สามารถประหยัดทั้งเวลา และ เงิน

" มาก่อนเราเคยแตะยางจากต้นไม้ ในป่า หรือ ตอนนี้ไม่สามารถใช้ได้ ซื้อน้ำมันราคาแพงจากตลาด ไกล จุดเทียนเพื่อให้แสงสว่างในเวลากลางคืน กล่าวว่า keupkku . " แต่เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงชีวิตของเรา เราไม่ต้องทำแบบนี้ . . . "

keupkku ภรรยา เหมือนผู้หญิงหลายคนในหมู่บ้าน ตอนนี้สามารถใช้ตอนเย็นเธอผลิตหัตถกรรมมากขึ้น

พร้อมกับผลประโยชน์โดยตรงเหล่านี้โครงการไฟฟ้าพลังน้ำยังช่วยปกป้องสิ่งแวดล้อม ต้นไม้ที่ถูกตัดลง น้อยลง เพราะชาวบ้านสามารถใช้ไฟฟ้าขับเคลื่อนแทนการเผาไหม้ , เตาไม้และป่าได้ถูกกำหนดเป็นพื้นที่คุ้มครองเนื่องจากมันเก็บน้ำต้องผลิตไฟฟ้าพลังน้ำ .

เรื่องของต้นไม้ยังช่วยให้ฝนตกจากฤดูฝนที่ต้องเก็บไว้ในป่าตลอดทั้งปี

เหล่านี้หลายประโยชน์ของพืช hydropwer ผลกระทบทั้งเรียน งัวชุมชนที่มีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ในการสร้างความยั่งยืนของโครงการ หมู่บ้านหัว somvang ลี ภูมิใจในสิ่งที่ชาวบ้านได้สำเร็จ และเชื่อว่า–การฝึกอบรมของพวกเขาในการบริหารจัดการโครงการและอาคาร–ความสามารถทางเทคนิคที่มีส่วนอย่างมากต่อความสำเร็จของระบบพลังน้ำ

แต่ละครัวเรือนยังจ่าย 6000 กีบลาว ( ประมาณ US $ 0.75 ต่อเดือน เพื่อรักษาโรงไฟฟ้ากังหันและปกป้องป่า

" ทุกคนจะได้รับการงดเว้นจากการตัดลงหรือการเผาต้นไม้เพื่อให้เราผลิตกระแสไฟฟ้าเพียงพอสำหรับทุกคน และสำหรับรุ่นที่จะมา " บอกว่า ลี