The principle of relay coordination

The principle of relay coordination can be explained by reference to Figure 4.7 which shows
a series of radial lines and the time–distance characteristics of the associated inverse-time relays.
These are relay operating curves selected for each of the relays, plotted as a function of fault
location. Since the magnitude of the fault current decreases as the fault moves away from the
source, these curves appear ‘reversed’ when compared to those in Figure 4.5.
For fault F1 at the end farthest from the generating source, relay Rd, tripping breaker (4), operates
first; relay Rcd at breaker (3) has a higher time lever setting which includes a coordinating time
delay S to let breaker (4) trip if it can; similarly, relay Rbc, at breaker (2), coordinates with the
relay at breaker (3) by having a still longer time delay (including the same coordinating time S);
and finally, relay Rab at breaker (1) has the longest time delay and will not trip unless none of the
other breakers trips, provided it can see the fault, i.e. provided the fault current is greater than its
pickup setting. Should a fault occur between breakers (3) and (4), relay Rd will receive no current
and therefore will not operate; relay Rcd will trip, since its operating time is faster than that of
relay Rb. For the settings shown in Figure 4.7, relay Rab will not see this fault. Relay Rb must still
provide backup relaying for this fault, as discussed before

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หลักการของการประสานงานของรีเลย์ที่สามารถอธิบาย โดยอ้างอิงถึง 4.7 รูปที่แสดงชุดของเส้นรัศมีและลักษณะระยะทาง – เวลาของรีเลย์เวลาผกผันเกี่ยวข้องนี่คือรีเลย์ที่ทำงานเส้นโค้งที่เลือกสำหรับแต่ละรีเลย์ พล็อตเป็นฟังก์ชันของข้อบกพร่องสถาน เนื่องจากลดขนาดของข้อบกพร่องที่ปัจจุบันเป็นข้อบกพร่องที่ย้ายไปแหล่งที่มา เส้นโค้งเหล่านี้ปรากฏ 'ย้อนกลับ' เมื่อเทียบกับในรูปที่ 4.5 การสำหรับข้อบกพร่อง F1 ท้าย farthest from แหล่งสร้าง ถนน สะดุดตัด (4), รีเลย์ทำงานครั้งแรก รีเลย์ได้ที่ตัด (3) มีคันโยกเวลาสูงตั้งซึ่งรวมถึงการประสานเวลาเลื่อน S ให้เดินตัด (4) ถ้าสามารถ ในทำนองเดียวกัน รีเลย์ Rbc ที่ตัด (2), ประสานกับการรีเลย์ที่ตัด (3) มีการหน่วงเวลานานยังคงที่ (รวมทั้งประสานกัน S);และสุดท้าย relay Rab ที่ตัด (1) มีการหน่วงเวลาที่ยาวที่สุด และจะไม่ใช้บริการเว้นแต่ไม่มีการอื่น ๆ เบรคเกอร์ทริ ให้มันสามารถมองเห็นข้อบกพร่อง เช่นหากปัจจุบันเป็นมากกว่านั้นตั้งเบิก ข้อบกพร่องจะเกิดขึ้นระหว่างเบรกเกอร์ (3) และ (4), รีเลย์ถนนจะรับปัจจุบันไม่และดังนั้น จะไม่ มี รีเลย์ได้จะเดินทาง เนื่องจากเวลาทำงานได้เร็วกว่าที่รีเลย์ Rb การตั้งค่าแสดงในรูปที่ 4.7 รีเลย์ Rab จะไม่เห็นข้อบกพร่องนี้ รีเลย์ต้อง Rb ยังให้สำรอง relaying สำหรับข้อบกพร่องนี้ ดังที่กล่าวไว้ก่อน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หลักการของการประสานงานการถ่ายทอดสามารถอธิบายได้ด้วยการอ้างอิงถึงรูปที่ 4.7 ซึ่งแสดงให้เห็น
ชุดของสายรัศมีและลักษณะเวลาระยะทางที่เกี่ยวข้องรีเลย์ผกผันเวลา.
เหล่านี้เป็นเส้นโค้งปฏิบัติการถ่ายทอดเลือกสำหรับแต่ละรีเลย์, พล็อตเป็นฟังก์ชั่น ความผิด
สถานที่ เนื่องจากขนาดของความผิดในปัจจุบันลดลงเมื่อความผิดย้ายออกไปจาก
แหล่งที่มาของเส้นโค้งเหล่านี้จะปรากฏ 'กลับ' เมื่อเทียบกับผู้ที่อยู่ในรูปที่ 4.5.
สำหรับ F1 ความผิดในตอนท้ายสุดจากแหล่งที่ก่อให้เกิดการถ่ายทอดถสะดุดเบรกเกอร์ (4 ) ดำเนินการ
ครั้งแรก ถ่ายทอด Rcd ที่เบรกเกอร์ (3) มีการตั้งค่าเวลาคันสูงขึ้นซึ่งรวมถึงเวลาการประสานงาน
ล่าช้า S เพื่อให้เบรกเกอร์ (4) การเดินทางถ้ามันสามารถ; ในทำนองเดียวกันการถ่ายทอด Rbc ที่เบรกเกอร์ (2) ประสานงานกับ
การถ่ายทอดที่เบรกเกอร์ (3) โดยมีการหน่วงเวลานานยังคง (รวมทั้งในเวลาเดียวกันการประสานงาน S)
และสุดท้ายการถ่ายทอด Rab ที่เบรกเกอร์ (1) มีเวลาที่ยาวที่สุด ล่าช้าและจะไม่เดินทางเว้นแต่ไม่มีการ
เบรกการเดินทางอื่น ๆ ให้มันสามารถมองเห็นความผิดคือความผิดให้ปัจจุบันมีค่ามากกว่าของ
การตั้งค่ารถกระบะ ความผิดพลาดที่จะเกิดขึ้นระหว่างเบรกเกอร์ (3) และ (4), ถถ่ายทอดจะไม่ได้รับในปัจจุบัน
และจะไม่ดำเนินการ; ถ่ายทอด Rcd จะเดินทางตั้งแต่เวลาในการดำเนินงานได้เร็วขึ้นกว่าที่
ถ่ายทอด Rb สำหรับการตั้งค่าแสดงในรูปที่ 4.7 Rab ถ่ายทอดจะไม่เห็นความผิดนี้ รีเลย์ Rb ยังคงต้อง
ให้การสำรองข้อมูลสำหรับการถ่ายทอดความผิดนี้ตามที่กล่าวไว้ก่อน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หลักการประสานงาน ถ่ายทอด สามารถอธิบายได้โดยอ้างอิงจากรูปที่ 1 ซึ่งแสดง
ชุดสายรัศมี และ เวลา ระยะทาง และลักษณะของความสัมพันธ์ผกผันเวลารีเลย์ .
เหล่านี้จะถ่ายทอดงานเลือกแต่ละโค้งของรีเลย์ , พล็อตเป็นฟังก์ชันของความผิด
ที่ตั้ง เนื่องจากขนาดของความผิดปัจจุบันลดลงเป็นความผิดย้ายห่างจาก
แหล่งเส้นโค้งเหล่านี้จะปรากฏ ' กลับ ' เมื่อเปรียบเทียบกับในรูปที่ 4.5 .
สำหรับความผิด F1 ท้าย ไกลจากแหล่งสร้างรีเลย์ Rd , สะดุด , เบรกเกอร์ ( 4 ) , การถ่ายทอด
; แรก RCD ที่เบรกเกอร์ ( 3 ) ได้สูงกว่าการตั้งค่าเวลาที่คันโยกซึ่งรวมถึงการประสานงานล่าช้าเวลา
s ให้เบรกเกอร์ ( 4 ) การเดินทาง ถ้ามันสามารถ ในทํานองเดียวกัน ถ่ายทอด RBC ที่เบรกเกอร์ ( 2 ) คู่กับ
รีเลย์ที่เบรกเกอร์ ( 3 ) โดยมีความล่าช้าก็นาน ( รวมทั้งประสานงานเวลาเดียวกัน ) ;
และในที่สุด , รีเลย์ Rab ที่เบรกเกอร์ ( 1 ) มีความล่าช้าเป็นเวลานานและจะไม่ไปถ้าไม่มีของอื่น ๆการเดินทาง
แบ่งให้มันเห็นผิด คือ ให้ความผิดในปัจจุบัน มากกว่าการรับของ

หากความผิดเกิดขึ้นระหว่างเบรกเกอร์ ( 3 ) และ ( 4 )รีเลย์ RD จะได้รับในปัจจุบันไม่มี
และดังนั้นจึงจะไม่ทำงาน ; ถ่ายทอด RCD จะเดินทางตั้งแต่เวลาของปฏิบัติการเร็วกว่าที่ของ
ถ่ายทอดวป . สำหรับการตั้งค่าที่แสดงในรูปที่ 4.7 , Relay RAB จะไม่เห็นความผิดนี้ รีเลย์ RB ต้อง
ให้การสำรองข้อมูลถ่ายทอดสำหรับความผิดนี้ ตามที่กล่าวถึงก่อน