1. IntroductionAntimicrobial resist

1. Introduction
Antimicrobial resistance rates are increasing and the development of new antibiotics is slow, but the clinical burden currently posed by resistant bacteria is still perceived as low compared with other public health issues. Efforts aimed at reducing the burden of resistant bacteria, such as antimicrobial stewardship, rely upon individuals choosing to take actions that acknowledge that it is worthwhile trying to prevent the development of resistance. As many competing pressures exist in the clinical environment, allocating appropriate priority as an individual depends upon knowledge of the current situation, as well as of factors that will influence the future burden of resistance [1]. A few authors have reported that some clinicians were aware resistance was an important issue for hospitals, and that it would become a greater problem in the future [1,2]. However, very few authors have assessed how important medical students consider resistance to be, and what their perception of the issue is based on. These attitudes in turn depend of knowledge of the dynamics of resistance, and the successes of efforts to reduce the clinical burden posed by resistance.
Few authors have investigated the knowledge and attitudes of medical students on antibiotic prescribing [1,3–6]. Infections are however very common and most students who begin clinical practice will prescribe an antibiotic at some stage. The authors of studies conducted in the US, the UK, and in Ireland have consistently identified gaps in knowledge regarding antibiotic prescribing among medical students [3–6]. Only one American study had for objective to assess the knowledge, attitudes, and beliefs of medical students concerning antimicrobial use and resistance, to the best of our knowledge [1]. The authors reported that medical students acknowledged the importance of prudent antibiotic use and wanted more training on how to choose antibiotics appropriately [1]. Medical students are at a point in their clinical careers when they have time to learn in an open-minded way [1,7].

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

1 การแนะนำ
ต้านจุลชีพอัตราความต้านทานที่เพิ่มขึ้นและการพัฒนายาปฏิชีวนะใหม่จะช้า แต่ภาระทางคลินิกที่เกิดในปัจจุบันโดยแบคทีเรียทนยังคงมองว่าเป็นระดับต่ำเมื่อเทียบกับปัญหาสุขภาพที่สาธารณะอื่น ๆ ความพยายามมุ่งเป้าไปที่การลดภาระของแบคทีเรียทนเช่นดูแลต้านจุลชีพที่ขึ้นอยู่กับการเลือกบุคคลที่จะใช้การกระทำที่ยอมรับว่ามันเป็นสิ่งที่คุ้มค่าที่พยายามที่จะป้องกันการพัฒนาของความต้านทาน แรงกดดันในการแข่งขันมากที่สุดเท่าที่มีอยู่ในสภาพแวดล้อมทางคลินิกจัดสรรลำดับความสำคัญตามความเหมาะสมของแต่ละคนขึ้นอยู่กับความรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ในปัจจุบันเป็นปัจจัยที่จะมีผลต่อภาระในอนาคตของความต้านทาน [1]ผู้เขียนไม่กี่มีรายงานว่าแพทย์บางคนตระหนักถึงความต้านทานเป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับโรงพยาบาลและที่มันจะกลายเป็นปัญหามากขึ้นในอนาคต [1,2] แต่น้อยมากที่ผู้เขียนได้รับการประเมินว่ามีความสำคัญนักศึกษาแพทย์พิจารณาความต้านทานจะเป็นและสิ่งที่รับรู้ของปัญหาจะขึ้นอยู่กับ ทัศนคติเหล่านี้จะขึ้นอยู่กับความรู้เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของความต้านทานที่และความสำเร็จของความพยายามที่จะลดภาระทางคลินิกที่เกิดจากความต้านทาน.
ไม่กี่ผู้เขียนได้ศึกษาความรู้และทัศนคติของนักศึกษาแพทย์ในการสั่งจ่ายยาปฏิชีวนะ [1,3-6] แต่การติดเชื้อที่พบบ่อยมากและนักเรียนส่วนใหญ่ที่เริ่มต้นการปฏิบัติทางคลินิกจะกำหนดยาปฏิชีวนะในบางช่วง ผู้เขียนของการศึกษาดำเนินการในเรา uk,และในไอร์แลนด์มีการระบุช่องว่างในความรู้เกี่ยวกับการสั่งจ่ายยาปฏิชีวนะในหมู่นักศึกษาแพทย์ [3-6] อย่างต่อเนื่อง เพียงคนเดียวที่ศึกษาอเมริกันมีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินความรู้ทัศนคติและความเชื่อของนักศึกษาแพทย์เกี่ยวกับการใช้ยาปฏิชีวนะและความต้านทานที่ดีที่สุดของความรู้ของเรา [1]ผู้เขียนรายงานว่านักศึกษาแพทย์ได้รับการยอมรับถึงความสำคัญของการใช้ยาปฏิชีวนะที่มีปัญญาและต้องการการฝึกอบรมเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการเลือกใช้ยาปฏิชีวนะอย่างเหมาะสม [1] นักศึกษาแพทย์อยู่ที่จุดในอาชีพของพวกเขาทางคลินิกเมื่อพวกเขามีเวลาที่จะเรียนรู้ในทางที่เปิดกว้าง [1,7].

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

1. แนะนำ
ราคาพิเศษต้านทานจุลินทรีย์จะเพิ่มขึ้น และการพัฒนายาใหม่จะช้า แต่ภาระทางคลินิกในปัจจุบันเกิดจากแบคทีเรียทนถือว่ายังคงเป็นต่ำเมื่อเทียบกับปัญหาสาธารณสุขอื่น ๆ ความพยายามที่มุ่งลดภาระของแบคทีเรียทน เช่นดูแลจุลินทรีย์ ถือบุคคลที่ต้องดำเนินการที่ยอมรับว่า จะพยายามป้องกันการพัฒนาของความต้านทานคุ้มค่า เป็นความดันแข่งขันในอยู่ในสภาพแวดล้อมทางคลินิก ปันส่วนความสำคัญที่เหมาะสมเป็นแต่ละขึ้นอยู่ตามความรู้ ของสถานการณ์ปัจจุบัน และปัจจัยที่จะส่งผลต่อภาระในอนาคตต้าน [1] ผู้เขียนไม่มีรายงานว่า บาง clinicians ได้ตระหนักถึงความต้านทานคือ ประเด็นสำคัญสำหรับโรงพยาบาล และมันจะกลายเป็นมากกว่าปัญหาในอนาคต [1, 2] อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนน้อยมากได้ประเมินความสำคัญแพทย์นักเรียนพิจารณาความต้านทานจะ และว่าการรับรู้ปัญหาจะขึ้นอยู่กับ ทัศนคติเหล่านี้จะขึ้นอยู่กับความรู้ของความต้านทาน และความสำเร็จของความพยายามที่จะลดภาระทางคลินิกโดยต้านทาน
ผู้เขียนไม่ได้ตรวจสอบความรู้และทัศนคติของนักศึกษาแพทย์ในยาปฏิชีวนะกำหนด [3–6 1 ] การติดเชื้อจะมากอย่างไรก็ตามทั่วไปและนักเรียนผู้เริ่มต้นปฏิบัติทางคลินิกจะกำหนดเป็นยาปฏิชีวนะในบางขั้นตอน ผู้เขียนศึกษาในสหรัฐอเมริกา อังกฤษ และในไอร์แลนด์ได้อย่างสม่ำเสมอระบุช่องว่างในความรู้เกี่ยวกับยาปฏิชีวนะกำหนดระหว่างนักศึกษาแพทย์ [3–6] อเมริกันศึกษาเดียวมีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินความรู้ ทัศนคติ และความเชื่อของนักศึกษาแพทย์ที่เกี่ยวกับการใช้จุลินทรีย์และต้านทาน กับความรู้ของเรา [1] ผู้เขียนรายงานว่า นักศึกษาแพทย์รับทราบความสำคัญของการใช้ยาปฏิชีวนะที่ระมัดระวัง และต้องฝึกอบรมเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการเลือกยาปฏิชีวนะอย่างเหมาะสม [1] นักศึกษาแพทย์มีที่จุดในงานทางคลินิกของพวกเขาเมื่อพวกเขามีเวลาที่จะเรียนรู้ในทางที่เปิดกว้าง [1,7] .

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

1 . อัตราการต่อต้านกลุ่มยาปฎิชีวนะชนิดการแนะนำ
ซึ่งจะช่วยเพิ่มขึ้นและการพัฒนาของยาปฏิชีวนะใหม่ได้ช้าแต่ ภาระ ทางการแพทย์ในปัจจุบันเกิดจากเชื้อแบคทีเรียชนิดทนเป็นระดับต่ำเมื่อเทียบกับปัญหา สุขภาพ ของประชาชนอื่นๆยังคงอยู่ ความพยายามในการลด ภาระ ของเชื้อแบคทีเรียเช่นฝึกกันชนิดใช้เมื่อผู้ใช้แต่ละรายเลือกที่จะให้มีการดำเนินการที่ยอมรับว่านี่คือความคุ้มค่ากำลังพยายามเพื่อป้องกันไม่ให้การพัฒนาของการต่อต้าน เป็นแรงกดดันแข่งขันจำนวนมากมีอยู่ในสิ่งแวดล้อมทางการแพทย์ที่จัดสรรลำดับความสำคัญตามความเหมาะสมแต่ละบุคคลที่จะขึ้นอยู่กับความรู้ของสถานการณ์ในปัจจุบันได้เป็นอย่างดีเป็นของปัจจัยที่จะส่งผลกระทบต่อ ภาระ ในอนาคตของการต่อต้าน[ 1 ]ผู้เขียนไม่กี่ที่มีรายงานว่าบางส่วนได้รับรู้ถึงทำงานเกี่ยวกับการต่อต้านเป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับโรงพยาบาลและว่ามันจะกลายเป็นปัญหามากขึ้นในอนาคต 1,2 [] แต่ถึงอย่างไรก็ตามผู้เขียนจำนวนไม่มากนักจะมีการประเมินผลการปฏิบัติได้อย่างไรที่สำคัญนักศึกษาแพทย์พิจารณาการต่อต้านการทำได้และสิ่งที่สร้างการรับรู้ของปัญหานี้อยู่บนพื้นฐาน ท่าทีเหล่านี้ในการเปิดขึ้นอยู่กับลักษณะของความรู้ในเรื่องของการต่อต้านและความสำเร็จที่ได้จากความพยายามในการช่วยลด ภาระ ทางการแพทย์ที่เกิดจากการต่อต้าน.
ไม่กี่ผู้แต่งมีการสอบสวนและทัศนคติความรู้ของนักเรียนทางการแพทย์ในการกำหนดปฏิชีวนะ 1,3 [ 6 ] ถึงอย่างไรก็ตามยังมีการติดเชื้อเป็นอย่างมากโดยทั่วไปและนักเรียนส่วนใหญ่ผู้ซึ่งเริ่มต้นการปฏิบัติทางการแพทย์จะกำหนดปฏิชีวนะที่เวทีบางส่วน ผู้เขียนได้ทำการศึกษาวิจัยในสหรัฐฯที่ประเทศอังกฤษได้และในไอร์แลนด์เหนือได้อย่างต่อเนื่องระบุว่าช่องว่างในความรู้เกี่ยวกับการกำหนดปฏิชีวนะในหมู่นักศึกษาแพทย์ 3-6 3-6 3-6 3-6 [] เพียงคนเดียวการศึกษาแบบอเมริกันได้สำหรับวัตถุประสงค์ในการประเมินความรู้ที่ความเชื่อและทัศนคติของนักเรียนทางการแพทย์เกี่ยวกับการต่อต้านและใช้กลุ่มยาปฎิชีวนะชนิดเพื่อไปยังสถานที่ที่ดีที่สุดของความรู้ของเรา[ 1 ]ผู้เขียนที่ได้รับรายงานว่านักศึกษาแพทย์เล็งเห็นความสำคัญของการนำไปใช้งานปฏิชีวนะรอบคอบและต้องการการฝึกอบรมเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการเลือกยาปฏิชีวนะอย่างเหมาะสม[ 1 ] นักศึกษาแพทย์อยู่ที่จุดนัดพบในอาชีพทางการแพทย์ของพวกเขาเมื่อพวกเขาได้มีเวลาในการเรียนรู้ในวิธีการเปิดใจลอยที่[ 1,7 ].