The Compton effect (also called Com

The Compton effect (also called Compton scattering) is the result of a high-energy photon colliding with a target, which releases loosely bound electrons from the outer shell of the atom or molecule. The scattered radiation experiences a wavelength shift that cannot be explained in terms of classical wave theory, thus lending support to Einstein's photon theory. Probably the most important implication of the effect is that it showed light could not be fully explained according to wave phenomena. Compton scattering is one example of a type of inelastic scattering of light by a charged particle. Nuclear scattering also occurs, although the Compton effect typically refers to the interaction with electrons.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผลคอมป์ตัน (เรียกว่าคอมป์ตัน scattering) เป็นผลของโฟตอนที่มีพลังงานสูงชนกับเป้าหมาย ซึ่งอิเล็กตรอนที่ถูกผูกไว้หลวม ๆ จากเปลือกนอกของอะตอมหรือโมเลกุลปล่อย รังสีกระจายประสบการณ์กะความยาวคลื่นที่ไม่สามารถอธิบายได้ในแง่ของทฤษฎีคลื่นคลาสสิก จึง ให้ยืมสนับสนุนทฤษฎีโฟตอนของไอน์สไตน์ นัยสำคัญของผลกระทบจะว่า มันแสดงแสงไม่สามารถเต็มที่อธิบายตามปรากฏการณ์คลื่น คอมป์ตันกระจายเป็นตัวอย่างหนึ่งของ inelastic scattering ของแสงโดยมีอนุภาคชนิดหนึ่ง กระเจิงนิวเคลียร์ยังเกิดขึ้น แม้ว่าผลคอมป์ตันโดยทั่วไปหมายถึงการโต้ตอบกับอิเล็กตรอน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

คอมป์ตันผล (ที่เรียกว่าคอมป์ตันกระเจิง) เป็นผลมาจากโฟตอนพลังงานสูงชนกับเป้าหมายซึ่งปล่อยอิเล็กตรอนที่ถูกผูกไว้อย่างหลวม ๆ จากเปลือกนอกของอะตอมหรือโมเลกุล รังสีกระจัดกระจายประสบการณ์การเปลี่ยนแปลงความยาวคลื่นที่ไม่สามารถอธิบายได้ในแง่ของทฤษฎีคลื่นคลาสสิกจึงยืมสนับสนุนทฤษฎีโฟตอนของ Einstein น่าจะเป็นความหมายที่สำคัญที่สุดของผลที่ได้คือว่ามันแสดงให้เห็นว่าแสงไม่สามารถอธิบายได้ครบถ้วนตามปรากฏการณ์คลื่น คอมป์ตันกระเจิงเป็นหนึ่งในตัวอย่างของประเภทของการกระเจิงของแสงยืดหยุ่นโดยอนุภาคที่เรียกเก็บ กระเจิงนิวเคลียร์ยังเกิดขึ้นแม้จะมีผลกระทบคอมป์ตันมักจะหมายถึงการมีปฏิสัมพันธ์กับอิเล็กตรอน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผลในคอมป์ตัน ( เรียกว่าการกระเจิงคอมป์ตัน ) คือผลของพลังงานโฟตอนชนกับเป้าหมาย ซึ่งออกไว้หลวมอิเล็กตรอนจากเปลือกนอกของอะตอมหรือโมเลกุล การกระจายรังสีที่มีความยาวคลื่นเปลี่ยนที่ไม่สามารถอธิบายได้ในแง่ของทฤษฎีคลื่นคลาสสิกจึงให้ยืมสนับสนุนของไอน์สไตน์ทฤษฎีโฟตอน . อาจนัยที่สำคัญที่สุดของผลกระทบที่พบแสงไม่สามารถอธิบายได้อย่างเต็มที่ตามปรากฏการณ์คลื่น การกระเจิงคอมป์ตันเป็นหนึ่งในตัวอย่างของประเภทของความยืดหยุ่นของการกระเจิงของแสง โดยประจุอนุภาค นิวเคลียร์การกระเจิงคอมป์ตันยังเกิดขึ้น แม้ว่าผลกระทบโดยทั่วไปหมายถึงการปฏิสัมพันธ์กับอิเล็กตรอน